คำตอบสำหรับหัวข้อบทความนี้ที่ง่ายที่สุดคือยิ่งตลาดซื้อขายเปิดให้ลงทุนนานเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับนักลงทุนก็มีน้อยลงเท่านั้น การมีเวลาเปิดปิดตลาดที่แน่นอนอย่างเช่นในตลาดหุ้นทำให้ปริมาณการซื้อขายถูกบีบอัดอยู่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่การเปิดตลาดตลอด 24 ชั่วโมง เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนเวลาใดก็ได้
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีที่มีข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเกิดขึ้น นักลงทุนสามารถตัดสินใจแก้ไขพอร์ตลงทุนได้ทันที ในขณะที่ถ้าเป็นตลาดหุ้นทั่วไป สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการรอให้ตลาดหุ้นเปิด จึงจะมีสิทธิ์แก้ไขคำสั่งซื้อขายได้ ซึ่งในบางครั้งมันก็สายเกินแก้ไปแล้ว
ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้ายิ่งเป็นตลาดที่ขึ้นอยู่กับการเข่าวต่างประเทศเป็นอย่างมาก ประเทศขนาดเล็กไม่มีอำนาจการกำหนดราคาการซื้อขายทองคำและเงิน ข้าวโพดถั่วเหลือง น้ำมันดิบ และอื่นๆ ในประเทศ การเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับรูปแบบอุปสงค์และอุปทานของตลาดลงทุนต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นและตลาดฟิวเจอร์สแบบดั้งเดิม ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) มีข้อดีหลายประการ ที่ชัดเจนที่สุดคือการอนุญาตให้เทรดได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง กระแสเงินทุนในตลาดฟอเร็กซ์มาจากพนักงานออฟฟิศ ซึ่งไม่ค่อยมีเวลาดูกราฟระหว่างวัน หลังจากที่พนักงานออฟฟิศเลิกงาน หรือต้องไปทำงานตั้งแต่ 6 หรือ 7 โมงเช้า ตลาดซื้อขายหุ้นและตลาดซื้อขายล่วงหน้าก็อาจจะยังไม่เปิดหรือปิดตลาดไปแล้ว กลายเป็นการปิดโอกาสการลงทุนไปโดยปริยาย
แต่สำหรับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ช่วงเวลาเลิกงานเป็นเวลาที่ตลาดลงทุนมีปริมาณการซื้อขายมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากไทม์โซนยุโรปมาเป็นฝั่งสหรัฐอเมริกา แทนที่จะใช้เวลาไปกับการนั่งดูซีรีย์ จะดีกว่าไหมถ้าจะเปิดโปรแกรม MT4 ของคุณขึ้นมา และเข้าสู่ตลาดลงทุนเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าเพิ่ม
แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมตลาดฟอเร็กซ์ถึงสามารถเปิดให้ลงทุนได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง?
ความจริงแล้วตลาดแห่งนี้ได้มีแยกชั่วโมงสำหรับการเทรดออกไปโซน ในระหว่างแต่ละวัน ตามตลาดลงทุนฝั่งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เราจะแบ่งเวลา 24 ชั่วโมงออกเป็นสามช่วงเวลา ได้แก่ เซสชั่นเอเชีย (โตเกียวเป็นตลาดซื้อขายหลัก) เซสชั่นยุโรป (ลอนดอนเป็นตลาดซื้อขายหลัก) เซสชั่นทวีปอเมริกา (นิวยอร์กเป็นตลาดซื้อขายหลัก) ทั้งสามช่วงเวลาจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป จนเราดูเหมือนว่ากราฟใน MT4 ไม่เคยหยุดนิ่ง
1. ตลาดซื้อขายฝั่งเอเชีย
ในขณะที่โลกหมุนจากตะวันตกไปตะวันออก ทุกต้นสัปดาห์ เอเชียจะเข้าสู่วันจันทร์ก่อน ในขณะที่ยุโรปและอเมริกาจะล่าช้าไปตามความแตกต่างของเวลา ด้วยสัจธรรมนี้ เมื่อตลาดฟอเร็กซ์เปิดในวันจันทร์ ปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันจะเริ่มต้นมาจากเวลลิงตันในเอเชีย เมื่อปิดตลาดในวันศุกร์ คำสั่งซื้อขายสุดท้ายมาจากนิวยอร์กในอเมริกาเหนือ
สิ่งที่ต้องเตือนคือความแตกต่างของเวลา ทำให้เวลาเปิดทำการในวันจันทร์สำหรับนักลงทุนขาวจีนไม่ใช่ 0:00 ในตอนเช้า แต่เป็น 06:00 ในตอนเช้า (เวลาฤดูหนาว)/5:00 (เวลาออมแสง) วันศุกร์ เวลาปิดจะไม่ใช่ 24:00 น. แต่ 4:00 น. (เวลาฤดูหนาว)/3:00 (เวลาออมแสง) ในเช้าวันเสาร์ ในรอบของวัน ตามลําดับของรุ่งสาง เมืองที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ เวลลิงตัน ซิดนีย์ โตเกียว ฮ่องกง สิงคโปร์ แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน และนิวยอร์ก โดยทั่วไปแล้ว คนมักจะคิดว่าการเทรดในฝั่งเอเชียสิ้นสุดเวลา 16:00 น. (เวลาฤดูหนาว)/15:00 (เวลาออมแสง) ซึ่งเป็นช่วงปิดตลาดหุ้นของประเทศของสิงคโปร์
2. ตลาดซื้อขายฝั่งยุโรป
เมืองที่มีการซื้อขายระหว่างเซสชันยุโรปมากที่สุดคือกรุงลอนดอน แต่สำหรับตลาดยุโรป เมืองแรกที่ได้รับแสงรุ่งอรุณก่อนจะเป็นแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เมื่อเทียบเวลาระหว่างตลาดยุโรปและตลาดเอเชีย จะเท่ากับเวลา 16:00 น. (เวลาฤดูหนาว)/15:00 (เวลาออมแสง) หลังจากแปดชั่วโมงจนถึง 24:30 น. (เวลาฤดูหนาว)/23:30 น. ( เวลาออมแสง) ) จะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดซื้อขายฝั่งยุโรปปิดทำการ
เนื่องจากตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศส่วนใหญ่มีการซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และสกุลเงินหลักอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่จะเชื่อว่าความผันผวนของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงตลาดเอเชียมีขนาดเล็กมาก ที่สำคัญ เมื่อตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิด ก็จะเห็นปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุผลเช่นนี้ เราจึงสามารถพบเห็นได้ว่า กราฟตัวเดียวกันที่เทรดในช่วงเวลาต่างกัน กลับมีพฤติกรรมการวิ่งของราคาต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น EURUSD ปิดบวกในช่วงตลาดลงทุนฝั่งเอเชีย แต่เมื่อเทรดไปจนถึงช่วงตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาปิด กลับกลายเป้นว่ากราฟ EURUSD นั้นปรับตัวลดลง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเลือกคู่สกุลเงินให้เหมาะสมกับนักลงทุนจึงมีความสำคัญ เพราะยังมีสกุลเงินอื่น ที่ไม่ใช่ EURUSD ให้นักลงทุนได้เลือกอีกมากมายเช่น USDJPY, AUDUSD, NZDUSD, USDHKD เป็นต้น
3. ตลาดซื้อขายฝั่งสหรัฐอเมริกา
ตลาดหลักทรัพย์หลักของโลกอยู่ที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลาดแห่งนี้เปิดให้ทำการเวลา 21:30 น. (เวลาฤดูหนาว) / 20:30 น. (เวลาฤดูร้อน) เวลาปักกิ่ง และเวลาออฟไลน์คือ 4:00 น. (เวลาฤดูหนาว) / 3 วันถัดไป :00 น. (เวลาออมแสง)
เนื่องจากตลาดยุโรปยังไม่ปิดทำการตอนสองทุ่ม จึงมีช่วงทับซ้อนกันระหว่างตลาดยุโรปและตลาดสหรัฐอเมริกาเป้นเวลาประมาณสามชั่วโมง ตามทฤษฎีแล้ว ความผันผวนของเวลาที่ทับซ้อนกันนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด แต่ในความเป็นจริง มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ “ช่วงเวลา”
นั่นจึงเป็นเหตุว่าผลว่าทำไมในช่วงที่ตลาดลงทุนฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ เปิด จึงมีสัดส่วนของนักลงทุนเอเชียน้อยกว่า เพราะเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเที่ยงคืนโดยประมาณของทางฝั่งเอเชีย น้อยคนนักที่จะยอมโต้รุ่งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม MT4 ถึงได้มีระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ (EA) ที่จะคอยเปิดคำสั่งซื้อขายตามคำสั่ง ในขณะที่เจ้านายกำลังหลับอยู่
เพราะขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาคิดเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ของ GDP โลก ดังนั้นความเคลื่อนไหวในตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนถึงเฝ้ารอดูวันศุกร์แรกของเดือนใหม่ ที่จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนของสหรัฐฯ และจำเป็นต้องเฝ้ารอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยปกติแล้วตัวเลขการจ้างงานจะประกาศเวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย และ 20:30 น. ในช่วงฤดูหนาว ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ มักเกิดขึ้นในช่วงตี 1 ตามเวลาประเทศไทย และในช่วงหน้าหนาวก็จะเป็นตี 2
โดยสรุปแล้ว
เวลาฤดูหนาวและฤดูร้อนที่ถูกกล่าวถึงข้างต้นอยู่บ่อยๆ คือเวลาในช่วงฤดูร้อนมักจะเริ่มเร็วขึ้นเสมอ ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ชาวยุโรปจะปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงเมื่อถึงเวลาออมแสง
เมื่อถึงฤดูหนาวมาถึง นาฬิกาจะปรับเข้าสู่สภาวะปกติ ดังนั้นความแตกต่างระหว่างเวลาฤดูหนาวและเวลาออมแสงจะอยู่ที่หนึ่งชั่วโมงเสมอ
เวลาออมแสงจะเร็วขึ้น เพื่อความสะดวกในการจดจำ ผู้เขียนได้ให้วิธีง่ายๆ ในการทำความเข้าใจเวลาฤดูหนาวและฤดูร้อน: เวลาในฤดูร้อนตรงกับเดือน (5/6/7/8/9/10) 20:30 น.; เวลาฤดูหนาวตรงกับเดือน (11/12/ 1/2/3/4) เป็นเวลาหกเดือน หรือเพียงจำเป็นประโยคสั้นๆ ว่า ช่วงเวลาในฤดูหนาวจะเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และเวลาออมแสงจะเริ่มต้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนเมษายน
เรียนรู้การลงทุนด้วยการเปิดบัญชี MT4 หรือทดลองเทรดในบัญชีเงินสมมุติเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้เลย!