ด่านแนวต้านของหุ้นแอปเปิล (AAPL) ในช่วงที่ผ่านมาในที่สุดก็ถูกเจาะได้เป็นที่เรียบร้อยจากการประกาศแผน “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” (BNPL) ของบริษัท
กราฟหุ้น AAPL รายสัปดาห์
Apple จะเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคในการรับเงินกู้มูลค่า 50-1,000 ดอลลาร์ โดยมีระยะเวลาชำระเงินเป็นเวลาหกสัปดาห์ นักวิเคราะห์กำลังมองหาตัวเลือกการชำระเงินที่แตกต่างกันจะช่วยเพิ่มรายได้เพิ่มเติมให้กับบริษัท
ขณะนี้ หุ้น AAPL สามารถทะลุแนวต้านที่ $157.50 ได้แล้ว และอาจมุ่งหน้าขึ้นสู่ระดับ $165 ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปยัง $175 แม้ว่าก่อนหน้านี้ผลิตภัณฑ์ของ Apple จะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งบางรายมานานแล้ว แต่กลยุทธ์นี้อาจมีผู้บริโภครายใหม่ให้ความสนใจมากขึ้น
Apple เปิดทางเลือกการชำระเงินที่มีความยืดหยุ่น
กลยุทธ์ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” มีการประกาศครั้งแรกในงาน WDC ของปีก่อน งาน WDC นี้จะเปิดตัวซอฟท์แวร์ หรือบริการต่างๆ พร้อมข้อมูลวันวางจำหน่ายสินค้าต่างๆ ของบริษัทในปีนั้นๆ ก่อนที่จะเปิดให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี ในการประชุม WDC ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ เราอาจได้เห็นการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดตัวชุดหูฟังเสมือนจริงอย่างที่สื่อหลายสำนักคาดการณ์ไว้
มีข่าวลือว่าชุดหูฟังใหม่มีราคาประมาณ 2,499 ดอลลาร์ และบริษัทแอปเปิลจำเป็นต้องใได้รับสนับสนุนจากลูกค้าหากพวกเขามีความต้องการผลิตภัณฑ์หูฟังตัวนี้เป็นอย่างมาก เทรนด์ BNPL ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บริษัท Affirm กำลังร่วมมือกับ American Airlines ภายใต้บริการ “บินตอนนี้ จ่ายทีหลัง” ธนาคารชาเลนเจอร์ต้องการเข้าร่วมทำโครงการ BNPL ด้วยเพื่อต่อสู้กับการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ โกลด์แมน แซกส์คาดว่าหุ้น Apple มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึงราคาเป้าหมายที่ 199 ดอลลาร์ Michael Ng นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนฯ กล่าวว่า “เราจัดอันดับหุ้น AAPL เป็น Buy เพราะเราเชื่อว่าการที่ตลาดแค่ให้ความสนใจไปที่การเติบโตของรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ลดลง โดยหลงลืมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศระหว่างสินค้าของ Apple รวมถึงความทนทานและความสามารถในการทำรายได้ที่สูงขึ้นในอนาคต”
“ความสำเร็จของ Apple ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ชั้นนำและความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ส่งผลให้ฐานผู้ใช้มีแต่จะเพิ่มขึ้น” ไมเคิลกล่าว
บริษัทสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับความภักดีที่ลูกค้ามีต่อสินค้าแอปเปิลได้มากขึ้นด้วยตัวเลือกการชำระเงินแบบ BNPL เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังคงเป็นที่ต้องการทั่วโลก อนึ่ง หุ้น Apple ไม่ได้รับการโหวตจากโกลด์แมน แซกส์ให้เป็นหุ้นในกลุ่ม “น่าซื้อ” มาเป็นเวลา 6 ปี และราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้น 300% นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา