คู่กราฟ AUDCAD ในวันนี้อาจเต็มไปด้วยความผันผวนเมื่อทั้งสองสกุลเงินมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญพร้อมกัน ในเซสชันเอเชีย นักลงทุนจะได้ทราบข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลีย และในช่วงเซสชันอเมริกา ก็จะได้ทราบผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของแคนาดา
กราฟ AUDCAD รายวัน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดอลลาร์แคนาดาถือว่าแข็งค่ามากกว่าดอลลาร์ออสเตรเลียนั่นจึงทำให้คู่ AUDCAD ลงไปวิ่งอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุด 0.8600 หากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาหนุนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียให้แข็งค่า การปรับตัวขึ้นสูงกว่า 0.8750 อาจกระตุ้นให้เกิดการรีบาวด์ได้ แนวต้านแรกสำที่คู่กราฟต้องเผชิญคือ 0.8800-0.8900
วิกฤตค่าครองชีพของออสเตรเลียคาดว่าจะแย่ลงก่อนที่จะดีขึ้น ราคาพลังงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 56% และต้นทุนเชื้อเพลิงอาจจะเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 10% อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงการคลังออสเตรเลีย การที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศทำจุดสูงสุดในรอบ 32 ปีหมายความว่าชาวออสเตรเลียจะต้องทนทุกข์กับค่าจ้างที่จะมีกำลังซื้อน้อยลงไปจนถึงอย่างน้อยปี 2024
จิม ชาลเมอร์ส รมว.คลังออสเตรเลีย ได้ประกาศรายงานงบประมาณครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี ในรายงานนั้นกล่าวว่าต้นทุนที่สูงขึ้นจะทำให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นอีกสองปี “แม้ค่าจ้างในตอนนี้เพิ่มขึ้นเร็วกว่าก่อนการเลือกตั้ง แต่ข่าวร้ายก็คือมันมาพร้อมกับราคาไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นและความต้องการรับประทานอาหารเป็นห่อๆ ที่มีมากขึ้น” เขากล่าวกับรัฐสภา “เมื่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับปานกลาง ค่าจ้างที่แท้จริงก็คาดว่าจะเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปี 2024”
ตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจบังคับให้ธนาคารกลางออสเตรเลียต้องยิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนักขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินแคนาดา ตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียในวันอังคารคาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 7% เพิ่มขึ้น 6.1% อย่างไรก็ตาม RBA ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมครั้งล่าสุด ทั้งๆ ที่นักลงทุนในตลาดเชื่อว่าไม่ว่าอย่างไร RBA ก็ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps
ธนาคารกลางแห่งประเทศแคนาดาถูกคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ห้าในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายเนื่องจากความกังวลที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจจะถดถอย นักลงทุนต่างเชื่อว่า BOC จะปรับอัตราดอกเบี้ยในวันพุธขึ้น 75 จุดเบสิส ซึ่งจะทำให้อัตราอ้างอิงกลายเป็น 4%
ทิฟ แมคเลม (Tiff Macklem) ผู้ว่าการ BOC กล่าวว่าธนาคารกลางจะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปจนกว่าจะมี “หลักฐานที่ชัดเจน” ว่าอัตราเงินเฟ้อจากระดับ 7% ได้กลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางที่ 2%