บิตคอยน์ยังคงพยายามที่จะยืนอยู่เหนือระดับแนวรับ $80,000 ท่ามกลางโอกาสที่ราคาอาจจะปรับตัวลดลงต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้
กราฟ BTCUSD รายสัปดาห์
ราคาของ BTCUSD ผันผวนในสัปดาห์นี้ และหากไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ อาจส่งผลให้มีการขายทะลุระดับ 73,745 ดอลลาร์
กราฟรายสัปดาห์ให้ภาพแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น ราคา BTC ยังคงซื้อขายต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ประมาณ 95,000 ดอลลาร์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้มีการปรับฐานบางส่วน แต่หากไม่สามารถทะลุ 80,000-90,000 ดอลลาร์ได้ ก็ทำให้สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้อยู่ในสภาวะที่เปราะบาง
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรทำให้มีเงินไหลออกของ Bitcoin ETF มากเป็นประวัติการณ์ เงินมูลค่า 326 ล้านดอลลาร์ออกจากเครื่องมือการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการไหลออกในวันเดียวที่มากที่สุดตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม และส่งสัญญาณว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
กองทุน IBIT ของ BlackRock ซึ่งเป็นหนึ่งใน Bitcoin ETF ชั้นนำ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีเงินไหลออก 253 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่อันดับที่สามในวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ เงินไหลออกจำนวนมากดังกล่าวยังเพิ่มระยะเวลาการขาดทุนให้ยาวนานถึงสี่วัน
ภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ที่มีผลกระทบกับทั่วโลกถูกเลื่อนออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ตลาดพันธบัตรเกิดความตื่นตระหนก และความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนถอนเงินบางส่วนออกจากโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
กองทุน ETF ของบิตคอยน์ไม่ได้แยกออกจากกัน การขายสกุลเงินดิจิทัลสร้างความเดือดร้อนให้กับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เนื่องจากกองทุน ETF ของ Ethereum ก็เห็นกระแสเงินไหลออกในวันอังคารเช่นกัน มีเงิน 3.3 ล้านดอลลาร์ถูกถอนออกจากกองทุน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลในภาพรวมกำลังปรับตัวลดลง
การปรับฐานของบิตคอยน์ในปัจจุบันเน้นย้ำให้เห็นโอกาสที่ราคาจะลดลงต่อไปหากไม่มีผู้ซื้อเข้ามา บรรยากาศการลงทุนของตลาดเกี่ยวกับแผนการพัฒนาด้านสกุลเงินดิจิทัลของทรัมป์ได้เปลี่ยนไป และหุ้นเทคโนโลยีก็ได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ความต้องการ BTC และโอกาสในการย้ายเงินทุนจากหุ้นไปยังสกุลเงินดิจิทัลลดลง