เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนได้ย่อตัวลดลงอีกครั้งก่อนการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาในวันพฤหัสบดี ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือในวันเดียวกันนี้จะมีการรายงานผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) และข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันอีกด้วย
กราฟ CHI50 รายสัปดาห์
จากรูปการวิเคราะห์กราฟรายสัปดาห์จะเห็นว่า CHI50 กำลังลงทดสอบระดับแนวรับที่สำคัญ ที่มีมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ 12,600 ดังนั้นข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจและการประชุมของรัฐบาลจีนจะมีส่วนสำคัญกับการกำหนดทิศทางการเคลื่อนตัวของดัชนี CHI50 ต่อไปในอนาคต
การประชุมแห่งชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) เข้าร่วมการประชุม ซึ่งสื่อต่างคาดกันว่าเขาจะได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีนี้เป็นวาระที่สามของประวัติศาสตร์ชาติจีน
เพราะการประชุมครั้งนี้จะกินเวลายาวตลอดทั้งสัปดาห์หน้า เราจึงเชื่อว่าดัชนี CHI50 จะเคลื่อนไหวอย่างผันผวนไปตลอดทั้งสัปดาห์ หัวข้อในการประชุมครั้งนี้อาจมีพูดถึงเรื่องความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศ
จีนยังคงต้องรับผลกระทบจากนโยบายซีโร่โควิดอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบันก็ชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่การเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลง RBC กล่าวว่าราคาน้ำมันอาจร่วงลงสู่ 60 ดอลลาร์ในปีหน้า หากเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
RBC ให้เหตุผลถึงการวิเคราะห์ของตัวเองว่า “มันมีสาเหตุมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นแรงเกินคาด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก การที่จีนไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายซีโร่โควิด และเฟดที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงกำลังกัดกินเศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็วและทำลายล้างสิ่งต่างๆ”
“ภัยคุกคามระดับมหภาคดังกล่าวเกิดขึ้นจริงและนำไปสู่สถานการณ์ที่คล้ายกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย สินทรัพย์เสี่ยงกำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะที่นักลงทุนต่างแสวงหาสินทรัพย์ที่สามารถเป็นหลุมหลบภัยให้กับพวกเขาได้”
โชคร้ายที่ภาพรวมการลงทุนในปัจจุบันที่กระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอาจดำเนินต่อไป จีนยังคงยึดมั่นกับนโยบายซีโร่โควิดในขณะที่จะมีการรายงานอัตราเงินเฟ้อของจีนในวันพฤหัสบดี ตามด้วยตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีและสหรัฐฯ ข้อมูลนี้จะสามารถบอกกับนักลงทุนได้ว่าฝั่งภาครัฐของแต่ละประเทศมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปหรือไม่
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์ GCP สำหรับเศรษฐกิจจีนลงในปี 2022 เป็น 3.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.3% เล็กน้อย สถาบันในวอชิงตันยังคาดการณ์ว่าการเติบโตของจีนในปีหน้าจะลดลงจาก 4.6% เป็น 4.4% นั่นคือเกือบครึ่งหนึ่งของการขยายตัว 8.1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021
กุญแจสำคัญคือผลการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสัปดาห์หน้า หาก สี จิ้นผิงยังคงได้วาระที่สามต่อไปก็อาจถือได้ว่าเป็นความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจ นักลงทุนจะจับตาดูความสมดุลของอำนาจรัฐบาลเพื่อดูว่าจะมีความเสี่ยงต่อการลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่
ในวันนี้ให้จับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีที่ทำสถิติสูงสุดที่ 10% เมื่อเดือนที่แล้ว ถึงจะออกมาสูงเช่นนั้นแต่ก็ยังดีกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของยอรมนีและสหรัฐอเมริกาอาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยิ่งทรุดตัวลงหนักมากกว่าที่เป็นอยู่