การที่พรรคประชานิยมในยุโรปได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้นทำให้คู่อัตราแลกเปลี่ยน EURUSD ต้องร่วงลง
กราฟ EURUSD รายวัน
EURUSD ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผลการเลือกตั้ง และเราสังเกตเห็นการต่อต้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
NFP ที่แข็งแกร่งขึ้นได้่ทำให้คนปล่อยมือจากเงิน EUR และการเลือกตั้งส่งผลให้เงินยูโรไปทดสอบที่ 1.0735 การอ่อนค่าของสกุลเงินอาจคงอยู่จนกว่าผลการเลือกตั้งจะได้รับการยืนยัน
สิ่งที่น่าตกใจครั้งใหญ่ที่สุดในแวดวงการเมืองยุโรปคือการเสียกระแสความนิยมครั้งใหญ่ของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เขาประกาศให้มีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว เสี่ยงเดิมพันทางการเมืองครั้งใหญ่ ซึ่งอาจทำให้เขาต้องเสียที่นั่งในโต๊ะสภายุโรป ผลการเลือกตั้งทำให้ประธานาธิบดีเบลเยียมก้าวลงจากตำแหน่ง ในขณะที่พรรคประชานิยมในเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีต่างก็ได้เสียงเห็นชอบมากขึ้น
ในการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคเหล่านี้สนับสนุนการออกจากสหภาพยุโรปหรือการใช้สกุลเงินเดียว อย่างไรก็ตาม ท่าทางของพวกเขาในตอนนี้ดูเหมือนจะควบคุมมันจากภายในได้มากขึ้น
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ RAI พรรคขวาจัดของ Giorgia Meloni ก็ได้รับคะแนนเสียงจากอิตาลีมากที่สุดเช่นกัน
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่มีเพิ่มขึ้น แต่ความไม่มั่นใจในหมู่เทรดเดอร์กลับเข้ามาในความคิดของพวกเขาอีกครั้งหลังจากผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุด อาจนำไปสู่ความสับสนในอีกไม่กี่สัปดาห์และเดือนข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์กล่าวว่าผลการเลือกตั้งในยุโรปส่งผลเสียต่อพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมนีเมื่อวันจันทร์
พรรค SDP ของนายชอลซ์มาเป็นอันดับสามตามหลังสหภาพคริสเตียนประชาธิปไตยและพรรค Afd ที่เป็นขวาจัด
“ไม่มีใครได้รับคำแนะนำอย่างดีว้่าให้กลับไปทำธุรกิจได้ตามปกติ” นายชอลซ์กล่าว พร้อมเสริมว่าการได้รับผลประโยชน์จากพรรคขวาจัดอาจทำให้ภูมิภาคสั่นคลอนได้
“เราต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณจะไม่มีวันชินกับมันได้ และจะต้องเป็นงานของเราเสมอที่จะดันพวกเขาให้กลัไปอีกครั้ง” เขากล่าว
สัปดาห์นี้ เราจะมีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสำหรับ EURUSD ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจะประกาศในเย็นวันพุธ HKT และเฟดจะประกาศผลการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และจัดงานแถลงข่าวในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี สัปดาห์นี้ คู่สกุลเงินอาจมีความผันผวนเพิ่มเติม เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ปรับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ระดับเดิมที่ 3.4% และความเห็นในการแถลงข่าวของเฟดจะมีอิทธิพลมากกว่าผลการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย