ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการยิงจรวดใส่อิสราเอลของอิหร่านดูเหมือนจะทำให้ภาพความรุนแรงเดือดขึ้น
กราฟ USOIL รายวัน
ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ขยับขึ้นสู่ระดับราคาประมาณ 72 ดอลลาร์ ทำให้เกิดแนวต้านเบื้องต้นสำหรับขาขึ้นต่อไป เป้าหมายต่อไปคือประมาณ 77 ดอลลาร์
ตลาดกำลังดูว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธจากอิหร่านเมื่อวันอังคารอย่างไร นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลสาบานว่าจะตอบโต้ โดยกล่าวว่าอิหร่าน “ทำผิดพลาดครั้งใหญ่” และ “จะต้องชดใช้” คำพูดของเขาส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น 3% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นต่อ การตัดสินใจของอิหร่านที่จะส่งจรวด 180 ลูกไปยังอิสราเอลถือเป็นการขยับครั้งสำคัญที่จะทำให้ความขัดแย้งบานปลาย และขู่ว่าจะลุกลามไปเป็นระดับภูมิภาค
อิหร่านไม่พอใจหลังจากอิสราเอลพยายามโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งรวมถึงการรุกรานภาคพื้นดินด้วย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำมันไม่น่าจะเห็นฝั่งผู้ขายชอร์ตปรากฏตัวในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ผลผลิตจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ลดลง 480,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 26.61 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน ซึ่งส่งผลให้น้ำมันเพิ่มขึ้นเช่นกัน การผลิตของลิเบียลดลง 38% หลังจากรัฐบาลคู่แข่งแห่งหนึ่งหยุดส่งออก
ประเทศในแอฟริกาเหนือนี้ช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันที่เหลือ ในขณะเดียวกัน ก็พยายามสร้างสมดุลระหว่างการผลิตและราคา อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นชั่วคราว โดยลิเบียเตรียมเริ่มการผลิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงประนีประนอมแล้ว
ราคาน้ำมันร่วงลง 17% นับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม แต่ภัยคุกคามจากการต่อสู้กันในตะวันออกกลางมีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง สื่อของอิสราเอลอ้างเจ้าหน้าที่ที่กล่าวว่าการตอบโต้ครั้งใหญ่ต่ออิหร่านอาจรวมถึงการโจมตีเป้าหมายต่างๆ เช่น แท่นขุดเจาะก๊าซหรือน้ำมัน และโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งกล่าวว่าเป้าหมายของการตอบโต้คือการสร้าง “ความเสียหายทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ” และกล่าวว่าผู้นำอิสราเอลรู้สึกว่าการโจมตีครั้งนี้ “ต้องมีนัยสำคัญ และจะต้องเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้”
