หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงค่าเงินเยน และธนาคารกลางอังกฤษประกาศนโยบายการเงิน คู่กราฟ GBPJPY ก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990 ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงค่าเงิน และนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่นางลิซ ทรัสซ์ ประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการลดภาษี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามีแต่จะทำให้หนี้ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น
กราฟ GBPJPY รายสัปดาห์
GBPJPY เปิดสัปดาห์ที่ระดับราคาประมาณ 163.50 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปยัง 155.48 เพื่อทำจุดต่ำสุดรายสัปดาห์ที่แย่ที่สุดสำหรับสเตอร์ลิงนับตั้งแต่ผลการลงประชามติ Brexit ในปี 2016 ขณะนี้กราฟมีแนวทางที่ชัดเจนมุ่งหน้าลงสู่ระดับ 150 ซึ่งหากหลุดแนวรับนั้นลงไปได้ มีโอกาสได้เห็นราคาที่ 140
การอ่อนค่าของสกุลเงินอังกฤษถือเป็นตัวเปลี่ยนเกม ทำให้อดีตสินทรัพย์สำรองปลอดภัยและตลาดตราสารหนี้ทองคำตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้ เงินปอนด์ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนด้วย และเห็นว่าเงินทุนของพวกเขาอาจปลอดภัยกว่าหากเอาไปถือครองเป็นเงินเยน
ปฏิทินเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้จะเริ่มต้นด้วยถ้อยแถลงจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ (Haruhiko Kuroda) ความเห็นของเขาสามารถทำให้เงินเยนแข็งค่าต่อจากสัปดาห์ที่แล้วได้ และเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะหวังให้คำพูดของเขาเป็นการหนุนเงินเยนให้แข็งค่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นเพิ่งแสดงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสกุลเงินของตน และหวังจะได้เห็นการลงทุนด้วยสกุลเงินเยนมากขึ้น
คุโรดะจะลงจากตำแหน่งในเดือนเมษายนปี 2023 และมีแนวโน้มว่านโยบายผ่อนปรนพิเศษของ BOJ จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คุโรดะกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว แต่ธนาคารจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยและการสนับสนุนทางการเงิน “ในตอนนี้”
ในขณะเดียวกัน บลูมเบิร์กเรียกแผนการลดภาษีและยกเลิกกฎระเบียบของสหราชอาณาจักรว่าเป็น “การพนันที่ตรงไปตรงมากับอนาคตของสหราชอาณาจักร” และเสริมว่าแผนดังกล่าวได้สร้างผลกระทบไปแล้วด้วยการอ่อนค่าของเงินปอนด์สเตอร์ลิง
“ตลาดจะเคลื่อนไหวในแบบที่ควรจะเป็น” ควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว หลังจากถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่จะมีต่อสกุลเงินปอนด์
บลูมเบิร์กกล่าวเสริมว่า “น่าสนใจว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่จะไปได้ไกลแค่ไหน นโยบายลดอัตราสูงสุดของภาษีเงินได้เพื่อเพิ่มผู้มีรายได้สูงสุด การลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เงินสมทบประกันของชาติ และการจัดเก็บภาษี และการซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น คือสิ่งที่เธอคิดไว้”
” สิ่งที่นายกฯ หญิงอาจลืมคิดไปคือเธอยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจำกัดค่าพลังงานให้กับภาคครัวเรือนในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งอาจเพิ่มอีก 100 พันล้านปอนด์ให้กับหนี้สินของผู้เสียภาษี การลดภาษีจะทำให้กระทรวงการคลังต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 161 พันล้านปอนด์ในอีกห้าปีข้างหน้า การรับประกันพลังงานเพิ่มเติมจะเพิ่มต้นทุนอีกประมาณ 60 พันล้านปอนด์ในอีกหกเดือนข้างหน้าซึ่งเป็นตัวเลขเดียวที่กระทรวงการคลังคำนวณไว้ “
“ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกกัดเซาะอย่างรวดเร็ว” จอร์จ ซาราเวลอส หัวหน้าฝ่ายวิจัยการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของ Deutsche Bank กล่าว ในขณะที่เขาเรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเพื่อคืนความเชื่อมั่นให้กับธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ