สัปดาห์นี้ราคาทองคำทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่เหนือ $3,000 ดอลลาร์สหรัฐยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน
กราฟ XAUUSD รายวัน
ราคา XAUUSD ทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,958 ดอลลาร์ และทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,043 ดอลลาร์ เว้นแต่ว่าดอลลาร์สหรัฐจะเปลี่ยนทิศการเคลื่อนไหว ราคาทองคำก็จะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป
ตลาดคาดว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ปีเตอร์ วอลเดน กรรมการของ BullionByPost บริษัทขายทองคำออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า
“ตั้งแต่เดือนมกราคม หลังจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ และเมื่อกิจกรรมการซื้อขายพุ่งสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ เราพบว่านักลงทุนรายย่อยจำนวนมากต้องการซื้อทองคำแท่งมาวางไว้ในพอร์ตโฟลิโอเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ นักลงทุนจำนวนมากหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสูงสุด”
บริษัทของเขาพบว่ายอดขายทองคำเพิ่มขึ้น 137% ในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ขาขึ้นของราคาทองคำหยุดชะงักในช่วงสองวันที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ย และเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าผลกระทบของมาตรการขึ้นภาษีจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“ผมคิดว่าการติดใจนั้นถูกคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าธนาคารกลางไม่สามารถทราบผลกระทบโดยรวมของภาษีศุลกากรในขณะนี้ได้จริงๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนไม่เชื่อว่าผลกระทบของภาษีศุลกากรจะเป็นเพียงปัจจัย “ชั่วคราว”
Torsten Slok หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Apollo กล่าวกับ Fortune ว่า “ความเสี่ยงก็คือ ภาษีศุลกากรอาจมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะยาว หากมีการเพิ่มภาษีศุลกากรเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้ นั่นอาจผลักดันให้คาดการณ์เงินเฟ้อและค่าจ้างสูงขึ้น”
ทรัมป์กล่าวว่าธนาคารกลางควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ภาษีศุลกากรกำลังส่งผลต่อเศรษฐกิจ
การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ทองคำเคลื่อนไหวในช่วงนี้ นักลงทุนมองว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ด้วยบรรยากาศการลงทุนในปัจจุบัน การย่อตัวลงใดๆ อาจถือเป็นจังหวะเข้าซื้อสำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้นหลายๆ คน