เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตชิปชื่อดังเอ็นวีเดีย (Nvidia) ประกาศเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ที่มีขนาดโมเดล AI 3x
กราฟหุ้น NVDA รายสัปดาห์
หุ้น NVDA พุ่งสูงขึ้นในปีนี้จากกระแส AI ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทเผยให้เห็นความเชื่อมั่นของบริษัทล่วงหน้าที่เห็นยอดขายชิปเพิ่มขึ้น 50% NVDA มีแนวรับที่ระดับ $444 โดยหุ้นอาจพักตัวก่อนการประกาศผลประกอบการ
Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กล่าวในข่าวที่เผยแพร่ออกมาว่า “เพื่อตอบสนองความต้องการ Generative AI ที่เพิ่มขึ้น แพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลจำเป็นต้องมีการประมวลที่มีความเร็วมากขึ้นตามความต้องการเฉพาะด้าน”
เอ็นวีเดียจะประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดในวันที่ 23 สิงหาคม แต่ Bank of America คาดว่าโอกาส “สร้างเซอร์ไพรส์และความเกรงขามน่าจะน้อยลง” BofA ยังคงเห็นภาพที่แข็งแกร่งในระยะยาว และนักวิเคราะห์ Vivek Arya ให้เป้าหมายราคาหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 550 ดอลลาร์
Arya ให้ความเห็นว่า “เราคาดว่าความเชื่อมั่นที่ตลาดมีต่ิหุ้นตัวนี้จะต้องมีการประเมินมากกว่านี้อีกเล็กน้อย ความต้องการไม่ใช่ปัญหา อุปทานและสิ่งสำคัญคือการที่ผู้ให้บริการสามารถใช้ระบบคลาวด์ของสหรัฐฯ กับการตั้งค่าอินสแตนซ์การประมวลผล genAI อย่างไร”
“นักลงทุนจะมองหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลคาดการณ์เหล่านี้ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยของผู้ให้บริการคลาวด์ในสหรัฐฯ” Arya กล่าวเสริม “ฟังความคิดเห็นของผู้บริหารเกี่ยวกับการเร่งยอดขายอย่างต่อเนื่อง”
นักวิเคราะห์ของ BofA คิดว่า Nvidia สามารถมียอดขายเติบโตที่ 26% โดยที่ตัวเลข CAGR จะออกมาเป็น 109 พันล้านดอลลาร์ หลังจากเคยทำได้ 27 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
Grace Hopper Superchip ใหม่พร้อมโปรเซสเซอร์ HBM3e ตัวแรกของโลกถูกสร้างขึ้นสำหรับการประมวลผลแบบเร่งความเร็วและการสร้าง AI ด้วยความจุหน่วยความจำที่มากขึ้นถึง 3.5 เท่า นอกจากนี้ยังมีแบนด์วิธที่มากกว่าชิปปัจจุบันถึง 3 เท่า บริษัทกล่าวว่าต้นทุนในการสร้างโมเดล AI จะลดลงอย่างมากด้วยโมเดลใหม่
BofA ไม่ใช่ธนาคารแห่งเดียวที่คาดว่าเอ็นวีเดียจะมีรายได้เติบโตอย่างมหาศาล Mizuho มองเห็นศักยภาพในการเพิ่มรายได้นั้นด้วยเช่นกัน
เขาคาดว่า Nvidia จะรักษาตำแหน่งผู้ผลิตชิป AI ที่โดดเด่นไปจนถึงปี 2027 เป็นอย่างน้อย เอ็นวีเดียจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์จาก AI โดยเฉพาะภายในปี 2027 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 75% ของหน่วยเซิร์ฟเวอร์ AI ตาม Vijay Rakesh นั่นคือ 10 เท่าของประมาณการของเขาที่มีรายได้จาก AI มูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้
อนึ่ง ผู้ผลิตชิปคู่แข่งของเอ็นวีเดียอย่าง AMD ได้เปิดตัวชิป AI ของตัวเองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ Nvidia ได้ยกระดับมาตรฐานอีกครั้งจากพยายามเอาชนะคู่แข่ง