ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 1% สู่จุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นักลงทุนเห็นความกัลไฟสงครามกำลังกลับมาอีกครั้ง
กราฟ USOIL รายวัน
ราคา USOIL พบแนวรับอีกครั้งที่ระดับ 67 ดอลลาร์ และตอนนี้มองขึ้นไปที่ระดับ 71.75 ดอลลาร์เป็นแนวต้าน แนวต้านด้านบนที่อาจสูงถึง 78 ดอลลาร์
เกณฑ์มาตรฐานน้ำมัน Brent และ WTI เพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจากสงครามยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่ารัสเซียจะทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Oreshnik ใหม่ในการต่อสู้ต่อไป และรัสเซียจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน จอห์น อีแวนส์ นักวิเคราะห์ของ PVM กล่าวว่า “สิ่งที่ตลาดกลัวคือการทำลายน้ำมัน ก๊าซ และการกลั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว แต่ยังเร่งให้เกิดสงครามอีกด้วย”
สหรัฐฯ ยังบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อแก๊ซพรอมแบงก์ของรัสเซีย ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนพยายามลงโทษรัสเซียก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เครมลินกล่าวว่ามาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดเป็นความพยายามที่จะชะลอการส่งออกก๊าซรัสเซีย แต่กล่าวว่าในที่สุดแล้วรัสเซียก็จะสามารถหาทางออกให้ปัญหานี้ได้
เจ.พี. มอร์แกนระบุในบันทึกเมื่อวันศุกร์ โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบรนท์ในปี 2025 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (/บาร์เรล) แต่คาดว่าจะทำราคาปิดปีนี้อย่างมั่นคงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่น้ำมัน WTI สหรัฐฯ อยู่ที่ 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“มุมมองของเราในปี 2025 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา เรามองหาส่วนเกินขนาดใหญ่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และน้ำมันเบรนท์เฉลี่ยอยู่ที่ 73 ดอลลาร์”
ธนาคารชื่อดังมองว่าการเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกชะลอตัวจาก 1.3 ล้านบาร์เรลในปีนี้เป็น 1.1 ล้านบาร์เรลในปีหน้า โดยกล่าวว่าจีนคาดว่าจะเป็นผู้นำการเติบโตของความต้องการน้ำมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่อินเดียจะเป็นผู้นำในปี 2026
เจพีกล่าวว่าแผนพลังงานของทรัมป์อาจทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้ เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เข้มงวดน้อยลงและมีการผลิตน้ำมันมากขึ้นในสหรัฐฯ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาสามารถทำให้ราคาสูงขึ้นได้ด้วยการผลักดันอิหร่าน เวเนซุเอลา และบางทีอาจจะเป็นรัสเซียให้ขายน้ำมันน้อยลงและมีรายได้น้อยลง