เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นตามรายงานที่ระบุว่าอิสราเอลได้โจมตีสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย การพัฒนานี้เพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางไม่นานก่อนการรวมตัวของ OPEC+ ที่กำลังจะมาถึง
กราฟน้ำมันดิบ WTI 4 ชั่วโมง
เมื่อเวลาประมาณ 14:30 น. ตามเวลาตะวันออก (19:30 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate เพิ่มขึ้น 0.7% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 83.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.6% แตะที่ 87.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตามรายงานของสื่อจากซีเรียและอิหร่าน การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่อาคารที่อยู่ติดกับสถานทูตอิหร่านในดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลว่าการผลิตน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกกลางที่อุดมไปด้วยน้ำมันอาจต้องหยุดชะงัก
หากเป็นเช่นนั้นจริง รายงานดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีแนวโน้มที่จะหนุนราคาน้ำมันในระยะสั้นต่อไป ดังที่ Roth MKM ระบุไว้ในบันทึกที่ออกเมื่อวันจันทร์
ข่าวล่าสุดได้ตอกย้ำความคาดหวังเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่อาจจะตึงตัวก่อนการประชุม OPEC+ ที่จะจัดขึ้นในปลายสัปดาห์นี้
OPEC และชาติพันธมิตรซึ่งเรียกรวมกันว่า OPEC+ มีกำหนดจะจัดการประชุมออนไลน์ในวันพุธเพื่ออัปเดตข้อมูลเงื่อนไขอุปสงค์อุปทานของตลาดน้ำมัน การประชุมจะประเมินขอบเขตว่าประเทศสมาชิกปฏิบัติตามเงื่อนไขการลดผลผลิตตามที่ตกลงไว้ได้หรือไม่
รัสเซียและซาอุดีอาระเบียร่วมกันเป็นผู้นำกลุ่ม OPEC+ พวกเขาได้ขยายกรอบเวลาการลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารัสเซียจะลดการผลิตลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อชดเชยการเกินดุลที่เกินระดับการผลิตที่ตกลงไว้
รัฐมนตรีของประเทศจะต้องงดเว้นการเสนอแนะนโยบายใหม่ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการติดตามรัฐมนตรีร่วม อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ซาอุดีอาระเบียปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด
บันทึกล่าสุดที่ประกาศโดย TPH&Co เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญหากซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำโอเปกไม่ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ หมายเหตุยังชี้ให้เห็นว่าปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นแบบออฟไลน์ในช่วงไตรมาสที่สองน่าจะรักษาราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และส่งผลเชิงบวกต่อการลงทุนด้านบริการ และสร้างกระแสเงินสดมากขึ้นให้กับบริษัทผู้ผลิตน้ำมัน