แม้ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 หุ้นของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์ (PFE) จะเคยเป็นหุ้นที่เนื้อหอมเพียงใด แต่ในวันที่ไม่มีใครพูดถึงเชื้อไวรัสตัวนี้อีกแล้ว นั่นก็ทำให้กระแสความนิยมในไฟเซอร์นั้นลดลง แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นหลังจากการรายงานผลประกอบการไปเมื่อวันอังคาร แต่ก็ต้องต้องปรับตัวลดลงเมื่อยอดขายวัคซีนต้านโควิดของบริษัทลดลง
กราฟหุ้น PFE รายเดือน
จากกราฟรายเดือนจะเห็นว่าราคาหุ้นไฟเซอร์ในเดือนมกราคมร่วงลงอย่างรุนแรง ดังนั้นนักลงทุนจึงควรมองหาจังหวะ sell ในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นราคาหุ้นสร้างรูปแบบที่มีชื่อเรียกว่าดับเบิ้ลท็อป
ไฟเซอร์กล่าวว่าตัวเลขกำไรในช่วงสามเดือนที่นับจนถึงเดือนธันวาคมที่ปรับปรุงแล้วออกมาอยู่ที่ 1.14 ดอลลาร์ต่อหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีราคาหุ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น รายรับของไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 2% เป็น 24.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 24.3 พันล้านดอลลาร์ เป็นยอดขายจากการรักษาด้วยยาต้านไวรัส Paxlovid ลดลง
เมื่อมองไปในปี 2023 ที่พึ่งจะมาถึง ไฟเซอร์คาดการณ์ว่าจะสามารถทำรายได้ในสหรัฐอเมริกาที่ 67,000 ล้านดอลลาร์ถึง 71,000 ล้านดอลลาร์ โดยมียอดขายวัคซีนโควิดประมาณ 13,500 ล้านดอลลาร์ และยอดขาย 8,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่เรียกว่า Paxlovid
อัลเบิร์ต บาวด์ร่า ECO ของไฟเซอร์กล่าวว่า “ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2023 เรายังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างสถิติยอดขายถล่มทลายได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากที่สุดที่เราเคยมีมาในช่วงเวลาสั้นๆ เราเชื่อว่าการเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตอันใกล้ ประกอบกับผลิตภัณฑ์ตามสายการผลิตเดิมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะออกสู่ตลาดในระยะกลาง และการสนับสนุนจากการพัฒนาธุรกิจจะมีศักยภาพในการช่วยให้บริษัทสามารถการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลอดทั้งปี 2023 ทั้งในทศวรรษนี้และต่อๆ ไป”
แม้หุ้นไฟเซอร์จะร่วงลงตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023 แต่ในที่สุดก็สามารถทำราคาปิดสูงขึ้นมาอยู่ที่ราคา 43.50 ดอลลาร์ แต่การปรับตัวลดลงต่ำกว่า $43 สามารถเปิดโอกาสสู่การมุ่งหน้าลงไปยัง $30 ในอนาคตต่อไป