ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดตลอดกาลที่พึ่งทำไปล่าสุดก่อนหน้านี้ได้
กราฟ SP500 รายวัน
ราคาของ S&P 500 กำลังกลับมาเผิชญกับแนวต้านอีกครั้งที่ระดับ 5,882 และอาจปรับฐานได้ แนวรับแรกอยู่ที่ 5,784 และระดับต่อไปที่ 5,680
การฟื้นตัวของหุ้นชิปช่วยให้ตลาดแตะระดับสูงสุดใหม่ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน คลายความกังวลเกี่ยวกับความต้องการชิปหลังจากรายงานรายได้สุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเกินคาดถึง 54% และเกินระดับเป้าหมายสำหรับปี 2024 ตัวเลขเศรษฐกิจเกี่ยวกับการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดยังช่วยสนับสนุนตลาด และเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการลงจอดทางเศรษฐกิจอย่างนุ่มนวล (Soft-landing)
การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ลดลงอย่างไม่คาดคิด ตัวเลขดังกล่าวลดลง -19,000 รายเหลือ 241,000 ราย แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 259,000 ราย ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4% m/m แข็งแกร่งเกินคาดที่ +0.3% m/m
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้น ในขณะที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงมีความเสี่ยงสร้างความผันผวน หลังจากที่ตลาดเริ่มปรับราคาตามโอกาสที่จะได้เห็นชัยชนะอย่างเด็ดขาดของโดนัลด์ ทรัมป์
ตามรายงานของ Bloomberg Intelligence ผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มเติมอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาหุ้นในระยะสั้น บริษัท S&P 500 คาดว่าจะมีรายงานการเติบโตเฉลี่ย 4.3% จากปีที่แล้ว ลดลงจากการเติบโต 7.9% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม ขณะนี้ตลาดกำลังลดโอกาสการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในเดือนพฤศจิกายนลงเหลือ 92%