คู่กราฟ USDCHF ได้รับความสนใจขึ้นมาในกระแสหลักทันทีหลังจากที่ทางการของสวิสเซอร์แลนด์ตัดสินใจให้กิจการมาเป็นของส่วนกลางก่อนในระหว่างที่ยังเจรจากับ UBS ไม่เรียบร้อย
กราฟ USDCHF รายวัน
คู่กราฟ USDCHF ในปี 2023 ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาก็ได้ดีดตัวขึ้นมาในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม นักลงทุนอาจจะได้เห็นภาพที่ราคาปรับตัวลดลงไปยัง 0.91 หรือวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับราคา 0.94
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสวิวเซอร์แลนด์กำลังโน้มน้าวให้ Credit Suisse กลายเป็นสินทรัพย์ของกลางบางส่วนหรืออาจจะทั้งหมด ซึ่งจะถือเป็นการเข้ามาช่วยในส่วนที่ผู้ถือหุ้นบางคนตัดสินใจปล่อยมือจากหุ้นธนาคารตัวนี้ไป
จากข้อมูลของ BBG “ประเทศสวิสเซอร์แลนด์กำลังพิจารณาว่าจะเข้าซื้อกิจการธนาคารรายนี้แบบเต็มจำนวนหรือถือหุ้นใหญ่ หากการเข้าซื้อกิจการโดย UBS Group AG ล้มเหลวเพราะความซับซ้อนในการจัดการข้อตกลงและกรอบเวลาอันสั้น”
สถานการณ์ในวันอาทิตย์เรียกได้ว่าต้องติดตามอยู่ตลอด เพราะอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทางการของสวิสเซอร์แลนด์พยายามที่จะสรุปวิธีแก้ปัญหาให้กับธนาคารในตอนที่ตลาดเอเชียเปิดทำการ
เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ตลาดฟิวเจอร์สจะเปิด UBS ได้เสนอซื้อธนาคาร Credit Suisse ในราคาสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากรายงานของไฟแนนเชียล ไทม์ ทางการสวิสกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนกฎหมายของประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นในการทำธุรกรรม เพราะว่าพวกเขารีบผลักดันข้อตกลงการเป็นเจ้าของเครดิต สวิสให้ลุล่วงและพยายามฟื้นความเชื่อมั่นในระบบธนาคาร
คาดการณ์ USDCHF
USDCHF จะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้หากนักลงทุนในตลาดมองว่าการเทคโอเวอร์เป็นการสิ้นสุดของความวุ่นวายในวงการธนาคาร แต่ก็มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงเนื่องจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์จะถูกบังคับให้ตัดสินใจว่าจะจัดการกับหนี้สินของ Credit Suisse อย่างไร
“การดำเนินการของ Credit Suisse เป็นไปตามข้อกำหนดด้านเงินทุนและสภาพคล่องที่กำหนดให้กับธนาคาร ซึ่งมีความสำคัญเชิงระบบ” ธนาคารแห่งชาติสวิสกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มีการรายงานข้อเสนอซื้อกิจการเมื่อวันอาทิตย์ด้วยราคา 0.25 ฟรังก์สวิสต่อหุ้นจาก UBS ซึ่งต่ำกว่าราคาปิดของ Credit Suisse ที่ 1.86 ฟรังก์สวิสในวันศุกร์ และดีลดังกล่าวมีมูลค่าหุ้นของบริษัทเพียง 1 พันล้านดอลลาร์
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Credit Suisse คือธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย พวกเขาถือหุ้นเกือบ 10% ของบริษัท และมีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในขณะนั้น Qatar Investment Authority มีสัดส่วนการถือหุ้น 6.80% และ Blackrock Inc 4%
ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นกับเครดิต สวิสจะลบล้างการลงทุนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้ ลูกค้าเริ่มถอนเงินหลายพันล้านจากเครดิต สวิสไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อข่าวลือเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน และนำไปสู่การขาดทุนตลอดทั้งปีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตธนาคารในปี 2008
สถานการณ์ทุกอย่างกลับยิ่งแย่ลงเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารชื่อดังสูญเงินกว่า 1 แสนล้านยูโรจากแผนกบริหารความมั่งคั่ง มีเงินฝากมากถึง 10 พันล้านดอลลาร์ต่อวันที่หายไปในช่วงที่ SVB ล่มสลาย