ในช่วงสองสัปดาห์ล่าสุด ราคาโลหะเงินหรือ XAG/USD ไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับแนวต้าน $20 และในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาโลหะเงินก็ได้ร่วงลง ที่ผ่านมา ราคาโลหะเงินได้ปรับตัวขึ้นมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน แต่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันอังคารก็ได้ทำลายขาขึ้นของทั้งตลาดหุ้นและโลหะมีค่า ซึ่งรวมถึงโลหะเงินด้วย
กราฟโลหะเงินรายวัน
แม้ XAGUSD จะมีระดับซื้อขายเหนือ 19 ดอลลาร์ แต่ก็อาจจะสามารถถอยกลับลงไปวิ่งอยู่ที่ระดับ 18.50 ดอลลาร์ ซึ่งโซนราคาระหว่าง 18.50 ถึง 19 ดอลลาร์อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อโลหะเงิน
Credit Suisse ได้ออกมาเตือนว่านี่อาจเป็นจุดสูงสุดของราคาโลหะเงิน และได้แสดงการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตัวเองที่ถือว่าน่าสนใจ:
“โลหะเงินได้กลับมายืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 61.8% ซึ่งเป็นระดับการเคลื่อนไหวตลอดทั้งปี 2020/21 คิดเป็นระดับราคาแล้วเท่ากับ $18.65/15 อย่างไรก็ตาม ราคาโลหะเงินยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า 21.39 ดอลลาร์ และเราคาดว่าจากตรงนี้ราคาโลหะเงินอาจปรับตัวลดลงต่อ มุ่งหน้าสู่แนวรับ $15.56 จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวต้านถัดไปของราคาโลหะเงินนั้นอยู่ที่ 20.87 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 21.39 ดอลลาร์” เครดิตสวิสกล่าว
ในตลาด ETF มีความความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโลหะเงินในระยะสั้นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือการเทขายในกองทุนที่ชื่อว่า SLV นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าราคาโลหะเงินจะปรับตัวลดลงในเดือนหน้า มีนักลงทุน 12% ที่ว่างคำสั่งขายเอาไว้แล้ว จุดเข้าเหล่านั้นสามารถทำกำไรได้หากตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลง แต่ถ้าไม่ ก็อาจทำให้พวกเขาขาดทุนในระยะสั้นได้เช่นกัน
อุปสรรคสำหรับขาขึ้นในตลาดโลหะเงินอีกประการหนึ่งก็คือการเทขายทองคำมากเกินไป เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างทองคำ/โลหะเงิน และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้การสวนด้วยขาขึ้นสำหรับการเทรดทองคำและโลหะเงินในระยะสั้นนั้นดูมีความน่าสนใจ
ขาขึ้นของโลหะเงินได้ดิ้นรนต่อสู่อย่างสุดกำลังมาตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในเดือนมีนาคม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เมื่อทองคำคือตัวการที่ดึงมูลค่ารวมของกลุ่มโลหะมีค่าให้ลดต่ำลง สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนท่าทีการวางนโยบายการเงินจากผ่อนคลายกลายเป็นเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
สำหรับโลหะเงิน สถานการณ์ของสินทรัพย์ตัวนี้ยิ่งแย่ลงเพราะเป็นโลหะอุตสาหกรรม ด้วยความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงการเติบโตในจีนชะลอตัว ความต้องการโลหะเงินจึงคาดว่าจะยังคงมีน้อย นักลงทุนควรจับตาดูตลาดโลหะเงินในช่วงสี่เดือนที่เหลือของปี 2022 เนื่องจากการฟื้นตัวของการเติบโตทั่วโลกอาจช่วยเพิ่มราคาของโลหะเงินได้