ในโลกของการลงทุนซึ่งเป็นโลกของทุนนิยมเป็นหลักนั้น เราจะลงทุนด้วยรูปแบบไหนจะขึ้นอยู่กับจำนวนทุนทรัพย์ความรู้ทางการเงินที่เรามี ในระดับบริษัทใหญ่ๆ เราจะเห็นข่าวอยู่บ่อยๆ ว่าบริษัทเอได้ทำการซื้อหรือควบรวมกิจการกับบริษัทบี หนึ่งคือเพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง สองคือเพื่อประหยัดเวลาในการหาช่องทางทำกำไรเพิ่มในอุตสาหกรรมที่ตัวเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญ แต่สำหรับนักลงทุนตัวเล็กๆ อย่างเราๆ สิ่งที่จะสามารถทำให้เงินจากการทำงานของเรางอกเงบได้มากที่สุดคือการเก็บออม การลงทุนในหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ฟอเร็กซ์ ฯลฯ
บางคนเลือกการลงทุนที่เน้นรูปแบบตายตัวเป็นหลักเพราะมีการประกันภัยมีความน่าเชื่อถือ บางคนจะเลือกกองทุน เนื่องจากขณะนี้บริษัทฟินเทคหลายแห่งมีการจัดการการเงินกองทุนที่สะดวกรวดเร็ว และตรงไปตรงมา บางคนจะเลือกลงทุนในตลาดหุ้น และบางคนเลือกลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ตราบใดที่ทิศทางการลงทุนของพวกเขาถูกต้อง การจะลงทุนในตลาดใดก็ตามก็จะให้ผลตอบแทนที่ดี
นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าสู่ตลาดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้เสริม และต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากพวกเขายังไม่มีทักษะเกี่ยวกับการลงทุนที่เพียงพอ ก็เป็นเรื่องยากที่จะสามารถเอาชีวิตรอดในตลาดลงทุนได้
ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับสามทักษะที่นักลงทุนจำเป็นต้องมีเพื่อประสบความสำเร็จ
1. ความสามารถในหารหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน
สาเหตุของความผันผวนในตลาดการเงินและถ้อยแถลงของบุคคลสำคัญทางการเงินต่างๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่นักลงทุนต้องจับตามอง ยกตัวอย่างเช่นถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีลอน มัสก์ ทวิตเกี่ยวกับคริปโตฯ และบิทคอยน์ หรือแม้แต่คำแถลงการการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในแต่ละเดือน
คนหลายประเภทมีความเข้าใจที่เกี่ยวข้องข้อมูลแตกต่างกัน นักลงทุนที่มีข้อมูลมากกว่ามักจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า ในทางกลับกัน นักลงทุนที่มีข้อมูลน้อยกว่าก็จะเสียเปรียบเป็นธรรมดา สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูล นักลงทุนจำเป็นต้องจับตาดูผลกระทบของข้อมูลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่มีความสนใจหรือกำลังลงทุนอยู่อย่างถูกต้อง รวมถึงผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบที่มีต่อตลาดลงทุนในภาพรวม
ในฐานะที่ได้รับรางวัล “ผู้ให้ข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์ที่ดีที่สุด” และ “โบรกเกอร์ผู้มีแนวทางสำหรับการศึกษาการลงทุนที่ดีที่สุด” ATFX เรามีแหล่งข้อมูลและแหล่งข่าวการเงินให้กับลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะลงทุนในดัชนีดาวโจนส์หรือตลาดไหนๆ นอกจากนี้ ATFX ยังมี “Trading Central” ที่พร้อมจะให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจการลงทุน ด้วยภาษาท้องถิ่นมากกว่า 10 ภาษา ยิ่งไปกว่านั้น ATFX ยังมีปฏิทินเศรษฐกิจแบบเรียลไทม์ให้สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวในโลกการเงินบนเว็บไซต์ โดยปกติแล้วนักวิเคราะห์ของ ATFX จะมีการจัดแพร่ภาพการไลฟ์สดและวิดีโอการวิเคราะห์ภาพรวมตลาดลงทุนอยู่เสมอ
2. ความสามารถในการใช้เครื่องมือสำหรับการดเทรด
ในตลาดการเงิน นอกจากการรับข้อมูลข่าวสาร ความสามารถในการเลือกเครื่องมือการลงทุนของตนเองก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน เครื่องมือที่ดีเช่นเทรนด์ไลน์ Fibonacci สามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนที่เทรดมานานหลายปีหรือเป็น “มือใหม่หัดเทรด” ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด เครื่องมือการลงทุนที่ดีสามารถให้ข้อมูลในตลาดที่จะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะใช้เครื่องมือนั้นวัดทิศทางของตลาดในรูปแบบไหน
ที่ ATFX เราเลือกใช้แพลตฟอร์ม MT4 เป็นประตูสู่โลกการลงทุน MT4 ถือเป็นโปรแกรมและแอปพลิเคชันยอดฮิตในหมู่นักลงทุน แทบจะทุกโบรกเกอร์ฟแอเร็กซ์ในโลกนี้ต่างก็ไว้วางใจเลือกใช้งาน MT4 ที่นี่นักลงทุนมีอิสระที่จะสามารถเลือกลงทุนด้วยตัวเอง และจะใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ (EA) เป็นผู้ช่วยตัดสินใจก็ได้ ด้วยความอิสระนี้ ATFX จึงได้สร้างระบบเทรดที่มีชื่อว่า “Autochartist” ขึ้นมา Autochartist ทำให้นักลงทุนสามารถลองใช้เครื่องมือการเทรดที่หลากหลายได้ในเครื่องมือเดียว รวมถึงการจดจำรูปแบบการวิ่งของราคา การวัดตลาดด้วยเครื่องมือ Fibonacci การมาร์กตำแหน่งสำคัญ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ความผันผวน และการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นต้น
3. ความสามารถในการตั้งจุดทำกำไรและขาดทุน
ความปราถนาที่จะให้ทุกคำสั่งซื้อขายของเราทำกำไรได้ถือเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นเรื่องที่ทุกคนที่เป็นนักลงทุนอยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงนั้นเหรียญมีสองด้านเช่นไร การซื้อขายในตลาดลงทุนก็มีทั้งขึ้นและลง มีทั้งคนที่ได้กำไรและคนที่ขาดทุน
สมมุติว่าคุณลงทุนในสินทรัพย์ตัวหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปราคาของสินทรัพย์นั้นขึ้นตามที่คุณคาดการณ์ คุณได้กำไร เช่นนี้ถือว่าคุณเป็นนักลงทุนที่ดี แต่ถ้าคุณยังไม่ปิดคำสั่งซื้อขายเพราะหวังว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นว่าราคานั้นปรับตัวลงจนกำไรที่มีกลายเป็นการขาดทุน นั่นคือคุณได้กลายเป็นนักลงทุนที่ไม่ดี เพราะนักลงทุนมืออาชีพจะรู้ว่าพวกเขาควรทำกำไรเมื่อไหร่ ตั้งจุดตัดขาดทุนเอาไว้ตรงไหน
การมีจุดตัดขาดทุนในตำแหน่งที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องสำคัญของตลาดเป็นอย่างมาก เพราะการมีจุดตัดขาดทุนจะช่วยลดการขาดทุนยองนักลงทุนได้่ นอกจากจุดตัดขาดทุนแล้ว นักลงทุนที่ดีต้องรู้จักพอ รู้จักการวางจุดตัดทำกำไร เพื่อรักษาความเสี่ยงในพอร์ตของคุณ รวมถึงทำให้พอร์ตเติบโตขึ้นด้วย
เรียนรู้วิธีการเทรดรายวันอย่างไรให้ได้กำไรสำหรับนักลงทุนมือใหม่
เรียนรู้การลงทุนด้วยการเปิดบัญชี MT4 หรือทดลองเทรดในบัญชีเงินสมมุติเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้เลย!