4 ขั้นตอนการลงทุนใน NFT ง่ายๆ สำหรับนักลงทุนมือใหม่

NFT คืออะไร?

จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นในโลกการลงทุนแบบกระจายอำนาจ NFT จึงได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการถ่ายโอนทรัพย์สินทางกายภาพและงานศิลปะอื่น ๆ ไปยังโลกดิจิทัล ปัจจุบัน NFT ได้กลายเป็นฟังก์ชันเฉพาะของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ช่วยเก็บข้อมูลเนื้อหาดิจิทัลตั้งแต่วิดีโอ สัญลักษณ์ เพลง ภาพศิลปะ โลโก้ ฯลฯ เข้าสู่ระบบและรับรองความถูกต้องบนบล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัล เครือข่าย Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่มีการพูดถึงมากที่สุดหากพูดถึง NFT อีเทอเรียมทำให้การเป็นเจ้าของและขายเนื้อหาดิจิทัลออนไลน์เป็นเรื่องง่าย นับตั้งแต่ปลายปี 2021 NFT กลายเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 2014

บทความนี้มีความสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องข้อมูลเกี่ยวกับ NFT เราจะพูดถึงตั้งแต่วิธีการทำงาน, ความแตกต่างระหว่าง NFT และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ, วิธีสร้าง NFT และปิดท้ายด้วยเหตุใดจึงควรลงทุนใน NFT

NFT เป็นตัวย่อของคำว่า (Non-fungible token) หรือสามารถแปลได้ว่า “โทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนได้” NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตรวจสอบได้ง่ายบนเครือข่ายบล็อกเชน ข้อมูลที่ได้รับความนิยมถูกเก็บในรูปแบบ NFT ได้แก่อาร์ตเวิร์ก เพลง สัญลักษณ์ และโลโก้ เนื้อหาในเกม เช่น ภาพแทนตัวที่ไม่ซ้ำใคร คุณลักษณะที่น่าสนใจของโทเค็นเหล่านี้คือ เอกลักษณ์ NFT ที่จะมีเพียงข้อมูลชุดนั้นเพียงชุดเดียว และไม่มีการทำซ้ำ สิ่งนี้ทำให้ NFT โดดเด่นมากในปัจจุบันและเป็นที่ต้องการในฐานะของสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ

โทเค็นไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากไม่มีค่าและไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งใดได้ ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เราใช้แลกเปลี่ยนกันในปัจจุบันด้วยเงิน fiat หรือสกุลเงินท้องถิ่นต่างๆ NFT เป็นสินทรัพย์เฉพาะที่สามารถถ่ายโอนจากเจ้าของคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน มีการสร้างเส้นทางดิจิทัลจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อและมีตัวช่วยในการตรวจสอบการทำธุรกรรม ของที่จับต้องได้จะกลายเป็นของสะสมที่ไม่เหมือนใคร เช่น งานศิลปะ ซึ่งคุณอาจมีใบรับรองความเป็นเจ้าของเพื่อยืนยันความถูกต้องของNFT ที่คุณถือ การคิดค้น NFTs ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนได้เข้ามาแทนที่ความต้องการใบรับรองความเป็นเจ้าของ ปัจจุบัน NFT จำนวนมากใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างใบรับรองความเป็นเจ้าของดิจิทัลสำหรับสินทรัพย์ทางกายภาพที่ไม่ซ้ำใคร ก่อนหน้านี้หายากในตลาดสกุลเงินดิจิทัล

NFT มักจะถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลเช่น ศิลปิน ผู้สร้าง ผู้ที่ชื่นชอบโลกการเข้ารหัส นักดนตรี ฯลฯ ผู้สร้างเหล่านี้ใช้ NFT เพื่อเป็นตัวแทนของงานศิลปะหรือความเชื่อและค่านิยมอื่นๆ NFT ทำให้ผู้คนที่มีค่านิยมหรืออารมณ์ร่วมเดียวกันหรือผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะเหมือนกันสามารถซื้อได้อย่างรวดเร็วในราคาที่จ่ายเอง NFT รวมถึงการแสดงในรูปแบบศิลปะหรือสิ่งเช่น อาร์ตเวิร์ก ทวีต GIF เพลง การซื้อในเกม เรียงความ ชื่อโดเมน ฯลฯ ด้วย

NFT ทำงานอย่างไร?

NFT มีศักดิ์เทียบเท้ากับของของสะสม ที่ออกแบบมาในรูปแบบดิจิทัลให้ไม่สามารถคัดลอก ขโมย หรือแฮ็กได้ เมื่อใดก็ตามที่ศิลปิน นักดนตรี หรือผู้ที่ชื่นชอบคริปโตฯ เปลี่ยนงานของพวกเขาให้เป็น NFT พวกเขาจะโอนมันไปยังของสะสมดิจิทัลและให้ลายเซ็นหรือเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของถาวรแก่ผู้ซื้อ สิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกลอกเลียนแบบ NFT ส่วนใหญ่ทำงานบนบล็อกเชนอีเทอเรียม และใช้โทเค็น ERC-20 เพื่อออกสัญญาอัจฉริยะบนเครือข่ายบล็อกเชนของอีเทอเรียม ผู้ที่สนใจยังสามารถซื้อ NFT ด้วยสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น Polygon, Solana และ Polkadot

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะสร้างผลงาน NFT ครั้งแรกหรือแชร์ผลงานของคุณในจำนวนจำกัด ตอนนี้คุณก็สามารถก่อให้เกิดการขาดแคลนทางดิจิทัลได้ด้วยการผลิตในจำนวนจำกัด สิ่งนี้ทำให้งานของคุณมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงมูลค่าได้เป็นระยะเวลานาน NFT มีข้อดีมากในแง่ของการปกป้องความเป็นเจ้าของงานของคุณ สมมติว่าคุณสร้างงานศิลปะดิจิทัล ในอดีต บุคคลอื่นที่มีสำเนาของผลงานดังกล่าวดึงมาจากเครื่องมือค้นหาใดๆ เช่น Google หรือ Firefox ค้นหารูปภาพ หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ได้อย่างง่ายๆ แต่กับ NFT เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตัดคุณออกจากความเป็นเจ้าของ เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพยายามทำเช่นนั้น งานของพวกเขาจะถูกระบุว่าเป็นของปลอมทันที เหตุผลก็คือ NFT สามารถมีเจ้าของได้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น และแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เมื่อสร้าง NFT เสร็จแล้ว ผู้สร้างสามารถทำการตลาดและจัดจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ที่มีชื่อว่า “OpenSea” เป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่รู้จักกันดีที่สุด แต่ปัจจุบันมีตลาดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Rarity.tools หรือ NFTcatcher.io นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยน crypto ยอดนิยมบางแห่งเช่น Binance ได้เริ่มรวม NFT ไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อให้นักลงทุนได้ทำการซื้อขาย ในทำนองเดียวกัน คุณสามารถซื้อ NFT เป็น CFD ได้จากโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ในปัจจุบัน (บางแห่ง)

NFT แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร?

NFT ไม่เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เนื่องจากมีราคาคงที่เสมอไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใดก็ตาม NFT ใช้สกุลเงินดิจิทัลในการทำธุรกรรมเท่านั้น แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแบบเดียวกับที่สกุลเงินดิจิทัลใช้ แต่สินทรัพย์จะได้รับการตั้งค่ามาแตกต่างกันเสมอ ในขณะที่เหรียญสกุลเงินดิจิทัลทั่วไปนั้นสามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนได้เทียบเท่า แต่ NFT ไม่สามารถทำได้ การเข้ารหัสแต่ละรายการได้รับการตั้งค่าด้วยรหัสประจำตัวและข้อมูลเมตาที่ไม่ซ้ำกันเป็นตัวแยกความแตกต่างของ NFT หนึ่งจากอีกอันหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณสามารถแลกเปลี่ยนระหว่าง ETH กับ ETH อีกเหรียญหนึ่งได้ และพวกมันจะมีมูลค่าเท่ากัน แต่ NFT นั้นทำไม่ได้ บ่อยครั้งที่ราคาของ NFT ถูกกำหนดโดยบุคคลและหรือกลุ่มที่ชื่นชมศิลปะ การออกแบบ ดนตรี หรือมูลค่าที่แสดงโดย NFT เหล่านี้ พวกเขาแสดงความนับถือผ่านราคาที่พวกเขายินดีจ่ายเพื่อให้ได้มา

หากเป็นมือใหม่ จะลงทุนใน NFT ได้อย่างไร?

หากเป็นมือใหม่ วิธีที่ดีที่สุดในการลงทุนใน NFT ใคือการซื้อและถือยาว (HODL) การซื้อและถือครอง NFT หมายถึงการซื้อโทเค็นทันทีที่เปิดตัว ซื้อเมื่อราคาอยู่ในระดับต่ำ และถือไว้เป็นเวลานานจนกระทั่งสินค้านั้นๆ ขาดตลาด นี่เป็นเพราะโทเค็น NFT มีจำนวนจำกัด หรือน้อยมาก ทำให้ผู้ขายจึงสามารถนำมันกลับมาสู่ตลาดและขายต่อในอัตราที่สูงขึ้นเมื่อมีความต้องการในตลาดสูง ข้อมูลด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำ 4 ขั้นตอนง่ายๆ เกี่ยวกับวิธีที่ผู้เริ่มต้นสามารถซื้อและถือ NFT ใด ๆ ที่เขาต้องการ

4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้นเป็นเจ้าของ NFT สำหรับมือใหม่

1. เปิดบัญชีวอลเล็ต Metamask:

ขั้นตอนแรกสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลงทุนใน NFT คือการสร้างกระเป๋าเงิน metamask ขึ้นมา ดาวน์โหลดแอป metamask wallet และตั้งค่ารายละเอียดการเข้าสู่ระบบและรหัสผ่าน กระเป๋าเงิน Metamask ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดและแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ต้องการลงทุนใน NFT ที่ metamask รับประกันความปลอดภัยในการลงทุนและทำให้ผู้ที่สนใจซื้อและขาย NFT จากบล็อกเชนอีเทอเรียมสามารถทำได้โดยง่าย

2. ซื้อ ETH (ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้สำหรับการซื้อขาย NFT) เพื่อโหลด Wallet ของคุณ

สิ่งต่อไปที่มือใหม่ต้องทำคือซื้อเหรียญ ETH ด้วยกระเป๋าเงิน metamask มือใหม่สามารถซื้อ ETH ด้วยบัตรเดบิตหรือ Apple Pay ได้โดยตรงภายใน MetaMask โดยคลิก “เติมเงิน” จากนั้น ไปที่ส่วนขยายบนหน้าเว็บเพจในหน้าจอหลัก หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และคลิกที่ปุ่ม ‘ซื้อ’ เมื่อเสร็จแล้ว MetaMask จะเชื่อมโยงคุณกับผู้ให้บริการ จากนั้นคุณสามารถซื้อเหรียญตามจำนวนที่ต้องการ

สำหรับมือใหม่ คุณควรทราบว่าคุณสามารถขอเงินจากเพื่อนได้ด้วยการส่งคำขอชำระเงิน แสดงรหัส QR ของคุณหรือแชร์ที่อยู่สาธารณะของคุณกับคนที่คุณต้องการ หากคุณไม่มีเงินลงทุนเพื่อซื้อ ETH ด้วยตัวเอง

3. เปิดบัญชี OpenSea และเชื่อมต่อกับ Wallet ของคุณ

หลังจากซื้อ ETH มาเก็บไว้ใน wallet ของคุณใน metamask แล้ว สิ่งต่อไปที่มือใหม่ต้องทำคือเปิดบัญชีที่ OpenSea และเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน metamask ของคุณเข้ากับ OpenSea เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่แนะนำสำหรับมือใหม่ทุกคนว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการซื้อและขาย NFT

4. ดำเนินการซื้อ NFT ที่คุณเลือก

ขั้นตอนสุดท้ายคือการซื้อ NFT ที่คุณเลือกที่ OpenSea หรือการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ และเก็บไว้ใน Wallet ของคุณเพื่อขาย หากราคาของเหรียญนั้นปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

ต้องใช้เงินมากเท่าไหร่เพื่อเริ่มลงทุนใน NFT?

อีกคำถามที่ผู้คนมักถามถึงบ่อยๆ คือจำนวนเงินที่มือใหม่ต้องใช้เพื่อเริ่มลงทุนใน NFT จากข้อมูลของ NFT’s Street ค่าใช้จ่ายในการสร้างเหรียญและลงรายการ NFT เพื่อขายอยู่ที่ประมาณ 85 ดอลลาร์ จากนั้นคุณจะมีที่ใน exchange ที่จะสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญได้ ราคา ค่าธรรมเนียมสเปรด/การทำธุรกรรมที่เรียกเก็บโดย exchange อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณเลือกและมูลค่าของ ETH ในวันเวลานั้นๆ

5 เหตุผลที่คุณควรลงทุนใน NFT

บ่อยครั้งที่มีเหตุผลที่น่าดึงดูดมากมายว่าทำไมมือใหม่อาจถูกดึงดูดให้ลงทุนใน NFT เหตุผลหลักๆ 5 ประการมีดังต่อไปนี้:

1. โครงการ NFT ให้ผลกำไรมหาศาลหากประสบความสำเร็จ:

บ่อยครั้งที่ NFTมอบโอกาสในการเดิมพันสูงเพื่อทำกำไรมหาศาลจากตลาด หากเวอร์ชันของ NFT ที่ผลิตได้รับการต้อนรับด้วยมูลค่าที่สูงและความนิยมของตลาด ตัวอย่างเช่น NFT ที่ซื้อในราคา $10 สามารถขายได้ในอนาคตมากกว่า $1,000 อย่างง่ายดายขึ้นอยู่กับเหรียญนั้นๆ มีความขาดแคลนและมีความความต้องการในตลาดมากเท่าไหร่

2. NFT เป็นที่ต้องการในอนาคต

การยอมรับ NFT ของผู้ใช้งานทั่วโลกและความสวยงามของมันบ่งบอกว่า NFT อาจเป็นอนาคตของตลาดลงทุนในวันพรุ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย นักลงทุนบางคนเห็นว่า NFT เป็นวิธีที่ทันสมัยในการลงทุนด้านศิลปะ การลงทุนเร็วพอ ณ จุดนี้ใน NFT อาจเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมในอนาคต หากมันกลายเป็นเหรียญประจำแพลตฟอร์มของการลงทุนแบบเดิมๆ หลายคนซื้อ NFT ในวันนี้เพราะเชื่อว่ามันจะมีค่ามากกว่าสำหรับคนอื่นในวันพรุ่งนี้

3. ปกป้องการลงทุนจากการถูกโจมตี:

นักลงทุนหลายคนเชื่อว่า NFT ช่วยปกป้องทรัพย์สินของพวกเขาจากการถูกโจมตีเมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล นอกจากนี้ ภายในกระเป๋าเงินยังมีลิงก์เฉพาะที่อนุญาตให้แสดงข้อมูลสำหรับการทำธุรกรรม

4. ปกป้องงานของคุณจากการลอกเลียนแบบ

NFT มักจะทำให้งานของศิลปินมีลายเซ็นดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้ไม่สามารถลอกเลียนแบบหรือขโมยได้จากที่อื่น

5. ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายและพกพาได้

ฟังก์ชั่น NFT บางประการมีความเหมือนสกุลเงินดิจิทัล ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องพกทรัพย์สินติดตัวตลอดเวลา แต่สามารถเก็บไว้ในอุปกรณ์ของคุณได้

5 การลงทุนใน NFT ที่ประสบความสำเร็จ

นี่คือ 5 ตัวอย่างการลงทุน NFT ที่ประสบความสำเร็จและประหลาดที่ยังคงเป็นตำนานของวงการ

• เพลง Lullabye ซิงเกิลอิเล็กทรอนิกส์ของลินด์ซีย์ โลฮาน มี GIF ที่ลำตัวท่อนบนของเธอประดับด้วยผีเสื้อที่กระพือปีกตามจังหวะ
• ภาพดิจิทัลของเสื้อกั๊กสีทองประดับประดาของ Shawn Mendes ที่เขาสวมขณะออกทัวร์
• คลิปวิดีโองานศิลปะชิ้นหนึ่งของ Banksy ถูกเผา งานศิลปะต้นฉบับถูกขายในราคา 95,000 ดอลลาร์ NFT ของงานศิลปะถูกเผาและขายในราคา 380,000 ดอลลาร์
• วิดีโอ YouTube ไวรัสบนอินเทอร์เน็ต Charlie Bit My Finger ถูกลบออกจาก YouTube แล้วขายเป็น NFT ในราคา 693,000 ดอลลาร์
• Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ขายทวีตแรกของเขาซึ่งอ่านว่า “เพิ่งตั้งค่า Twitter ของฉัน” ในราคาเกือบ 3 ล้านเหรียญ

5 สาเหตุหลักที่ทำให้บางคนยังกลัวการลงทุนใน NFT

1. โดยพื้นฐานแล้วยังคงเป็นตลาดเก็งกำไร

ตลาดคริปโตฯ ส่วนใหญ่ยังคงไม่มีความแน่นอน ไม่มีใครแน่ใจในสินทรัพย์คริปโตฯ เนื่องจากการเคลื่อนไหวราคาขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานเป็นหลัก ค่าใช้จ่ายของ NFT ที่กำหนดขึ้นอยู่กับการขึ้นลงของเหรียญที่ผู้ซื้อใช้ โดยพิจารณาจากจำนวนเงินหมุนเวียนและมูลค่าของผู้ซื้อ เมื่อมี NFT ที่เพิ่งเปิดตัว เราทำได้เพียงคาดเดาอารมณ์ของตลาดเท่านั้น

2. ขาดการรับประกันความยั่งยืน

ขณะนี้ตลาดคริปโตฯ กำลังพยายามที่จะอยู่รอดท่ามกลางความขัดแย้งของรัฐบาลในการควบคุมมากขึ้น แม้ว่าตลาดแห่งนี้จะรอดพ้นจากการถูกสั่งปิดจากรัฐบาลมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2009 หรือตอนที่บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้น แต่ก็ไม่มีใครแน่ใจว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นที่ทราบกันดีว่าโครงการ คริปโตฯ หลายโครงการล้มเหลวในอดีต และวัฐจักรนี้ยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีการรับประกันว่า NFT จะอยู่รอดได้ไปตลอด ตราบใดที่ลักษณะของวัฐจักร “ดั้มซื้อและดั้มขาย” ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวของคริปโตฯ อยู่เป็นประจำยังคงอยู่ต่อไป

3. มีการเรียกเก็บภาษีสำหรับ NFT

ปัจจุบันโทเค็น NFT บางตัวถูกมองว่าเป็นหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงต้องเสียภาษีในบางประเทศเมื่ออนุญาตให้มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล NFT ส่วนใหญ่ถือเป็นของสะสม และภาษีจะถูกเรียกเก็บสูงสุด 28% จากกำไรทั้งหมด บ่อยครั้งที่นักลงทุนต้องเสียภาษีเมื่อพวกเขาซื้อและขาย NFT ด้วยสกุลเงินดิจิทัล และขาย NFT เพื่อแลกกับ NFT อื่น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนจากทั้งรัฐบาลและการแลกเปลี่ยนสำหรับการแปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นดอลลาร์สหรัฐ

4. การทำเหมืองและการจัดเก็บถือเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

การเหรียญคริปโตฯ และการดำเนินการเกี่ยวกับ NFT โดยใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆ ปล่อยพลังงานที่เป็นอันตรายสู่ชั้นบรรยากาศ การทำเหมืองทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ดี

5. ยังคงเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง

การลงทุนสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดมีความเสี่ยงสูง เพราะสกุลเงินดิจิทัลไม่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้และยังไม่ได้รับการยอมรับจากทุกประเทศอย่างเป็นทางการ ในทำนองเดียวกัน การแปลง NFT เป็นดอลลาร์หรือสกุลเงิน fiat อื่นๆ อาจมีอุปสรรคหากสภาพคล่องไม่เพียงพอ สุดท้าย ความผันผวนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโตฯ NFT ทำให้เงินทุนของนักลงทุนมีความเสี่ยงสูง

คุณควรลงทุนใน NFT หรือไม่?

แม้ว่า NFT จะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอที่จะขัดขวางนักลงทุนจากการลงทุนใน NFT การลงทุนทุกิอย่างมีความเสี่ยงในตัวเองเสมอ เราสามารถเรียนรู้ที่จะจำกัดและจัดการความเสี่ยงของเราอย่างมีประสิทธิภาพได้เสมอ การไม่เคยท้อแท้จากการลงทุนใน NFT จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำเช่นนั้นด้วยความเสี่ยงที่คำนวณได้ นักลงทุนควรลงทุนในจำนวนเงินที่เขา/เธอสามารถยอมรับความเสี่ยงได้เท่านั้น

โดยสรุปแล้ว

การใช้จ่ายเงิน (สมมุติว่าตั้งแต่ $1 ถึง $100 ล้านขึ้นไป) กับสิ่งที่ประมูลหรือซื้อขายในลักษณะ NFT ไม่ได้ให้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของตามกฎหมายแก่คุณ สิ่งที่คุณเป็นเจ้าของเมื่อคุณซื้อ NFT คือ key เข้าสู่ wallet ที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เหรียญคริปโตฯ เป็นของคุณในการแลกเปลี่ยน ถือครอง หรือแสดงบนบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม ความคิดสร้างสรรค์ยังคงอยู่และการประดิษฐ์เหรียญ NFT ได้เพิ่มข้อได้เปรียบที่ยอดเยี่ยมให้กับศิลปินมากมายในปัจจุบัน ในการเข้าร่วมโลกแห่งความเป็นจริงแบบกระจายศูนย์ NFT ยังช่วยให้ศิลปินสามารถเซ็นชื่อในผลงานของพวกเขาได้และมั่นใจได้ว่างานนั้นจะไม่ถูกลอกเลียนแบบ เนื่องจากใช้เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ ดังนั้น NFT จึงทำหน้าที่เป็นใบเสร็จรับเงินดิจิทัลหรือลายเซ็นสำหรับศิลปิน/เจ้าของ