→จะเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นอย่างไร?
ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นหรือเคยเอี่ยวกับการลงทุนออนไลน์คงเคยได้ยินว่า 90% ของเทรดเดอร์ไม่ได้ทำรายได้จากการเทรดหุ้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ 80% ของนักลงทุนขาดทุน 10% ยังคงทรงๆ และมีเพียง 10% เท่านั้นที่ทำเงินได้อย่างสม่ำเสมอ แน่นอนว่าทุกคนอยากอยู่ในกลุ่ม 10% ที่ชนะตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนใหญ่ใน 90% นั้นไม่ชนะ? 90% ของเทรดเดอร์มีลักษณะนิสัยอะไรที่เหมือนกัน?
นักลงทุนในตลาดหุ้นมือใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเสี่ยงต่อการขาดทุนเนื่องจากพวกเขายังจำเป็นต้องเรียนรู้อีกมากหรือบางทีอาจจะมองข้ามสัญญาณเตือนบางอย่างจากตลาดไป เรื่องนี้อาจฟังดูน่าตกใจ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด นักลงทุนหลายคนหวังที่จะรวย แต่จบลงด้วยความผิดหวัง สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีเงินน้อย อาจฟังดูง่าย หรือเงินที่ใช้ลงทุนเป็นจำนวนเล็กน้อยที่ลงทุนแต่คาดหวังว่าจะได้ผลกำไรมากมาย แหล่งข้อมูลที่มากมายในสมัยนี้ทำให้ยากที่จะรู้ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ
คุณควรอ่านบทความนี้ต่อไปหากคุณต้องการทราบว่าเหตุใดนักลงทุนส่วนใหญ่จึงต้องทำเงินให้มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อเทรดให้ได้อย่างมืออาชีพ ที่สำคัญกว่านั้น คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จที่เหลือของเทรดเดอร์ทำอะไรเพื่อให้การเทรดของพวกเขาคุ้มค่า
กระจายความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แทนที่จะใช้เงินทุนส่วนใหญ่ของคุณลงทุนในหุ้นบางตัวหรือกลุ่มหุ้นที่คล้ายกันมากเกินไป คุณควรกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ ข้อได้เปรียบหลักของการกระจายพอร์ตหุ้นคือหากหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งลดลงอย่างกะทันหัน หากคุณลงทุนในหุ้นเพียงกลุ่มเดียว การขาดทุนในภาพรวมของพอร์ตคุณจะส่งผลเสียต่อพอร์ตที่เหลือของคุณ ตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มก่อสร้างมักจะทำผลงานได้ดีเมื่อใดก็ตามที่ดัชนีหลักทั่วไปทำผลงานได้ดี ในทางกลับกัน ตลาดการเงินที่มีความผันผวนและเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำกว่าปกติ มักจะทำให้หุ้นกลุ่มอื่นทำกำไรได้ดีกว่า เช่น หุ้นกลุ่มเภสัชกรรม
กฎง่ายๆ ของการลงทุนในตลาดหุ้นคือหลีกเลี่ยงการลงทุน 100% ของเงินทุนของคุณในคราวเดียว พิจารณาว่าเงินทุนของคุณพร้อมสำหรับการลงทุนและเลือกลงทุนด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยเป็นระยะๆ วิธีนี้จะช่วยป้องกันคุณจากกาขาดทุนทั้งหมดในช่วงที่ตลาดตกต่ำเป็นเวลานาน ประการที่สอง คุณสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าที่คุณเคยทำก่อนหน้านี้
วิธีที่ดีวิธีหนึ่งหากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับหุ้นสำหรับการเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยง คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเลือกกลุ่มหุ้นหรืออุตสาหกรรมที่สมดุลกัน กลุ่มหุ้นเหล่านี้เรียกว่าหุ้นกลุ่มวัฏจักรและกลุ่มที่ไม่เป็นวัฏจักร หุ้นวัฏจักรคือกลุ่มหุ้นที่ทำกำไรได้ดีมากในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู และกลุ่มที่ไม่ใช่หุ้นวัฏจักรคือกลุ่มหุ้นที่ค่อนข้างคงที่แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ตัวอย่างกลุ่มหุ้นที่ไม่ใช่วัฐจักรได้แก่ หุ้นกลุ่มการดูแลสุขภาพและสาธารณูปโภค หุ้นกลุ่มนี้ยังคงเป็นที่ต้องการแม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำก็ตาม ตัวอย่างล่าสุดคือผลการดำเนินงานของบริษัทด้านสุขภาพในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นกลุ่มวิจัยชีวภาพเป็นที่ต้องการสูง
คาดหวังกำไรที่เป็นไปได้จริง
เสน่ห์ของการทำให้หุ้นเติบโตได้ภายในระยะเวลาอันสั้นมักดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างไร้จุดหมาย การทำเงินจากการเทรดหุ้นนั้นไม่ง่ายเลย ความสำเร็จในตลาดหุ้นต้องการให้นักลงทุนมีความอดทน มีกลยุทธ์ที่ดี และอย่างน้อยก็มีความรู้เกี่ยวกับกลไกการทำงานของตลาด ข้อมูลจากงานวิจัยในระดับสูงและเครื่องมือตรวจสอบตลาดขั้นพื้นฐานสำหรับการทดลองเทรดเป็นข้อได้เปรียบก่อนที่คุณจะทำการฝากเงินจริงครั้งแรกเพื่อซื้อหุ้น ความผันผวนของตลาดดัชนียังทำให้ผู้คนสับสนและเพิ่มประเด็นขัดแย้งในการลงทุนมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้คนตัดสินใจซื้อขายและกำหนดเป้าหมายผลกำไรด้วยทัศนคติที่บางครั้งก็มองโลกในแง่ดีเกินไป
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากคุณคาดว่าหุ้นจะเพิ่มขึ้น 50% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะต้องมีการคาดการณ์ความเป็นไปได้ ตัวชี้เป้า และข่าวบริษัทเล็กๆ น้อยที่ชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ ถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดทุกครั้งที่ลงทุน อย่าตั้งสมมติฐานที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับหุ้น วัดความสามารถของหุ้นตามผลประกอบการในอนาคตที่คาดการณ์ไว้ ไม่ใช่วัดจากแนวโน้มในอดีตเพียงอย่างเดียว หุ้นบางตัวอาจเติบโตมากกว่า 50% ในช่วงขาขึ้นก่อนหน้านั้น แต่เทรนด์เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท โดยทั่วไปแล้วหุ้นไม่ค่อยให้ผลตอบแทนรายเดือนหรือรายปีในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ หมั่นตรวจสอบสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจและข่าวคราวในวงการเสมอ และต้องพร้อมที่ปรับแนวโน้มความเสี่ยงของคุณตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ตัวอย่างที่ดีของกรณีศึกษานี้คือบริษัท BlackBerry (NYSE: BB) เป็นบริษัทที่เรารู้จักในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีนวัตกรรมและมีสไตล์ในช่วงปี 2008 หุ้นของบริษัทเติบโตขึ้นจากประมาณ 13 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นระดับสูงสุดที่ 144 ดอลลาร์ในช่วงกลางปี 2008 อย่างไรก็ตาม นโยบายที่เข้มงวดและความล้มเหลวในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ร โทรศัพท์แบล็คเบอรี่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อยที่เติบโตอย่างรวดเร็วน้อยลง นักลงทุนที่ซื้อหุ้นแบล็คเบอรี่ในตอนนั้นแม้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ก็ยังคง ‘มีความหวัง’ ก่อนที่สุดท้ายแล้ว แบล็คเบอรี่ก็กลายเป็นเพียงตำนานบทหนึ่ง
Rentabilidad histórica de Blackberry (NYSE: BB)
ปกป้องตัวเองจากค่าธรรมเนียมการลงทุน
การซื้อขายหุ้นยังมีค่าธรรมเนียมการเทรด คุณควรกดค่าธรรมเนียมการซื้อขายเหล่านี้ให้ต่ำเข้าไว้เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุดและเสียค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณมีเงินในพอร์ต $100 ดอลลาร์ในการเทรดและซื้อหุ้นมูลค่า $10 คุณจะต้องทำกำไรเพิ่มขึ้น $10 เพื่อชดเชยกำไรเทียบเท่า $5 สมมติว่ามีคนเลือกที่จะขายหุ้นและจ่ายค่าธรรมเนียมการซื้อขายอีก 5 ดอลลาร์ ค่า ‘ไปกลับ’ ทั้งหมดจะเท่ากับศูนย์
คิดเอาไว้เสมอว่าทุกครั้งที่คุณเริ่มทำการซื้อขายใหม่ เงินบางส่วนในบัญชีของคุณจะลดลงทันทีตามเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน ซึ่งคุณจำเป็นต้องทำให้เงินส่วนนี้กลับมาเต็มก่อน จึงจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวไปตามที่คุณคาด เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เหมาะสมและลงทุนให้เพียงพอเพื่อลบล้างค่าธรรมเนียมการซื้อขายขั้นต่ำ
อีกหนึ่งตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน $2,000 ในการเทรดหนึ่งครั้งและค่าธรรมเนียมต่อการเทรดคือ $5 คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเทรดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ใช้เงิน $100 ในการเทรดหนึ่งครั้ง คุณควรตรวจสอบงค่าธรรมเนียมถูกเรียกเก็บสำหรับการจัดการการซื้อขายของคุณกับโบรกเกอร์ของคุณทุกครั้ง ข่าวดีก็คืิอเมื่อเร็วๆ นี้โบรกเกอร์ออนไลน์ได้ให้บริการบัญชีที่มีค่าธรรมเนียมในระดับที่ใกล้เคียงกัน บางแห่งเสนอค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์หากสามารถลงทุนได้ตรงตามเงื่อนไขบางอย่าง การป้องกันตัวคุณเองจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงเกินไปทำให้มั่นใจได้ว่าคุณกำลังทำงานเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณ แทนที่จะทำงานเพิ่มคุณค่าให้กับโบรกเกอร์
เอาชนะอารมณ์ให้ได้ (เทรดตามที่เห็น ไม่ตามอารมณ์)
นักลงทุนมืออาชีพบางคนยังคงทำผลงานต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดด้วยเหตุผลประการหนึ่ง: พวกเขาปล่อยให้อารมณ์มาบงการการเทรดของพวกเขา อารมณ์บางอย่างที่อาจทำลายแผนการเทรดดีๆ ของเราได้เช่น ความโลภ การพยายามเอาชนะเทรดเดอร์รายอื่น และความมั่นใจมากเกินไป เมื่อเป็นช่วงตลาดหมี การลงทุนตามอารมณ์มีส่วนกับแรงเทขายอย่างตื่นตระหนก หรือบางครั้งก็นำไปสู่การเลือกซื้อหุ้นอย่างไร้เหตุผลในระดับราคาที่ยังคงมีโอกาสจะลงอีก การลงทุนตามอารมณ์จะทำลายกำไรที่คุณหามาได้ไม่ช้าก็เร็ว การเทรดตามอารมณ์ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ไปไม่พ้นจากคำว่า “เริ่มต้น”
บทวิเคราะห์ดัชนี S&P 500 อย่างรอบคอบในช่วงปี 2018 เผยให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ทำผลงานได้ต่ำกว่าตลาด นักลงทุนโดยเฉลี่ยทำผลงานได้ต่ำกว่าดัชนีเฉลี่ย 100 จุดเบสิสในบางเดือน น่าเศร้าที่พวกเขาทำงานผลได้น้อยกว่าดัชนีแม้ว่าตลาดจะฟื้นตัวแล้วก็ตาม เดือนที่ดีที่สุดสำหรับ S&P คือเดือนสิงหาคม แต่ผลตอบแทนของนักลงทุนหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80% เทียบกับผลตอบแทนโดยรวมของดัชนีในเดือนตุลาคมที่ +3.36% ซึ่งเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุด ผลตอบแทนเฉลี่ยของนักลงทุนอยู่ที่ -7.97% ในขณะที่ผลตอบแทนของตลาดโดยรวมอยู่ที่ -6.84% ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจขาดทุนมากกว่าตลาดเมื่อตลาดทำผลงานได้ไม่ดี และยังได้กำไรน้อยกว่าแม้ในช่วงที่ตลาดกลับมาแข็งแกร่ง
หากมองลงมาจากมุมบนแล้ว แม้ว่ากระแสเงินสดจะคงที่ นักลงทุนทั่วไปพยายามลดความเสี่ยงในช่วงเดือนที่เลวร้าย แต่ก็ล้มเหลวในการเพิ่มทุนให้เพียงพอเมื่อลงทุนซ้ำตอนที่ตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้น คำอธิบายเพียงอย่างเดียวคือการขายอย่างตื่นตระหนกเกิดขึ้นเมื่อดัชนีราคาร่วงลง และคนส่วนใหญ่ออกจากตลาด และรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อหุ้นในราคาถูก
หนึ่งในเคล็ดลับที่ดีที่สุดที่ในปี 2021 คืออย่าลงทุนโดยใช้อารมณ์เป็นแรงผลักดัน เช่นเดียวกันไม่ว่าคุณจะลงทุนด้วยตัวเองหรือให้ผู้จัดการกองทุนดำเนินการ อารมณ์และความรู้สึกผูกพันต่อสินทรัพย์บางอย่างทำให้ผู้คนมองโลกในแง่ดีมากเกินไปแม้ว่าบริษัทนั้นๆ กำลังมีผลงานไม่ดี การควบคุมอารมณ์ของตนเองทำให้นักลงทุนที่เฉลียวฉลาดสามารถมองเห็นความเสี่ยง รู้ว่าจังหวะไหนควรปล่อย แทนที่จะโยนเงินดีดีไปกับการลงทุนที่ไม่ดี
การสงบสติอารมณ์เมื่อตลาดกำลังผ่านจุดที่ยากลำบากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การเฝ้าดูการร่วงลงของดัชนีในชั่วข้ามคืนอาจเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่นักลงทุนที่ชาญฉลาดมักจะมีแผนการณ์ที่ช่วยให้พวกเขารู้ว่าต้องทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ มือใหม่ควรเข้าหาตลาดหุ้นโดยรู้ว่าต้องทำอย่างไรกับหุ้นที่กำลังร่วงและจะทำอย่างไรกับหุ้นที่กำลังขึ้น มีบัญชีเงินสมมุติหรือข้อมูลดูที่คุณสามารถเทรดหุ้นที่ขาดทุนและหุ้นที่ชนะโดยไม่ต้องเสี่ยงด้วยเงินจริง เหนือสิ่งอื่นใด การปรับพอร์ตลงทุนของคุณอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเติบโตได้เร็วกว่านักลงทุนที่เข้าสู่ตลาดเฉพาะตอนนี้ตลาดกำลังดีและถอนตัวเมื่อพวกเขารู้สึกถึงปัญหา
ทำการสอบทานธุรกิจ (เลือกโบรกเกอร์และหุ้นที่ใช่)
หมั่นตรวจสอบสถานะเกี่ยวกับหุ้นและบริษัทที่คุณเลือกก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ ตามกฎหมายแล้ว บริษัทจดทะเบียนต้องยื่นเอกสารต่อทางการและประชาชนทั่วไปเป็นระยะเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน เอกสารเหล่านี้ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทราบข้อมูลสำคัญ เช่น รายรับ หนี้สิน ค่าใช้จ่าย และผลกำไร บริษัทจดทะเบียนมักจะทำประมาณการกำไรซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่ช่วยให้นักลงทุนในปัจจุบัน นักลงทุนที่มีศักยภาพทราบว่าควรลงทุนในหุ้นเพิ่มหรือถึงเวลาขายออก
นักลงทุนมองหข้อมูลเมื่อประเมินศักยภาพในการทำกำไรของหุ้น เช่นอัตราส่วนราคาต่อกำไร กำไรต่อหุ้น และในบางกรณี ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ข้อมูลเหล่านี้เป็นที่ต้องการเพราะมันให้ตัวเลขที่สัมพันธ์กันซึ่งสามารถเปรียบเทียบหุ้นได้แม้ว่าบริษัทจะมีตัวเลขกำไรสุทธิรวมที่แตกต่างกันและดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะใช้ได้ผลหากคุณต้องการนำไปต่อยอดหรือดูเทรนด์ของหุ้นด้วยการมองเพียงไม่กี่ครั้ง การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงการดูหุ้นและวิเคราะห์รูปแบบทั่วไปของราคา และสังเกตว่าแนวโน้มมีพฤติกรรมอย่างไรเมื่อรูปแบบทางเทคนิคบางอย่างปรากฏขึ้น
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคทราบว่าเมื่อหุ้นทำราคาปิดสูงกว่าหรือต่ำกว่าค่าเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว มีแนวโน้มว่าจะราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวไปต่อในิทศทางที่ทำราคาปิด ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการเคลื่อนไหวของราคาล้วนๆ และบางครั้งเกิดจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีที่เชื่อถือได้ในการดูกราฟและบอกว่าหุ้นที่เทรดอยู่นั้นมีจุดแข็งหรือจุดอ่อนที่ใด และให้ข้อมูลแก่คุณว่าเป้าหมายกำไรของคุณเป็นจริงหรือไม่ ตามประวัติการลงทุนของบริษัทนั้นๆ
สำหรับโบรกเกอร์หุ้น ยุคที่อุตสาหกรรมการเงินต้องพึ่งพาการโทรศัพท์และสั่งเทรดเพียงอย่างเดียวนั้นจบไปแล้ว ในโลกยุคนี้ โบรกเกอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทางการเงิน แพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นโบรกเกอร์หุ้นที่ขยันขันแข็งที่สุด และทำให้ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการเทรดหุ้นง่ายขึ้นและลดลงจะเป็นผู้ชนะ สำหรับนักลงทุน โบรกเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสูงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยิ่งมีมีสเปรดต่ำและการบริการลูกค้าที่ดียิ่งดี เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต มีคะแนนรีวิวดี เพราะจะไม่เป็นอันตรายต่อเงินลงทุนของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องถอนเงินของคุณ
การตรวจสอบสถานะของโบรกเกอร์จะเผยประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่ออาชีพการเทรดของคุณ โบรกเกอร์บางรายอาจไม่เหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนที่อาศัยการเข้าออกบ่อยๆ จำนวนเงินทุนที่คุณมียังกำหนดด้วยว่าคุณเหมาะสมกับโบรกเกอร์นั้นๆ หรือไม่ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่มีเงินน้อยในการเริ่มต้นเทรดจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อกำหนดเงินฝากขั้นต่ำของโบรกเกอร์ที่เลือกนั้นสอดคล้องกับเงินทุนที่มีหรือไม่ นักเทรดรายวันต้องการโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ เนื่องจากกลยุทธ์ของพวกเขาอาศัยการทำกำไรที่น้อยกว่าจากการเทรดจำนวนมาก
โดยสรุปแล้ว
นักเทรดหุ้นมือใหม่ยังมีโอกาสที่ดีที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหากพวกเขาเลือกได้ดี พวกเขาสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมในการให้คะแนนหุ้นแต่ละตัวและลงทุนในตลาดหุ้นโดยไม่ปล่อยให้อารมณ์มารบกวน เรียนรู้วิธีการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนในตลาดทั้งหมด และรับความคิดเห็นอย่างมืออาชีพในขณะที่เปรียบเทียบมุมมองการลงทุนพวกเขากับมุมมองของคุณ เคล็ดลับในการเข้าสู่กลุ่ม 10% ที่มีกำไรในตลาดอย่างสม่ำเสมอคือการเข้าใจความรู้สึกของตลาด แต่เลือกที่จะไม่ติดตามตลาดอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เป้าหมายที่สมเหตุสมผล การปกป้องผลกำไรของคุณ และความปรารถนาที่จะยึดมั่นในกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้นักเทรดหุ้นมือใหม่หลีกความเสี่ยงเหล่านี้ที่นักเทรดหุ้นส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวเจอ
คุณสามารถเริ่มต้นตามเป้าหมายของคุณได้ทันทีด้วยการเปิดบัญชีเทรดและใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อเป็นนักลงทุนตลาดหุ้นที่ประสบความสำเร็จ การเปิดบัญชีเทรดที่ ATFX ไม่ใช่เรื่อยาก และคุณสามารถเริ่มเทรดได้ภายในหนึ่งวัน ATFX เป็นโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องดี สเปรดที่ยุติธรรม และมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและทางเทคนิคที่ได้รับรางวัล ซึ่งจะคอยแนะนำคุณเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ คุณจะได้รับประโยชน์จากเครื่องมือการเทรดฟรีๆ เช่น บัญชีเงินสมมุติและโปรแกรมการฝึกเทรดแบบตัวต่อตัว ทั้งหมดนี้จะเป็นของคุณเมื่อคุณเปิดบัญชี เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ด้วยการเข้าเป็นครอบครัวเดียวกัน ATFX เพื่อพัฒนาแผนการเทรดที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ และทำกำไรในตลาดหุ้น