เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล คำแรกที่ผู้คนมักจะคิดถึงแน่นอนว่าย่อมเป็นบิทคอยน์ ตั้งแต่สกุลเงินดิจิทัลถือกำเนิดมาจนถึงปัจจุบัน บิทคอยน์ถือได้ว่าเป็นผู้นำของสกุลเงินดิจิทัล ทั้งในแง่ของมูลค่าและการยอมรับให้เป็นสินทรัพย์สำรอง อย่างไรก็ตาม โลกสกุลเงินดิจิทัลในปัจจุบันได้เติบโตไปไกลมากกว่าปี 2010 แล้ว ตอนนี้เรามีสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางการแลกเปลี่ยนเท่านั้น แต่ยังมีสกุลเงินดิจิทัลที่เกิดมาเพื่อเป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับการต่อยอดสกุลเงินดิจิทัลให้ถูกนำไปใช้ในรูปแบบอื่นได้ ซึ่งสกุลเงินที่ทำเกี่ยวกับโครงสร้างพท้นฐานที่ใหญ่ที่สุด ณ เวลานี้คือ “อีเธอเรียม” การขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของอีเธอเรียมนำมาซึ่งคำถามที่ว่า “อีเธอเรียมจะสามารถแซงบิทคอยน์ขึ้นเป็นใหญ่ในเชิงมูลค่าในอนาคตได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนั้นเหมือนกันกับการลงทุนทั่วๆ ไป ถึงบิทคอยน์จะเป็นสกุลเงินที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่ควรถือบิทคอยน์เอาไว้เพียงสกุลเงินเดียว นักลงทุนที่ดีต้องรู้จักการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการกระจายความเสี่ยงไปยังการถือครองสกุลเงินอื่นๆ ด้วย นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมถือครองบิทคอยน์ร่วมกับอีเธอเรียม ด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งสองเหรียญมีพื้นฐานดี มีเป้าหมายในการใช้งานแตกต่างกัน รวมถึงเทคโนโลยีรองรับที่แตกต่างกันอีกด้วย
อีเธอเรียมมีรูปแบบเครือข่ายที่เป็นเอกลักษณ์จนเป็นที่น่าดึงดูดให้ลงทุนในระยะยาว
สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการคริปโตฯ หรือพึ่งเข้ามาในวงการใหม่ๆ อาจจะเข้าใจว่าบิทคอยน์และอีเธอเรียมใช้บล็อกเชนในการเก็บเข้ามูลเหมือนกัน นั่นเป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว ที่สำคัญ บิทคอยน์นั้นเกิดขึ้นมาจากความต้องการเป็นสกุลเงินทางเลือก นอกเหนือจากสกุลเงินปกติ แต่ยังคงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมเอาไว้ ในปัจจุบัน นอกจากเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนแล้ว นักลงทุนนิยมใช้บิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์สะสมมูลค่าเหมือนกันกับทองคำ และอยู่ให้ห่างจากมือของภาครัฐให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่อีเธอเรียมนั้นมีความแตกต่างออกไปจากบิทคอยน์อย่างชัดเจน ตั้งแต่จุดประสงค์ของการมีอยู่ของเหรียญ ผู้สร้างอีเธอเรียมต้องการให้ที่แห่งนี้เป็นแพลตฟอร์ม โอบอุ้มการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลในอนาคต ในช่วงแรก นักพัฒนานิยมใช้อีเธอเรียมในการสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันแบบไร้ศูนย์กลาง (DApp) การแลกเปลี่ยนมูลค่าบนแพลตฟอร์มของอีเธอเรียมก็ใช้สกุลเงินดิจิทัล “อีเธอร์” (ETH) เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยน ในขณะที่ปัจจุบันบิทคอยน์ยังคงทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางการแลกเปลี่ยน แต่อาณาจักรของอีเธอเรียมพัฒนาไปไกลถึงขั้นสร้างธนาคารที่ไร้ศูนย์กลาง (DeFi) และเกมที่ไร้ศูนย์กลาง (GameFi) ได้แล้ว
วิธีการขุดเหรียญถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับอีเธอเรียมและบิทคอยน์
ตั้งแต่ที่บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้น นายซาโตชิ นากาโมโต้ นามแฝงของผู้สร้างบิทคอยน์ได้จำกัดการมีอยู่ของเหรียญเอาไว้ที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น นอกจากนี้เขายังวางโครงสร้างเอาไว้ด้วยว่าเมื่อเหรียญถูกขุดไปจนถึงจุดๆ หนึ่ง จำนวนเหรียญของบิทคอยน์จะสามารถลดจำนวนของตัวเองออกมาได้ เพื่อทำให้จำนวนเหรียญที่มีนั้น ไม่ถูกขุดไปจนหมด 21 ล้านเหรียญในระยะเวลาอันสั้น ณ ตอนนี้จำนวนเหรียญบิทคอยน์ที่ถูกขุดออกไปทั้งหมดใกล้จะถึง 19 ล้านเหรียญแล้ว หมายความว่าเหลือเวลาอีกไม่มากที่บิทคอยน์จะถูกขุดออกมาจากระบบทั้งหมด
สำหรับอีเธอเรียมนั้นผู้สร้างไม่ได้วางจำนวนเหรียญเอาไว้อย่างจำกัด แต่อีเธอเรียมใช้วิธีสร้างกฎการแบ่งเปอร์เซ็นต์ของกำไรให้กับคนกลุ่มแรกที่ถือครองเหรียญอีเธอเรียมเอาไว้ อย่างไรก็ตามสกุลเงินอีเธอเรียมจะมีมูลค่าได้เพราะการเติบโตของผลิตภัณฑ์บนระบบ ยิ่งมีโปรเจ็คใหม่ๆ บนอีเธอเรียมเกิดขึ้น และเป็นที่ยอมรับมากเท่าไหร่ มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอีเธอเรียมก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญการได้มาซึ่งบิทคอยน์นั้นคือต้องนำคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการคำนวณสูงมาคำนวณสูตรทางคณิตศาสตร์ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นบิทคอยน์ไป (Proof of Work) แต่อีเธอเรียมนั้นไม่ได้ใช้วิธีนี้ในการได้มาซึ่งเหรียญ แต่ใครที่เอาเงินมาวางในระบบมากกว่ากัน คนนั้นก็จะเป็นผู้ที่ได้เหรียญอีเธอเรียมไปครอบครอง (Proof of Stake)
โดยสรุปแล้ว
คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าบิทคอยน์ถือได้ว่าเป็นเหรียญกระแสหลักที่นักลงทุนคริปโตทุกคนต้องมีติดพอร์ต แต่สกุลเงินทางเลือกอย่างอีเธอเรียมก็ได้รับความนิยม และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการยอมรับมาจากสิ่งที่อีเธอเรียมได้มอบโอกาสให้กับนักพัฒนามากมาย ครั้งหนึ่งในเดือนเมษายนปี 2021 อัตราการขุดเหรียญอีเธอเรียมเคยเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 2000 เมกะแฮรช เราเชื่อว่าในวันที่ 21 ล้านเหรียญของบิทคอยน์หมดลง บิทคอยน์จะถูกจดจำในฐานะตำนาน แต่ผู้ที่จะสานต่ออนาคตของวงการสกุลเงินดิจิทัลต่อไปจะต้องเป็นอีเธอเรียมอย่างไม่ต้องสงสัย
ทดลองเทรดในบัญชีเงินสมมุติหรือลงทุนในสนามจริงด้วยบัญชีเงินจริงเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนคริปโตเคอเรนซี่กับ ATFX ได้เลย!