ราคาน้ำมันดิบและการลงทุน
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเทรดน้ำมันดิบ ที่มาพร้อมกับการแนะนำเกี่ยวกับวิธีการลงทุนในน้ำมันดิบ ภายใต้สภาวะตลาดที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ผู้อ่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค, เรียนรู้วิธีการคาดการณ์จากกราฟราคาย้อนหลังและการหาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ
นอกเหนือจากการช่วยให้เกิดความเข้าใจการเทรดน้ำมันดิบแล้ว บทความนี้จะมีการอธิบายเกี่ยวกับชนิดของน้ำมันดิบและกลยุทธ์การเทรดเพื่อเริ่มต้นเทรดน้ำมันดิบ คุณยังสามารถหาข้อมูลว่าคุณควรลงทุนในน้ำมันดิบหรือไม่ได้จากที่นี่
กราฟราคาน้ำมันดิบ WTI
กราฟราคาน้ำมันดิบเบรนท์
วิธีการลงทุนในการเทรดน้ำมันดิบ?
3 ขั้นตอนในการลงทุนกับน้ำมันดิบ
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลด Metatrader 4
การสร้างความคุ้นเคยกับการเทรดน้ำมันดิบสามารถทำได้ผ่านการฝึกลงทุนด้วยบัญชีเงินสมมุติ ที่จะช่วยให้ให้นักลงทุนสัมผัสกับประสบการณ์ในแบบที่ไม่ต้องเสี่ยงด้วยเงินจริงบน Metatrader 4 หรือที่เรียกว่า MT4 แพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดระดับโลกในกลุ่มเทรดเดอร์ และช่วยให้สามารถเข้าถึงตัวเลือกการลงทุนมากมาย เช่น ดัชนี, สกุลเงิน, หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์
ขั้นตอนที่ 2: เปิดบัญชีเงินสมมุติ
เริ่มต้นเทรดน้ำมันดิบและเปิดบัญชีเทรดเงินสมมุติกับ ATFX โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลการเงินทั่วโลก และได้รับการยอมรับจาก Finance Magnates เป็นอันดับ 3 ในลิสต์โบรกเกอร์รายย่อยที่ใหญ่ที่สุด โดยวัดจากปริมาณการเทรดผ่านแพลตฟอร์ม MT4
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มต้นเทรดน้ำมันดิบ
วิธีการแบบดั้งเดิมสำหรับการลงทุนในน้ำมันดิบคือการเข้าสู่ตลาดน้ำมันดิบเพื่อทำการซื้อขายน้ำมันดิบหรือทำการซื้อขายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น ออปชั่น, ฟิวเจอร์ส, หรือผ่านตัวเลือกการลงทุนที่มีในตลาด เช่น ETFs สำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ (Brent) และ West Texas Intermediate (WTI)
จะลงทุนในน้ำมันดิบได้อย่างไร?
ในปัจจุบัน นักลงทุนสามารถลงทุนในตลาดน้ำมันดิบผ่านทาง:
ตลาดฟิวเจอร์ส: คาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในอนาคต
ตลาดสปอต: ซื้อขายราคาน้ำมันดิบในตลาด ณ ราคาปัจจุบัน
กองทุน ETF: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของน้ำมันผ่านการลงทุนในกองทุน ETF
ตลาดออปชั่น: สร้างโอกาสบนความผันผวน
Single stocks: ใช้ประโยชน์จากการเปิด long หรือ short คำสั่งซื้อขายกับบริษัทน้ำมัน
หุ้น: ซื้อหุ้นบริษัทน้ำมันด้วยการเปิดคำสั่งซื้อ (long) ขาย (short) และรับเงินปันผล
น้ำมันดิบคืออะไร?
ความหมายของน้ำมันดิบ:
น้ำมันดิบคือส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในรูปของเหลว ที่ถูกพบอยู่ในชั้นใต้ดินและมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปิโตรเลียม หลังจากที่ได้มีการขุดขึ้นมาแล้ว แรงดันจากชั้นบรรยากาศทำให้น้ำมันดิบคงอยู่ในรูปของเหลว น้ำมันดิบมีความสำคัญสำหรับภาคขนส่งที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาป อีกทั้งยังถูกใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการให้ความร้อน
โลกในปัจจุบันของเราได้มีการพึ่งพาน้ำมันในฐานะเป็นแหล่งผลิตพลังงานหลัก น้ำมันดิบจึงได้ถูกขนานนามในอีกรูปแบบหนึ่งว่า “ทองคำสีดำ” (black gold) น้ำมันสามารถนำมาใช้กับสิ่งต่างๆ ที่ทำจากพลาสติกในฐานะเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน
นักลงทุนมีแนวโน้มว่าจะเทรดน้ำมันเนื่องจากมีผลตอบแทนเป็นเงินปันผลที่น่าดึงดูด มีความผันผวนสูงและมีราคาหุ้นที่น่าสนใจ
ชนิดของน้ำมันดิบ
น้ำมันดิบมี 4 ชนิดโดยแบ่งตามน้ำหนัก
ขนาดเบามาก (Very light)
น้ำมันเบนซิน, เชื้อเพลิงอากาศยาน และปิโตรเลียม สามารถระเหยได้อย่างรวดเร็ว
ขนาดเบา (Light)
โดยปกติถูกใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถระเหยได้รวดเร็วและเป็นพิษ
ขนาดกลาง (Medium)
มีการใช้งานมากที่สุดเนื่องจากระเหยได้ต่ำและมีความหนืด
ขนาดหนัก (Heavy)
น้ำมันชนิดที่มีความหนืดมากที่สุด
ราคาน้ำมันดิบหลักของโลก
มีน้ำมันดิบหลายชนิดที่ถูกซื้อขายอยู่ในตลาด แต่หลักๆ แล้วจะมีราคาน้ำมันดิบหลักของโลกอยู่ 2 ชนิดเท่านั้นได้แก่น้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์
น้ำมันดิบ WTI
เป็นน้ำมันที่มีลักษณะที่เบากว่าที่ถูกใช้ในการผลิตน้ำมันเบนซิน WTI ถูกขุดและถูกผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา
น้ำมันดิบเบรนท์
ถูกกลั่นอยู่ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือและถูกใช้ในยุโรปและแอฟริกา
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบส่วนใหญ่มาจากผลการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน (OPEC) ซึ่งจะมีการประชุมเกี่ยวกับระดับการผลิตกับกลุ่มประเทศสมาชิกเป็นประจำทุกเดือน ความตึงเครียดทางการเมืองสามารถเพิ่มความผันผวนให้กับราคาน้ำมันได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบคือปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ซึ่งมีการเก็งกำไรจากนักลงทุนและทำให้เกิดจุดสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ในกรณีที่ระดับอุปทานเพิ่มขึ้น (มีปริมาณน้ำมันดิบที่ถูกเก็บสำรองอยู่ในคลังเพิ่มขึ้น) ราคาน้ำมันจะปรับตัวลง
การคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบจากธนาคารชื่อดัง
จากการที่ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ได้คาดการณ์ไว้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด $90 ต่อบาร์เรล ความกังวลที่ตลาดลงทุนมีต่อราคาน้ำมัน ก็ได้ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นจริงๆ ตามการเพิ่มขึ้นของระดับอุปสงค์และการลดลงของอุปทาน
โดยภาพรวมแล้ว ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 80% ในปี 2021 น้ำมันเบรนท์ได้ขึ้นไปสู่ระดับ $90 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ WTI ได้อยู่เหนือระดับ $80 ต่อบาร์เรล สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 การปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานได้ทำให้สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) และสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) รายงานว่าน้ำมันคงคลังในสหรัฐอเมริกาได้ลดลงสู่ระดับเกือบต่ำสุดใน 3 ปี
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนได้มองราคาน้ำมันดิบเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์ของโลกด์แมน แซคส์ ว่าราคาน้ำมันดิบจะขึ้นไปสู่ $90 ต่อบาร์เรล เมื่อมองย้อนกลับไปแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในช่วงเวลานี้อันที่จริงมาจากการปรับเพิ่มค่าตั๋วเครื่องบิน และภาพรวมเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
แบงค์ ออฟ อเมริกาได้คาดการณ์ว่าในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบโลกจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ถึง $100 ต่อบาร์เรล เพราะการกลับมาเดินทางอีกครั้งหนึ่งของผู้คน ตัวเลขคาดการณ์นี้สูงกว่าการคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์
การชะลอการผลิตน้ำมันดิบอาจช่วยแก้ไขราคาน้ำมันดิบได้ในระยะยาว แต่แนวคิดนี้จะขึ้นอยู่กับความเต็มใจของ OPEC+ และการยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่านของสหรัฐอเมริกา แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้เตือนเกี่ยวกับการกลับมาของปริมาณน้ำมันจากอิหร่านในตลาด เพราะหากเป้นเช่นนั้นจริง ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
การวิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบทางเทคนิค
เพื่อให้ข้อมูลการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญสำหรับการเทรดน้ำมันดิบ เราสังเกตเห็นว่าราคาน้ำมันดิบได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการผลิตถูกกระทบจากพายุเฮอริเคนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้น้ำมันดิบคงคลับลดลงไปสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ธนาคารชื่อดังหลายแห่งยังได้ออกมาสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคาน้ำมันดิบอีกด้วย
ตลาดน้ำมันดิบได้อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นมาตลอดปี 2021 ซึ่งได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กำลังจะตามมา จากกราฟด้านล่างนี้ Brent (daily frame) ราคาน้ำมันดิบเบรน์ ได้ผ่านระดับ $80 ต่อบาร์เรลไปได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความผันผวนให้กับราคาหนักมากขึ้นไปอีก
Brent (daily frame)
ราคาน้ำมันดิบอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นปี และสร้างความกังวลด้านเงินเฟ้อให้กับนักลงทุน จากกราฟด้านล่างนี้ Brent (daily frame) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้ผ่านระดับ $80 ต่อบาร์เรล ไปอย่างรวดเร็ว ทำให้กราฟความผันผวนมากขึ้น และมีเป้าหมายอยู่ที่แนวต้าน $81 ต่อบาร์เรล
กราฟ WTI รายสัปดาห์
การตัดสินใจครั้งล่าสุดของ OPEC ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงไตรมาส 2 เป็นแรงกดดันราคาน้ำมันให้ร่วงลงสู่แนวโน้มขาลง อย่างไรก็ตามการดำเนินนโยบายของ OPEC ด้วยการคงกลยุทธ์เดิมไว้ที่ 400,000 บารฺเรลต่อวัน ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบย้อนหลัง
Crude Oil Prices - Historical Annual Data
Year | Average Closing Price | Year Open | Year High | Year Low | Year Close | Annual % Change |
---|---|---|---|---|---|---|
2020 | $39.68 | $61.17 | $63.27 | $11.26 | $48.52 | -20.64% |
2019 | $56.99 | $46.31 | $66.24 | $46.31 | $61.14 | 35.42% |
2018 | $65.23 | $60.37 | $77.41 | $44.48 | $45.15 | -25.32% |
2017 | $50.80 | $52.36 | $60.46 | $42.48 | $60.46 | 12.48% |
2016 | $43.29 | $36.81 | $54.01 | $26.19 | $53.75 | 44.76% |
2015 | $48.66 | $52.72 | $61.36 | $34.55 | $37.13 | -30.53% |
2014 | $93.17 | $95.14 | $107.95 | $53.45 | $53.45 | -45.55% |
2013 | $97.98 | $93.14 | $110.62 | $86.65 | $98.17 | 6.90% |
2012 | $94.05 | $102.96 | $109.39 | $77.72 | $91.83 | -7.08% |
2011 | $94.88 | $91.59 | $113.39 | $75.40 | $98.83 | 8.15% |
2010 | $79.48 | $81.52 | $91.48 | $64.78 | $91.38 | 15.10% |
เพื่อที่จะสามารถคาดการณ์ทิศทางของสินทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ เราจะต้องมองไปที่รูปแบบราคาในอดีต ในคู่มือนี้เราจะลองไปดูที่ราคาน้ำมันย้อนหลัง เพื่อที่จะประเมินความสามารถในการตามเทรนด์ขาขึ้นที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้น
กราฟราคาย้อนหลัง มีความสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจากตราสารทางการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับในอดีต อย่างไรก็ตามความน่าเชื่อถือจะขึ้นอยู่กับความถี่ในการอัปเดตจากรายงานข่าวสารในตลาด ปัจจัยเหล่านี้สามารถวัดออกมาได้และจะทำให้คุณได้มองเห็นภาพทิศทางของตลาดว่ากำลังจะไปในทิศทางไหน เทรดเดอร์สามารถใช้รูปแบบราคาในอดีตเพื่อหาสัญญาณเข้าออก
ยิ่งคุณรู้สึกคุ้นเคยกับรูปแบบราคาในอดีตมากเท่าใด คุณยิ่งจะสามารถมองเห็นเทรนด์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รูปแบบราคาในอดีตส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของราคาในปัจจุบัน คุณจะทราบถึงจุดที่เกิดการทะลุกรอบแนวต้านแนวรับในอดีต และทราบได้ว่าตลาดกำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือลง การตัดสินใจเทรดอาจเป็นเรื่องยากและสภาวะทางจิตใจของคุณควรใช้กับการบริหารจัดการความเสี่ยง ดังนั้นรูปแบบราคาในอดีตสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณและให้คุณทราบว่าควรจะเริ่มที่จุดใด
สิ่งใดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของราคาน้ำมันดิบ?
5 ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ
ภูมิศาสตร์การเมือง
ปริมาณสำรองในคลังและระดับการผลิตในตลาดสามารถส่งผลต่อราคาได้
อุปสงค์และอุปทาน
การมีอุปสงค์ (Demand) ที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้น กลับกัน หากอุปทาน (Supply) มากกว่าอุปสงค์ในตลาด ราคาน้ำมันจะปรับตัวลง
จากตัวอย่างของตัวเลขของ API การลดลงของน้ำมันคงคลังจะทำให้ระดับราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนการเพิ่มขึ้นของน้ำมันคงคลังจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องสภาพอากาศ ปริมาณน้ำมันดิบในคลังและปริมาณการผลิตถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้ตลาดน้ำมันเกิดความผันผวน
OPEC
กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 13 ประเทศที่มีแหล่งน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ไนจีเรีย, คองโก, อิหร่าน, อิหร่าน, คูเวต, เวเนซุเอลา, ลิเบีย, กาบอง, แอลจีเรีย, แองโกลา และอิเควทอเรียลกินี ทุกๆ การตัดสินในของ OPEC และชาติพันธมิตร ราคาน้ำมันจะเกิดความผันผวนสูงเนื่องจากจะมีการกำหนดเป้าหมายและโควตาการผลิตน้ำมันของประเทศสมาชิก สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, จีน และรัสเซียไม่ได้เป็นสมาชิก (รัสเซียเป็นสมาชิกของกลุ่ม OPEC+)
สภาวะตลาด
ส่งผลกระทบต่อตราสารทางการเงินทั้งหมดรวมถึงน้ำมันดิบ ยิ่งมีนักลงทุนเก็งกำไรว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าใด สัญญาล่วงหน้าน้ำมันจะถูกซื้อเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น และยิ่งนักลงทุนเก็งกำไรว่าความต้องการน้ำมันในตลาดจะลดลงมากเท่าใด นักลงทุนก็ยิ่งขายสัญญามากขึ้นเท่านั้น
การบริโภคโดยผู้บริโภค
ส่งผลต่อระดับอุปสงค์ ดังนั้นความสามารถในการใช้งานจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน ถ้าหากคุณสังเกตจะพบว่าในช่วงวันหยุดฤดูหนาวหรือฤดูร้อน ราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการมีการเดินทางเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส
น้ำมันดิบเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
น้ำมันดิบมีความน่าสนใจทั้งสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดการเงินทั่วโลกมีสภาพคล่อง และความผันผวนที่สูง ทำให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสต่างๆ ได้ ถึงแม้ว่าอุปสงค์จะมีการเปลี่ยนแปลง มันก็มีอัตรากำไรที่สูง
อุตสาหกรรมนี้มีหลากหลายส่วนที่คุณสามารถลงทุนได้ เช่น คุณสามารถเลือกลงทุนกับบริษัทกลั่นน้ำมัน, บริษัทสำรวจ และบริษัทจัดจำหน่าย น้ำมันยังเป็นแหล่งพลังงานหลักและจะยังมีประโยชน์ในระยะยาว
กลยุทธ์การเทรดน้ำมันดิบ - เทรดเดอร์ผู้เริ่มต้นใหม่และมืออาชีพ
เดย์เทรดดิ้ง
เดย์เทรดดิ้งเป็นกลยุทธ์การเทรดที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดซึ่งเป็นการซื้อและขายน้ำมันภายในหนึ่งวัน การใช้กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงเล็กน้อยในช่วงระหว่างเวลาเปิดและปิดตลาด และคุณมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่ขาดทุนในช่วงระหว่างข้ามวัน
สวิงเทรดดิ้ง
กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือออเดอร์ไว้เป็นระยะเวลาหลายวันและอาจเป็นหลายสัปดาห์ ซึ่งโดยปกติจะถูกใช้โดยเทรดเดอร์ที่ไม่มีเวลาติดตามออเดอร์อยู่หน้าจอตลอดเวลา สวิงเทรดเดอร์จะเปิดออเดอร์เมื่อพวกเขาเก็งว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น
กลยุทธ์การเทรดตามเทรนด์
การเทรดตามเทรนด์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการตามทิศทางของสินทรัพย์เมื่อราคาเคลื่อนตัวไปในทิศทางหนึ่งๆ ไม่ว่าขึ้นหรือลง เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่จากแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น กลยุทธ์นี้จะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้ม เทรดเดอร์จะเข้าทำการเทรดเมื่อพบแนวโน้มบนตลาดซึ่งรวมถึงน้ำมัน
การถือยาว
การเทรดแบบถือยาวคือการที่เทรดเดอร์ถือคำสั่งซื้อชายไว้ระยะยาว ซึ่งอาจเป็นหลายเดือนหรือหลายปี นี่คือกลยุทธ์ที่เหมาะกับตลาดกระทิงที่มีแนวโน้มชัดเจน ที่สร้างจุดสูงสุดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ เทรดเดอร์อาจมองแนวโน้มระยะยาวว่ามีผลกำไรที่มากกว่าจากการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานประกอบกัน อีกทั้งยังดูแนวโน้มย้อนหลังและเทรนด์ของตลาดโลกได้อีกด้วย
ทำไมถึงต้องเทรดน้ำมันดิบกับ ATFX?
สิ่งจำเป็นของอุตสาหกรรม
น้ำมันดิบมีคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์และเคมีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถูกนำมาใช้ในเซ็กเตอร์อุตสาหกรรมและพลังงานในระบบเศรษฐกิจ มันคือรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์
ด้วยการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมที่รวดเร็ว ความต้องการทางด้านพลังงานทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากน้ำมันดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานที่สำคัญ ราคาของน้ำมันดิบจึงได้รับผลกระทบจากภูมิศาสตร์ทางการเมือง ตำแหน่งทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางทหาร
ปริมาณการซื้อขายมหาศาล
เนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั่วโลกและการเพิ่มขึ้นของความต้องการด้านพลังงาน น้ำมันดิบจึงถูกมองว่าเป็นราชาแห่งสินค้าโภคภัณฑ์ และถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณการเทรดสูงที่สุดของโลก
ประวัติของน้ำมันดิบ
ประวัติย้อนหลังของราคาน้ำมันดิบสำหรับ WTI แสดงให้เห็นว่า สินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานนี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านราคาอยู่เป็นประจำและค่อนข้างมาก ส่งผลให้เกิดโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ทราบถึงปัจจัยของตลาด
ลงทะเบียนบัญชี
ลงทะเบียนบัญชี
เปิดบัญชี
กรอกแบบฟอร์มใบสมัครบัญชีการเทรดจริงให้เสร็จ เมื่อเราได้ยืนยันตัวตนของคุณ เราจะสร้างบัญชีให้คุณ
ฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ
ฝากเงินด้วยบัตรเดบิต อี-วอลเล็ต หรือการโอนผ่านธนาคารเพื่อเริ่มต้นเทรด
เริ่มต้นเทรด
เทรดบนทุกอุปกรณ์ โดยรวมถึงคอมพิวเตอร์, Android, iPad และ iPhone หรือผ่านเว็บเบราว์เซอร์
คำถามที่พบบ่อย
US Oil (WTI)
UK Oil (Brent)
ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, แคนาดา และจีน
คุณสามารถซื้อออปชั่นและฟิวเจอร์สผ่านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หรือซื้อหุ้นกองทุน ETF น้ำมันได้ คุณยังสามารถซื้อหุ้นของบริษัทได้ด้วยเช่นกัน
น้ำมันดิบเป็นแหล่งพลังงานและเชื้อเพลิงหลัก อุตสาหกรรมหลายกลุ่ม เช่น ผู้ผลิต, สายการบิน และธุรกิจเกษตรต่างต้องพึ่งพาน้ำมันดิบทั้งสิ้น
น้ำมันหนึ่งบาร์เรลเท่ากับ 42 แกลลอน
น้ำมันหนึ่งบาร์เรลเท่ากับ 159 ลิตร
คุณสามารถซื้อออปชั่นและฟิวเจอร์สผ่านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หรือจะซื้อหุ้นกองทุน ETF น้ำมันได้ คุณยังสามารถซื้อหุ้นของบริษัทน้ำมันผ่านโบรกเกอร์ได้เช่นกัน
OPEC เป็นผู้กำหนดเป้าหมายและโควตาการผลิตน้ำมันให้กับประเทศสมาชิก ซึ่งส่งผลเป็นอย่างมากต่อราคาน้ำมัน
น้ำมันดิบเป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำมันเบนซิน ดังนั้นมันจึงสามารถควบคุมราคาน้ำมันเบนซินได้
เวลาจะแตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์และชนิดของสัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาสปอตหรือสัญญาฟิวเจอร์ส คุณสามารถดูช่วงเวลาที่สามารถลงทุนได้บน Metatrader 4(MT4) ได้ด้วยการคลิกขวาที่ตัวผลิตภัณฑ์ เช่น ‘WTI’ และคลิกซ้ายเพื่อเลือก ‘รายละเอียด’
เพื่อแสดงให้เห็นภาพ:
ช่วงเวลาการเทรดสัญญา Brent: 03:01-23:59 (วันศุกร์ 23:55) (เวลาเซิร์ฟเวอร์ MT4)
ช่วงเวลาการเทรดสัญญา WTI: 01:01-23:59 (เวลาเซิร์ฟเวอร์ MT4)
WTI ฟิวเจอร์ส: 01:01-23:59 (เวลาเซิร์ฟเวอร์ MT4)
เป็นการเปรียบเทียบการมีมูลค่าของน้ำมันนั้นไม่ต่างกับทองคำ น้ำมันดิบมีราคาแพง มีมูลค่าสูง ถูกสกัดขึ้นมาจากใต้ดินและมีสีดำ เช่นเดียวกับทองคำที่มีราคาแพง มีมูลค่า ถูกขุดออกมาจากชั้นใต้ดินเช่นกัน แต่มีสีทอง
- กราฟราคาน้ำมันดิบ WTI
- กราฟราคาน้ำมันดิบเบรนท์
- วิธีการลงทุนในการเทรดน้ำมันดิบ?
- จะลงทุนในน้ำมันดิบได้อย่างไร?
- น้ำมันดิบคืออะไร?
- ชนิดของน้ำมันดิบ
- การคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบจากธนาคารชื่อดัง
- การวิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบทางเทคนิค
- ราคาน้ำมันดิบย้อนหลัง
- สิ่งใดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของราคาน้ำมันดิบ?
- น้ำมันดิบเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
- กลยุทธ์การเทรดน้ำมันดิบ – เทรดเดอร์ผู้เริ่มต้นใหม่และมืออาชีพ
- ทำไมถึงต้องเทรดน้ำมันดิบกับ ATFX?
- ลงทะเบียนบัญชี
- คำถามที่พบบ่อย