การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีค่าส่วนต่างและ CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อน และมีความเสี่ยงที่จะได้กำไรและขาดทุนอย่างรวดเร็วสูงจากระบบเลเวอเรจ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรดด้วย CFD ดังนั้นก่อนลงทุน คุณควรพิจารณาก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยง ที่มีโอกาสจะขาดทุนจากลงทุนได้หรือไม่

ดาวโจนส์

ในหน้านี้เราจะมาเจาะประวัติของดัชนีดาวโจนส์และ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และข้อดีของการเทรด Dow ที่ ATFX รวมถึงเราจะมองไปที่โอกาสในการเทรดจาก DJIA ในอดีต นอกจากนี้ ด้วยการวิเคราะห์กราฟดาวโจนส์ เราสามารถพิจารณากลยุทธ์การเทรดต่างๆ ที่คุณสามารถใช้ในการเทรดดาวโจนส์เพื่อทำกำไร ส่วน FAQs จะเป็นการตอบคำถามที่พบบ่อยที่เราได้รับจากเทรดเดอร์เกี่ยวกับดาวโจนส์และวิธีการเทรดกับโบรกเกอร์ CFD

ทำไมถึงต้องดาวโจนส์?

ดาวโจนส์หรือ Dow Jones Industrial Average (DJIA) มีการเคลื่อนไหวของราคาที่มีเสถียรภาพมาตลอดในช่วง 120 ปีที่ผ่านมา ทำให้ดาวโจนส์เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้พิเศษ

 

การเปลี่ยนแปลงของราคากราฟดาวโจนส์ที่เห็นได้ชัด

ตั้งแต่จุดต่ำสุดในช่วงการเกิด COVID-19 เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2021, ดาวโจนส์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 76.8% ซึ่งสร้างโอกาสที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ระยะยาวรวมถึงโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น

เทรดเดอร์ที่เห็นอันตรายของ COVID-19 อาจได้ทำการ short และทำกำไรจากการปรับตัวลงของ ดาวโจนส์ และหลังจากนั้นพวกเขาได้เปลี่ยนฝั่งหันไปทำกำไรกับขาขึ้นของดาวโจนส์แทน

ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 48% ตั้งแต่ปี 2016 จนถึง 2018
การเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนธันวาคม 2016 ได้ทำให้ดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 48% นับตั้งแต่ปี 2016 ถึง 2018

ดาวโจนส์สร้างผลตอบแทน 185% ในช่วงระหว่างปี 2010 ถึง 2015 หลังจากช่วงเศรษฐกิจถดถอยในปี 2009 สิ่งนี้สร้างโอกาสในการลงทุนที่สำหรับเทรดเดอร์เนื่องจากดัชนีได้ปรับตัวขึ้น

ข้อดีของการเทรดกับ ATFX

สเปรดต่ำ

ทำกำไรของคุณได้มากยิ่งขึ้นด้วยสเปรดที่ยุติธรรม

ตลาดเปิดให้ลงทุนตลอด

คุณจะไม่พลาดความเคลื่อนไหวในตลาดลงทุนเพราะตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วัน

มีตลาดลงทุนหลากหลาย

ลงทุนกับสินทรัพย์ได้ทุกระดับและทุกตลาดที่ต้องการ

ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด จ่ายเพียงแค่สเปรดเท่านั้น

ดัชนีดาวโจนส์คืออะไร

ดาวโจนส์หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average (DJIA) เป็นดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรก

ประวัติของดาวโจนส์

Dow Jones มีความหมายว่าอย่างไร และเริ่มต้นอย่างไร? ประวัติย้อนหลังของดัชนีดาวโจนส์ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1896 เมื่อ Charles Dow และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเขา Edward Jones ได้สร้างดัชนีขึ้นมา Dow ถือเป็นดัชนีตลาดหุ้นตัวที่สองและมาจาก Dow Jones Transportation Average (ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐตัวแรก)

ในช่วงเริ่มต้น Dow Jones ประกอบไปด้วยบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 12 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกาที่มีการดำเนินงานในวงการยาสูบ, ฝ้าย, ทางรถไฟ, ก๊าซ, น้ำตลาด และน้ำมัน หลังจากนั้นดัชนีตัวนี้ได้ถูกพัฒนาและมีการคิดจากบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกาในปี 1928 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดัชนีได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้งเนื่องจากบริษัทบางแห่งได้ถูกถอดออกจากดัชนีและถูกแทนที่โดยบริษัทอื่น ในขณะที่นักลงทุนหลายคนมองดาวโจนส์ว่าเป็นอินดิเคเตอร์ที่ดีสำหรับใช้วัดสภาวะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นักลงทุนจำนวนหนึ่งมีความคิดที่แตกต่างออกไปโดยให้เหตุผลว่าบริษัทที่มีขนาดใหญ่ต่างสร้างรายได้จำนวนมากจากภายในสหรัฐอเมริกา

มีบริษัทกี่แห่งที่ถูกลิสต์อยู่บนดาวโจนส์?

สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่ามีบริษัทกี่ทั้งหมดแห่งที่อยู่บนดาวโจนส์ คำตอบคือดัชนีตัวนี้มีบริษัทอเมริกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 30 แห่ง นักลงทุนส่วนใหญ่เปรียบเทียบว่าการปรับเพิ่มขึ้นของดาวโจนส์คือเศรษฐกิจสหรัฐกำลังแข็งแกร่ง และการปรับตัวลงของดาวโจนส์หมายถึงเศรษฐกิจกำลังอ่อนแอ

บริษัทที่ถูกลิสต์อยู่ในดัชนีดาวโจนส์จะถูกจัดอันดับโดยให้น้ำหนักกับบริษัทที่หุ้นมีราคาสูงกว่ามากกว่าหุ้นที่มีราคาหุ้นต่ำกว่า หุ้นแต่ละตัวในดัชนีดาวโจนส์จะมีสัดส่วนการส่งผลต่อดัชนีตามมูลค่าโดยรวม ทำให้ดัชนีตัวนี้มีการถ่วงน้ำหนักตามราคา ในอดีตที่ผ่านมา บริษัทบางแห่งได้ถูกถอดออกจากดัชนี ดาวโจนส์หลังจากที่มูลค่าตามราคาตลาดได้ลดลงเกินกว่าระดับที่กำหนดไว้ บริษัทแห่งนี้จึงถูกแทนที่โดยบริษัทที่กำลังเติบโต

outdoor-financial-market-display-screen-prominently-featuring-chart-with-increasing-profit-rates-due-high-inflation-set-against-backdrop-bustling-city-street

นักวิเคราะห์และนักลงทุนบางคนได้วิจารณ์เกี่ยวกับการที่ดาวโจนส์มีการคำนวณตามราคาหุ้นแทนที่จะเป็นมูลค่าตามราคาตลาด ดังนั้นบริษัทที่มีราคาหุ้นต่ำแต่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่สูงจะมีน้ำหนักน้อยกว่าบริษัทที่มีราคาหุ้นสูงแต่มูลค่าตามราคาตลาดที่ต่ำ มีหลายคนถกเถียงว่าดาวโจนส์ควรจะมีการคำนวณตามมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัท

การวิเคราะห์กราฟดาวโจนส์

การวิเคราะห์กราฟดาวโจนส์คือการติดตามดูความเคลื่อนไหวของราคาดัชนีตามช่วงระยะเวลา การวิเคราะห์ทางเทคนิคของดาวโจนส์มีเป้าหมายในการหาโอกาสในการเทรดที่มีสมดุลระหว่างโอกาสในการขาดทุนและกำไร

อินดิเคเตอร์บางอย่างที่ใช้ในการวิเคราะห์กราฟดาวโจนส์ได้แก่ 200 DMA (เส้นค่าเฉลี่ย), ซึ่งติดตามว่าดัชนีมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือขาลง

อินดิเคเตอร์เส้นค่าเฉลี่ยทำงานโดยการรวมราคาปิดของราคาดัชนีในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ช่วง 200 วันที่ผ่านมา และหารด้วยจำนวนวัน เส้นค่าเฉลี่ยรายวัน 20-วัน และ 50-วัน จะแสดงเทรนด์ในระยะสั้นที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์

เทรดเดอร์ระยะยาวโดยปกติจะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 100-วัน และ 200-วัน ในการตัดสินใจการลงทุน พวกเขาจะทำการเทรดขึ้นเมื่อดาวโจนส์อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย และทำการเทรดแบบลงเมื่อดาวโจนส์อยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสอง

สวิงเทรดเดอร์ใช้เส้นค่าเฉลี่ย 50-วัน และ 100-วัน ในการหาจุดเข้าทั้งขาขึ้นและลง ส่วนเทรดเดอร์ระยะสั้นจะใช้เส้นค่าเฉลี่ย 50-วัน และ 20-วัน ในการตัดสินใจเทรดตามสไตล์การลงทุนของตัวเอง

กราฟดาวโจนส์และเส้นค่าเฉลี่ย 200-วัน

นอกเหนือจากการซื้อหรือขายเมื่อราคาอยู่เหนือกว่าหรือต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองคือการเทรดเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเส้นหนึ่งตัดกับอีเส้นหนึ่ง

กลยุทธ์นี้ทำงานเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยอันหนึ่งตัดกับเส้นค่าเฉลี่ยอีกอันหนึ่ง หากต้องการลงทุนในขาขึ้น ต้องรอให้เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น เช่น เส้น MA 20-วัน ตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวกว่า เช่น เส้น MA 50-วัน การตัดผ่านเช่นนี้แสดงถึงเทรนด์ขาขึ้นกำลังจะเริ่มต้น

หลักการเดียวกันนี้ใช้กับเทรดเดอร์ที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ยอื่น เช่น MA 100-วัน และ 200-วัน หรือ MA 50-วัน และ 100-วัน ส่วนเทรนด์ขาลงจะเกิดสัญญาณขึ้นเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยแนวโน้มขาลงมีโอกาสที่จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเส้นค่าเฉลี่ย 100-วัน ตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200-วัน

กราฟดาวโจนส์กับเส้นค่าเฉลี่ย 100-DMA และ 200-DMA

ลูกศรสีเขียวแสดงว่าเมื่อเส้น 100-DMA ตัดกับเส้น 200-DMA จากด้านล่างจะทำให้เกิดสัญญาณซื้อ ส่วนลูกศรสีแดงแสดงว่าเมื่อเส้น 100-DMA เคลื่อนลงต่ำกว่า 200-DMA เกิดเป็นสัญญาณขาย

โบรกเกอร์ที่ดีสำหรับการลงทุนในดาวโจนส์

โจนส์โบรกเกอร์ที่ดีสำหรับการลงทุนในดาวง (DJIA) เป็นโบรกเกอร์ที่ให้คุณสามารถทำกำไรจากการปรับเพิ่มขึ้นและลดลงของราคาได้ และ ATFX อนุญาตให้คุณทำเช่นนั้นได้โดยไม่ต้องใช้หลักประกันมากมาย การลงทุนในดาวโจนส์ กับ ATFX คือการลดต้นทุนทางการเงินและค่าคอมมิชชั่น

เนื่องจาก CFDs เป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนราคาจากดัชนี คุณจึงไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีมหาศาลเพื่อเทรดดัชนีเหมือนกับที่คุณจำเป็นต้องมีหากลงทุนกับโบรกเกอร์หุ้นทั่วไป ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ ดาวโจนส์มีราคสิ่งอยู่ที่ 34,000 จุด และคุณจะต้องการบัญชีที่มียอดเงินขั้นต่ำ $70,000 เพื่อเทรดดาวโจนส์จริงๆ เมื่อเทียบกับที่ ATFX ขอเพียงคุณมียอดเงินฝากขั้นต่ำเพียง $200 เท่านั้นก็สามารถลงทุนกับดาวโจนส์ได้ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะโบรกเกอร์จะให้คุณสามารถเทรดเศษส่วนของดัชนีแทนที่จะเป็นดัชนีทั้งหมด ดังนั้นคุณจะสามารถเริ่มต้นเทรดดาวโจนส์ได้ด้วยเงินที่น้อยกว่าที่คุณต้องใช้กับโบรกเกอร์หุ้นหรือในตลาดฟิวเจอร์ส

ATFX คิดค่าสเปรดจากการเทรดดัชนีดาวโจนส์เท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนกับโบรกเกอร์ทั่วไปที่คิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับทุกคำสั่งซื้อขาย ดังนั้นที่ ATFX คุณจึงไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่จะทำให้ผลกำไรของคุณลดน้อยลงแม้ว่าคุณเป็นนักลงทุนรายย่อย

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่เหมือนกับโบรกเกอร์ทั่วไปคือ คุณสามารถเทรดดาวโจนส์ CFD ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่โบรกเกอร์ทั่วไปจะต้องยึดกับชั่วโมงทำการของตลาดแบบปกติ

คำถามที่พบบ่อย

จุดสำหรับดาวโจนส์คือตัวเลขจำนวนเต็มและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ดาวโจนส์เคลื่อนจาก 33200 จุดไปที่ 33250 จุดซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง 50 จุด การเปลี่ยนแปลง 1 จุดในดาวโจนส์จะคิดเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ 1 จุดของ S&P 500 เนื่องจากดัชนีมีขนาดที่แตกต่างกัน

ไม่น่าเป็นไปได้ที่มูลค่าของ NASDAQ จะสามารถแซงดาวโจนส์เนื่องจากดาวโจนส์คำนวณจากบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ใน Nasdaq อย่างไรก็ตามเราก็คงไม่สามารถรับรองได้ว่าหุ้น 3,300 ตัว ที่ถูกคำนวณใน Nasdaq จะไม่สามารถมีมูลค่ามากกว่าหุ้น 30 ตัวในดาวโจนส์ได้

ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้มีหลักเกณฑ์การคัดหุ้นนำมาคำนวณในดัชนีที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น S&P 500 ต้องการบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (market cap) ขั้นต่ำ $11.8 พันล้าน มีสภาพคล่องสูง และมีหุ้นถูกลิสต์อยู่อย่างน้อย 10%

ดัชนีดาวโจนส์ประกอบไปด้วยบริษัทมหาชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 30 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา ดัชนีนี้จึงมีบริษัท เช่น Apple Inc., Coca-Cola, American Express, และ Goldman Sachs

วิธีการที่ดีที่สุดในการเทรดดาวโจนส์ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงอย่างหนักคือการขายดัชนีด้วยการเปิดคำสั่ง short โปรดอย่าลืมใช้คำสั่ง stop-loss ในการจำกัดผลขาดทุนของคุณและปกป้องตัวคุณเองจากการเกิดการดีดกลับอย่างรุนแรงในทิศทางตรงกันข้าม

มูลค่าตามราคาตลาด (market cap) ของ DJIA อยู่ที่ประมาณ $9.9 พันล้านในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ซึ่งตัวเลขนี้มีความผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวัน มูลค่าตามราคาตลาดของ DJIA ถูกคำนวณโดยการรวมมูลค่าตามราคาตลาดของบริษัททั้ง 30 แห่งที่สังกัดอยู่บนดัชนี

สัญลักษณ์การเทรดสำหรับดาวโจนส์จะแตกต่างกันตามแต่ละโบรกเกอร์ที่คุณเทรดเนื่องจาก Dow Jones Industrial Average และตัวย่อ DJIA เป็นเครื่องหมายทางการค้า โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะเรียก ดาวโจนส์ว่าเป็น Wall Street 30 หรือชื่ออื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน

การ short Dow Jones ถือเป็นความคิดที่ดีเมื่อราคากำลังปรับตัวลงเพื่อที่คุณจะสามารถทำกำไรจากแนวโน้มขาลงได้ อย่างไรก็ตามการเทรดทั้งหมดมีความเสี่ยง โดยเฉพาะกลยุทธ์การ short เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่าปรับตัวลงในระยะยาว

Dow Theory ยังคงสามารถใช้ได้ในปัจจุบันและถือเป็นพื้นฐานของวิธีการและการวิเคราะห์ทางเทคนิคในปัจจุบัน Dow Theory ถูกสร้างขึ้นมาตามทฤษฎีที่ว่า ราคาหุ้นได้รวมเอาข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ของหุ้นเอาไว้แล้วและนี่ยังคงเป็นเรื่องจริงในปัจจุบัน

คุณสามารถลงทุนในดาวโจนส์ได้ด้วยการซื้อดัชนีโดยตรงผ่านโบรกเกอร์หุ้น อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ต้องการเงินลงทุนจำนวนมาก อีกวิธีการหนึ่งสำหรับการลงทุนในดาวโจนส์คือการเทรด CFDs ผ่านทางโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หรือกองทุน ETF และออปชั่นผ่านโบรกเกอร์หุ้น

บริษัท S&P Dow Jones Indices เป็นผู้ตัดสินใจว่าบริษัทใดจะถูกลิสต์อยู่บนดาวโจนส์ หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นในดาวโจนส์มีความซับซ้อน แต่มีเป้าหมายในการหาบริษัทมาคำนวณในดัชนีดาวโจนส์คือการแสดงภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างแม่นยำ

บางคนอาจคิดว่าดาวโจนส์ได้ขึ้นไปสู่จุดจนถือเป็นฟองสบู่แล้ว แต่ความเห็นนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองการลงทุนของแต่ละคน สิ่งที่เรามั่นใจคือดาวโจนส์พึ่งทำจุดสูงสุดใหม่ และมีแนวโน้มว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อไปเรื่อยๆ

DJI Average เคยวิ่งอยู่ที่ 19804.72 จุดในวันที่ 19 มกราคม 2017 ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าดำรงตำแหน่ง และดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 35,084 จุดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2021

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website https://www.atfx.com/en-ae/ are not suitable
in your country. Such information and materials should not be regarded as or
constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments.
Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

使用限制

本网站的产品及服务不适合英国居民。网站内部的信息和素材不应被视为分销,要约,买入或卖出任何投资产品。请继续访问 https://www.atfx.com/en/

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for the UK residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, or a solicitation to buy or sell any investments. Please visit https://www.atfx.com/en/ to proceed.

ATFX

Restrictions on Use

Products and Services on this website are not suitable for Hong Kong residents. Such information and materials should not be regarded as or constitute a distribution, an offer, solicitation to buy or sell any investments.

使用限制: 本網站的產品及服務不適合香港居民使用。網站內部的信息和素材不應被視為分銷,要約,買入或賣出任何投資產品。

ATFX

Restrictions on Use

AT Global Markets (UK) Limited does not offer trading services to retail clients.
If you are a professional client, please visit https://www.atfxconnect.com/