การประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปเป็นการลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปวิ่งอยู่ต่ำกว่า $80 ต่อบาร์เรลสามารถปรับตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ $83 ต่อบาร์เรลได้
ราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์
“ความสนใจในน้ำมันเพิ่มขึ้นจากรายงานข่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าการประชุมในวันพุธนี้ของกลุ่ม OPEC+ จะได้ข้อสรุปเป็นลดการผลิตน้ำมันลงอย่างมีนัยสำคัญ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือมากกว่านั้น เพื่อหนุนตลาดที่ตกต่ำในช่วงเวลานี้เพราะความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย” Colin Cieszynski นักยุทธศาสตร์ตลาดลงทุนของ SIA Wealth Management กล่าว
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์พุ่งขึ้นแตะ $130 ต่อบาร์เรลภายหลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้ทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง
ในขณะเดียวกัน ธนาคารโกลด์แมน แซกส์ (Goldman Sachs) เชื่อว่าสหรัฐฯ ได้มอบอำนาจอธิปไตยด้านน้ำมันให้กับตะวันออกกลางแล้ว ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เจฟฟ์ เคอร์รี ซึ่งเป็นหัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกของโกลด์แมนกล่าวว่า ขณะนี้โอเปกมีแรงจูงใจที่จะลดการผลิตลง เนื่องจากเป็นผู้ผลิตน้ำมันเพียงแห่งเดียวในโลกที่มีน้ำมันเยอะที่สุด
“ผมชอบที่จะโต้แย้งกับใครก็ตามที่เชื่อในพลังงานทางเลือกมากจนลืมมองความเป็นจริง” เขากล่าว “ในประวัติศาสตร์ 60 ปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โอเปกในตอนนี้น่าจะมีอำนาจมากกว่าที่เคยเป็นมา สาเหตุหนึ่งคือโลกของเราไม่ได้ลงทุนในแหล่งพลังงานทางเลือกมากเพียงพอ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงเป็นฝ่ายคุมเกมด้านพลังงานแต่เพียงผู้เดียวจริงๆ”
นักวิเคราะห์ชี้ไปที่ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในฐานะสมาชิกโอเปกที่มีความสามารถผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาได้
การซื้อขายน้ำมันดิบลดลงแตะจุดต่ำสุดหลังจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกในเดือนมกราคม เมื่อวันพุธที่แล้ว EIA รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ที่เก็บข้อมูลมาจนถึงสัปดาห์จนถึงวันที่ 23 กันยายน ปรับตัวลดลง 200,000 บาร์เรล เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล การรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในวันพุธนี้จากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) คาดว่าสต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 4.15 ล้านบาร์เรล
จากผลสำรวจความคิดเห็นของเฟดสาขาดัลลัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันในช่วงสิ้นปีของพวกเขาลงแล้ว ในผลสำรวจครั้งล่าสุด พวกเขาลดตัวเลขลงจากค่าเฉลี่ย 107.93 ดอลลาร์ในไตรมาสก่อนเป็น 88.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตัวเลขที่แย่ที่สุดที่ประเมินออกมาคืออยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะเดียวกัน นักลงทุนฝั่งกระทิงได้ลดระดับราคาสูงสุดที่ WTI จะไปถึงลงจาก 160 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็น 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล