หากมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นเป็นธนาคารกลางฯ แรกที่เริ่มเปิดฉากทำสงครามค่าเงินแล้ว ดังนั้นคู่สกุลเงิน EURCHF จึงเป็นสองค่าเงินที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง กราฟ EURCHF ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1.00 มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และจากตอนนั้น ก็ได้ปรับตัวลดลงมาที่ 0.9640
กราฟ EURCHF รายวัน
ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งชาติสวิสได้เข้าแทรกแซงตลาดค่าเงินเมื่อพวกเขาได้ยกเลิกการตรึงค่าเงินระหว่าง EURCHF ออก ซึ่งทำให้คู่สกุลเงินทั้งสองปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1.00 อย่างไรก็ตาม คู่เงินทั้งสองในตอนนี้มีราคาซื้อขายที่ต่ำกว่าในสมัยนั้นมาก และธนาคารกลางยุโรปก็กำลังต้องการต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงไปมากกว่านี้อีก
ธนาคารแห่งชาติสวิสเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 0.75% ทำให้ยุคอัตราดอกเบี้ยติดลบสิ้นสุดลง ตลาดลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสวิสจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1% ก่อนที่จะขายเงินฟรังก์ออกไป
อัตราเงินเฟ้อในสวิตเซอร์แลนด์ในตอนนี้อยู่ที่ 3.5% YoY ซึ่งต่ำกว่ายูโรโซนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9% และในสหราชอาณาจักรที่อยู่ใกล้กับ 10% เป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนสกัดอัตราเงินเฟ้อลุกลามของยุโรป พวกเขาจำเป็นต้องทำให้สกุลเงินที่แข็งค่าพื่อลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าต่างๆ เช่น พลังงาน
เงินยูโรยังแข็งค่ามากกว่าฟรังก์เนื่องจากการเคลื่อนไหวของ SNB ยังไม่ได้ขึ้นถึงเป้าที่ธนาคารกลางฯ กำหนดไว้ สกุลเงินฟรังก์อ่อนตัวลดลงมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับสกุลยูโร ซึ่งนั่นอาจทำให้กราฟ EURCHF เจอระดับแนวรับที่ราคาบริเวณนี้
เป้าหมายต่อไปของคู่สกุลเงินนี้คือการกลับไปที่ระดับ 1.00 แต่นั่นจะต้องรอให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้อีก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนในปัจจุบันถือว่าตามหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่มากพอสมควร
หากเงินยูโรยังอ่อนค่าลงอีก ธนาคารกลางน่าจะเริ่มประเมินความเป็นไปได้ในการแทรกแซงค่าเงิน โดยอาจจะเริ่มส่งสัญญาณผ่านแถลงการณ์ก่อน หากทำเช่นนั้นจริง สกุลเงินยูโรจะได้โอกาสแข็งค่าขึ้น ในสัปดาห์หน้า เราจะเห็นข้อมูลตัวเลขความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจจาก IFO ของเยอรมัน ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตัวเลขเงินเฟ้อ ที่จะมีการเปิดเผยตลอดทั้งสัปดาห์