นับตั้งแต่เริ่มสัปดาห์นี้เป็นต้นมา ราคาน้ำมันค่อนข้างผันผวนจากกระแสข่าวที่ว่ากลุ่ม OPEC+ อาจกำลังหาวิธีเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันให้ได้วันละ 500,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังเป็นกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันในจีนที่มีโอกาสจะอ่อนแอต่อเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศจีน
กราฟราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์
ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม การรีบาวด์ล่าสุดมีสาเหตุมาจากรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นในกลุ่มโอเปกกำลังพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตครึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน
น้ำมันร่วงมากกว่า 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก Wall Street Journal รายงานว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะมีการพิจารณาในการประชุม OPEC+ ครั้งหน้าในวันที่ 4 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว SPA ของทางการได้ปฏิเสธการรายงานของ WSJ โดยยืนยันจากความเห็นของเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ซาอุดิอาระเบียไม่ได้หารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวกับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นของโอเปกตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ความจริงดังกล่าวได้ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
ในขณะเดียวกัน จีนมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และยังพบผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์อีกด้วย รัฐบาลประกาศมาตรการคุมเข้มทางสังคมใหม่ในกรุงปักกิ่งและปิดเขตกวางโจว ศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของจีน ตลาดลงทุนกลัวว่านโยบายปราบปรามโควิดอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โลกด์แมน แซกส์ กล่าวว่าข่าวโควิดในจีนจะเป็นเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันหายลงไป $10 ต่อบาร์เรล
“นักลงทุนรู้สึกผิดคาดกับกระแสการผลิตและการส่งออกที่สูงเกินคาดจากรัสเซีย แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่การคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจะมีผลบังคับใช้กับน้ำมันดิบจากรัสเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการจำกัดราคาน้ำมันของกลุ่ม G-7 ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะประกาศในสัปดาห์หน้า – โกลด์แมนกล่าวในบันทึกการวิจัยของตนเอง
อนึ่ง สหภาพยุโรปจะหยุดนำเข้าน้ำมันดิบทางน้ำจากรัสเซียเพื่อตัดการจัดหาเงินทุนไปยังรัสเซีย