ตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์นี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว หลังจากรัสเซีย-ยูเครนมีการเจรจาสันติภาพที่เบลารุส
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นเคยร่วงลงสู่จุดต่ำสุด จากการจู่โจมทางทหารในยูเครนของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และการคว่ำบาตรที่นำโดยชาติตะวันตก อย่างเช่นการตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบการชำระเงิน SWIFT การจำกัดเที่ยวบินของรัสเซียและสื่อของรัฐ และปิดกั้นธนาคารกลางของรัสเซียจากการใช้ทุนสำรองต่างประเทศมูลค่า 630 พันล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวมากที่สุดคือตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชีย ที่เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และตลอดทั้งเดือนมีนาคม สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนหยุดโฟกัสความขัดแย้งในยูเครน เนื่องจากการเจรจาก่อนหน้านี้ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อว่าจะมีการประชุมของทั้งสองประเทศต่อไป โดยมีประธานาธิบดีเบลารุสเป็นตัวกลางเพื่อกำหนดแนวทางยุติสงครามหากตกลงกันได้
ตลาดหุ้นฟื้นตัวจากปฏิกิริยาตลาด ที่มีต่อผลลัพธ์การเจรจา ซึ่งยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ ตลาดทุนในเอเชียฟื้นตัวขึ้นหลังจากการร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถึงกระนั้น สัญญาณนี้ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะกลับสู่โหมดกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเต็มตัว แต่เป็นเพียงการแสดงออก ที่มีความคาดหวังว่าจะได้เห็นการแก้ปัญหาวิกฤตในปัจจุบันอย่างสันติ
ณ ตอนนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด สังเกตได้จากนักลงทุนยอมรับค่าเงินดอลลาร์และทิ้งเงินยูโร ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนของหุ้นสหรัฐฯ ค่อยปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตลาดหุ้นเอเชียนั้นไม่เคยได้รับการผลกระทบจากวิกฤตยูเครน นักลงทุนรายใหญ่ส่วนใหญ่มาจากฝั่งตะวันตก ซึ่งพวกเขาเคยตื่นตระหนกกับสงคราม จนนำไปสู่การขายและเปลี่ยนความมั่งคั่งของพวกเขาไปเป็นทองคำและน้ำมันดิบในฐานะสินทรัพย์สำหรับหลบภัย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนน่าจะยังเป็นเทรนด์หลักในตลาดต่อไปในอนาคตอันใกล้ จนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงอย่างสันติ คำแถลงของรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าพวกเขาจะไม่จ่ายค่าส่วนต่างของหนี้รัฐบาล ให้กับเจ้าหนี้ต่างประเทศ ซึ่งจะยิ่งทำให้นักลงทุนหันไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำยังคงสูงขึ้น หมายความว่าอุปสงค์สำหรับสินทรัพย์ปลอดภัยนั้นเพิ่มขึ้นชัดเจนแน่นอน การเจรจารอบแรกระหว่างยูเครนและรัสเซียสามารถห้ามการหยุดยิง ที่รัสเซียยังคงกระทำกับชาวยูเครนอยู่ ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงของการคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นยังคงมีอยู่ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์สามารถปรับตัวขึ้นต่อไปได้
หุ้นตัวไหนที่น่าซื้อที่สุดในตอนนี้?
สำหรับการแนะนำหุ้นสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มดีที่สุด 10 ตัวให้กับผู้เริ่มต้น เราจะพิจารณาจากอัตราการเติบโตในปัจจุบัน หุ้นเหล่านี้สามารถทรงตัวท่ามกลางวิกฤตและฟื้นตัวได้เร็ว หุ้น 10 ตัวที่มีราคาต่ำกว่า $300 และเหมาะสำหรับการลงทุนในวันนี้ (นี่เป็นข้อมูลราคาหุ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2022)
- Dropbox Inc.- $22.77
- AMC Entertainment Holdings – $18.52
- Uber Technologies Inc. – $34.04
- Alibaba Group Holding Ltd. – $105.42
- Facebook – $208.11
- Squarespace Inc. – $27.76
- Compass Pathways Plc. – $14.52
- Spotify Technology SA – 148.48
- Twitter Inc. – $34.62
- American Airlines Group Inc. -$16.37
หุ้นฝั่งเอเชียที่มีราคาถูก และน่าลงทุน
- HK0001 (CK Hutchison Holdings Ltd.)
- HK0002 (CLP Holdings Ltd.)
- HK0005 (HSBC Holdings Plc.)
- HK0011 (Hang Seng Bank Ltd.)
- HK0017 (New World Development Company Ltd.)
- HK0939 (China Construction Bank Corp.)
- HK1658 (Postal Saving Bank of China Co. Ltd.)
- HK0388 (Hong Kong Exchange and Clearing Ltd.)
หุ้นเหล่านี้สามารถลงทุนผ่าน CFD ในระยะสั้นๆ ได้
เริ่มต้นเส้นทางการลงทุนของคุณได้แล้ววันนี้: https://www.atfx.com/th/markets/shares-trading