เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาพบว่าดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และอาจปรับตัวลดลงต่อจากความกังวลที่นักลงทุนมีต่อภาวะเศรษฐกิจ
กราฟ US30 รายวัน
ดัชนีดาวโจนส์ US30 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 33591 จุดโดยมีแนวรับอยู่ที่ 33300 จุดซึ่งหากหลุดลงมาได้ จะเปิดโอกาสให้กับการปรับตัวลดลงต่อของราคา
สหรัฐฯ ใกล้ชนกับเพดานหนี้แล้ว
ตามที่ประธานของ Evercore นาย Krishna Guha ประเมิน นักลงทุนอาจให้ค่ากับประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐฯ น้อยเกินไป กูฮากล่าวว่า นักลงทุนควรต้องกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นเพราะสหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ การเทขายในตลาดหุ้นอาจผลักดันให้ฝ่ายนิติบัญญัติลงมติเพื่อยกเลิกวงเงินกู้ยืมของประเทศ
“มันเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงครั้งใหญ่รออยู่ข้างหน้า” กูฮาบอกกับ CNBC “ดูสิ ทั้งๆ ที่ความเสี่ยงเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แต่เราทำตัวราวกับว่านี่คือละครที่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็จะไม่ผิดนัดชำระหนี้”
สำนักงานงบประมาณรัฐสภาเคยระบุว่า สหรัฐฯ จะถึงเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม โดยมีความเป็นไปได้ที่เงินจะหมดในเดือนกรกฎาคม หากฝ่ายนิติบัญญัติไม่ลงมติให้เพิ่มวงเงิน
เควิน แม็กคาร์ธี สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ สนับสนุนร่างกฎหมายให้เพิ่มเพดานหนี้ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แลกกับการใช้จ่ายที่เข้มงวดขึ้น แต่พรรคของเขาบางส่วนก็คัดค้านแผนดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกสั่นคลอนจากปัญหาของธนาคาร First Republic ซึ่งประกาศว่าจำนวนเงินฝากลดลง 40%
หลังจากการล่มสลายของ SVB การฝากเงินของบุคคลทั่วไปก็เกิดการชะลอตัว ธนาคารไม่เห็นยอดเงินฝากใหม่ รายงานผลประกอบการล่าสุดอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงหากนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารอื่นๆ จะล้มตาม
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับรายงานการเติบโตของ GDP สหรัฐฯ นักลงทุนต้องการทราบมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงจาก 2.6% เป็น 2%
นักลงทุนสามารถตามเทรนด์ขาลงของดาวโจนส์ต่อไปได้จนกระทั่งถึงการทดสอบแนวรับที่ระดับ 33,300 จุด