ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ กำลังทรงตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 10 เดือนรอการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้ออเมริกาเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการปรับตัวขึ้นสูงกว่าคาดการณ์
กราฟ USOIL รายวัน
ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นต่อจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นมาวิ่งอยู่ที่ประมาณ 4.6% น้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเป็นเวลาสามสัปดาห์ โดยแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เมื่อคิดเป็นรายไตรมาส ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022
สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้ เทรดเดอร์จะติดตามผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดในอนาคตอันใกล้ ตลาดอาจเผชิญกับปริมาณน้ำมันที่หายไป 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในไตรมาสที่สี่เพราะการลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย
ในขณะเดียวกัน โรงกลั่นน้ำมันของจีนเพิ่มการผลิตเพื่อใช้ประโยชน์จากอัตรากำไรการส่งออกที่แข็งแกร่ง กลุ่ม OPEC+ ได้ตัดสินใจที่จะขยายเวลาการลดอุปทานไปจนถึงสิ้นปีนี้ สิ่งนี้อาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลง ทำให้ตลาดเสี่ยงต่อการเจอราคาน้ำมันขึ้นอีกในปี2024
สัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด การประชุมสองวันของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เริ่มตั้งแต่วันอังคาร) คาดว่าจะรักษาแนวโน้มนโยบายการเงินชะลอตัวและจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เท่ากับว่าอัตราดอกเบี้ยของอเมริกาจะถูกแช่ไว้ที่ระดับสูงเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจกดดันเศรษฐกิจและลดความต้องการใช้น้ำมันได้
หลังสิ้นสุดฤดูร้อน ความต้องการเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ คาดว่าจะลดลงในเดือนต่อๆ ไป ผลการประชุมเฟดครั้งนี้จะส่งผลต่อทิศทางของเงินดอลลาร์ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในวันจันทร์นี้อีกด้วย ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมีแนวโน้มที่จะส่งผลเสียต่อตลาดน้ำมัน
นอกเหนือจากการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ แล้ว สัปดาห์นี้จะมีการประชุมดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางญี่ปุ่นด้วย
นักวิเคราะห์คาดว่า BOE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดเบสิส ในขณะที่ PBOC และ BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ตลาดจะจับตาดูสัญญาณจาก BOJ เกี่ยวกับนโยบายในอนาคต เนื่องจากสมาชิกบางส่วนของธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เสนอถึงความเป็นไปได้ที่จะยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ
ในประเทศจีน นักวิเคราะห์คาดว่า PBOC จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ ธนาคารกลางจีนพยายามสร้างสมดุลในการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และป้องกันการอ่อนค่าของเงินหยวนต่อไป
หลังจากการอ่านค่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการขายปลีกในเดือนสิงหาคมของจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วดีเกินคาด ความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้นช่วยให้ตลาดน้ำมันปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ PBOC ยังลดข้อกำหนดสำหรับผู้ให้กู้ชาวจีน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนทางการเงินสำหรับเศรษฐกิจจีนมากขึ้น