ในคู่มือนี้เราจะพูดถึงหัวข้อต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์ที่ดี มีความมั่นใจในแบบที่คุณต้องการ ในบทความนี้ เราจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงความผิดพลาดที่พบได้บ่อยในกลุ่มเทรดเดอร์ และสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องมีหากต้องการจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
เส้นทางสายนี้ไม่มีทางลัด แต่หากคุณมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ คุณก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้
วิธีการเป็นเทรดเดอร์ที่ดี
ตามความเห็นของเรา วิธีการเป็นเทรดเดอร์จะเป็นไปได้หากทำตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าใจบทบาทของคุณ: เทรดเดอร์คืออะไร และพวกเขาทำอะไร?
- เรียนรู้วิธีการเทรด: เลือกตลาดที่คุณต้องการเทรดและกลยุทธ์ที่คุณจะใช้
- ฝึกฝน: สร้างความมั่นใจและประสบการณ์ด้วยบัญชีเงินทดลอง
- เปิดบัญชีจริงและเริ่มต้นเทรด
1. เทรดเดอร์คือคืออะไร และพวกเขาทำอะไร?
เทรดเดอร์คือคำที่ใช้เรียกนักลงทุนในตลาดและเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) พวกเขาทำการซื้อและขายผลิตภัณฑ์ บริการ หรือคู่สกุลเงิน ในที่นี้เรากำลังพูดถึงเทรดเดอร์ในด้านการเงิน ดังนั้นเทรดเดอร์ในความหมายนี้คือผู้ที่ทำการซื้อและขายผลิตภัณฑ์ในตลาดการเงิน เช่น การเทรดฟอเร็กซ์, ดัชนีหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, การลงทุนในสกุลเงินคริปโต และอื่นๆ อีกมากมาย
กระบวนการซื้อขายจะเกิดขึ้นผ่านทางตัวกลางที่เรียกว่าโบรกเกอร์ โดยปกติจะเป็นการทำธุรกรรมระหว่างนักลงทุนรายย่อยกับตลาด ผ่านตัวกลางโบรกเกอร์ด้วยช่องทางออนไลน์ แม้จะยังมีโบรกเกอร์บางแห่งที่ยังมีการทำธุรกรรมผ่านทางโทรศัพท์และผ่านตัวบุคคล แต่โบรกเกอร์ประเภทนี้ก็เหลือน้อยแล้ว ในปัจจุบันโบรกเกอร์จะซื้อลิขสิทธิ์ของแพลตฟอร์มการลงทุน MT4 มาจากบริษัท MetaQuote แพลตฟอร์มนี้ทำให้การเข้าถึงตลาดการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุน ที่นี่คุณจะสามารถซื้อและขายตราสารต่างๆ และเข้าถึงตลาดลงทุนได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันมีเทรดเดอร์ประเภทใดบ้าง?
คุณสามารถแบ่งประเภทของเทรดเดอร์ได้ตามรูปแบบของระบบเทรดและกรอบเวลา (Timeframe) ที่พวกเขาถือออเดอร์เอาไว้ ตามรูปแบบการจัดประเภทเทรดเดอร์ของเรา เทรดเดอร์สามารถแบ่งเป็นแบบ passive หรือ active เทรดเดอร์แบบ passive คือนักลงทุนในระยะยาว พวกเขาอาจจะถือออเดอร์ของคุ๋สกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งไว้เป็นระยะเวลาหลายเดือน หรือนานกว่านั้น ในขณะที่เทรดเดอร์แบบ active คือเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์ในระยะสั้น ซึ่งสามารถแบ่งย่อยออกเป็นหลายหมวดหมู่ เช่น scalpers, day traders และ swing traders
- Scalpers จะถือออเดอร์ไว้ในระยะเวลาที่สั้นมาก บางครั้งอาจจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรือไม่ถึงหลักนาที พวกเขาจะใช้ไทม์เฟรมที่สั้น เช่น กราฟ 1 – 5 นาที
- Day traders จะไม่ถือออเดอร์ข้ามคืน ออเดอร์ทั้งหมดจะถูกปิดก่อนจะจบวัน เทรดเดอร์ประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะใช้ไทม์เฟรมระหว่าง 5 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- Swing traders จะเทรดตามเทรนด์โดยอ้างอิงกราฟไทม์เฟรม 4 ชั่วโมง หรือหนึ่งวัน นักลงทุนประเภทนี้อาจจะถือออเดอร์ไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์
ข้อดีของการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น?
ข้อดีหลักๆ ของการเทรดได้แก่:
– โอกาสในการทำกำไรมีไม่จำกัด: ใช่!! คุณสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการเป็นเทรดเดอร์ แต่ก็สามารถขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้นคุณจึงควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง และเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยง
– ตลาดที่มีความยืดหยุ่นสูง: ฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่เปิดให้ลงทุนตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์) นั่นหมายความว่าคุณสามารถเลือกที่จะเทรดได้เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการ คุณสามารถปรับช่วงเวลาในการเทรดให้ตรงกับตารางเวลาของคุณ แทนที่จะเป็นการปรับตารางเวลาของคุณเพื่อการเทรด
– นอกจากนี้คุณยังมีอิสระในการเลือก…
- ช่วงเวลาการเทรดของตัวเอง
- ตราสารที่ต้องการลงทุน
- จำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุน
- สามารถเข้าออกออเดอร์ได้หลายรอบ
- บริหารจัดการความเสี่ยงด้วยตัวเอง
- เลือกกลยุทธ์การลงทุนที่ชื่นชอบ
เลือกสถานที่เทรดได้เอง อาจเป็นสำนักงาน ห้องนอน ชายหาด หรือโรงแรมที่คุณพาครอบครัวไปพักผ่อน
ต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติใดๆ หรือไม่ก่อนที่จะเป็นเทรดเดอร์?
คุณไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติใดๆ ไม่มีเครื่องพิสูจน์ใดที่บอกว่าหากเทรดเดอร์ถือใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ พวกเขาจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า ทัศนคติที่ไม่คิดจะหยุดพยายาม กลยุทธ์การเทรดใหม่ๆ และเครื่องมือต่างๆเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ถ้ามีวินัย มีความขยันและทุ่มเท เทรดเดอร์คนนั้นก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ นี่คือเหตุผลที่ ATFX ให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงศูนย์เรียนรู้การเทรดที่มีความครอบคลุมได้ตลอดเวลา
การเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งนั้นยากหรือไม่?
คงไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามนี้ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การที่จะสามารถเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เหมือนกับความพยายาม ความกระตือรือร้น การมีวินัยในเรื่องอื่นๆ
ไม่มีสิ่งใดที่สามารถรับประกันได้ว่าคนคนหนึ่งจะสามารถเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ทำเวลาได้น้อยกว่า 4 ชั่วโมง แต่ถ้าหากเขาคนนั้นเลือกที่จะขยันและฝึกฝนอย่างหนัก เขาก็มีโอกาสที่จะไปสู่จุดหมายได้มากกว่า สัจธรรมข้อนี้ก็เป็นเรื่องจริงสำหรับการเทรดเช่นกัน
สิ่งที่เราทราบคือ เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะมีคุณสมบัติคล้ายกันตามที่ได้กล่าวไปนั่นคือ ความขยัน มีวินัย และมุ่งมั่นอดทน
วิธีการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
เราได้เน้นย้ำถึงสามสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการเป็นเทรดเดอร์ผู้ประสบความสำเร็จ
– เรียนรู้ เรียนรู้ และเรียนรู้ นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่นำไปสู่ความสำเร็จ ยิ่งคุณหาความรู้ให้กับตัวเอง มากเท่าใด คุณยิ่งจะรู้ได้เร็วว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดีสำหรับคุณ และตลาดการเงินเป็นตลาดที่มีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณควรที่จะเติบโตไปพร้อมกับตลาด ติดตามข่าวสารล่าสุดและสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ ในโลกเศรษฐกิจอยู่เป็นประจำ
– ฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน ตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น การเทรดก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งจะเก่งขึ้นมาเท่านั้น ยิ่งคุณมีประสบการณ์มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถที่จะตัดสินใจอย่างรอบรู้ได้มากขึ้นเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่เราได้แนะนำเทรดเดอร์มือใหม่ให้เริ่มต้นด้วยบัญชีเงินสมมุติ
– อดทน อดทน และอดทน จงจำไว้ว่าไม่มีเทรดเดอร์มือใหม่ที่ไหนสามารถประสบความสำเร็จได้เพียงชั่วข้ามคืน เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงและกลยุทธ์การเทรด ความอดทนจะช่วยให้คุณเรียนรู้สิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะเพิ่มโอกาสในการอยู่ต่อในโลกการลงทุนไปได้แบบยาวนาน
2. เลือกตลาดที่คุณต้องการเทรดและกลยุทธ์ที่คุณจะใช้
สิ่งแรกคุณควรเรียนรู้คือวิธีเริ่มต้นเทรด เข้าใจหลักการสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงและกลยุทธ์ หลังจากนั้นคุณจะต้องตัดสินใจว่าคุณจะให้เวลากับการเทรดในแต่ละวันได้มากเท่าไหร่ หากคุณทำงานแบบเต็มเวลาคุณก็อาจจะไม่สามารถเทรดได้ทั้งวัน ดังนั้นสวิงเทรดอาจเป็นคำตอบของคุณ วิธีนี้อาจจะใช้เวลาตัดสินใจไม่มาก แต่เป็นกลยุทธ์ที่คุณสามารถดูกราฟเพียงแค่หนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ
การเลือกกลยุทธ์ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานการเทรดที่มีความชัดเจนและง่าย ขั้นตอนแรกและเป็นขั้นตอนที่สำคัญคือการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับตัวเองและสภาวะแวดล้อมส่วนบุคคล หากคุณยังนึกไม่ออก ลองดูตัวอย่างกลยุทธ์ day trading ของ ATFX ได้
3. สร้างความมั่นใจและประสบการณ์ด้วยบัญชีเงินทดลอง
บัญชีเงินทดลองเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ทุกคนที่ต้องการเริ่มต้นเส้นทางการเป็นเทรดเดอร์ คุณสามารถใช้เงินทดลองเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม และกระบวนการที่เกี่ยวข้องการเทรดทั้งหมดได้ การเริ่มต้นด้วยบัญชีเงินทดลองสามารถสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้แบบไม่ต้องมีความเสี่ยง
ให้มองว่าบัญชีเดโมเป็นเหมือนรถจำลองก่อนที่จะขับรถจริง การทดลองระบบด้วยบัญชีเงินทดลองไม่มีความเสี่ยงทั้งกับตัวคุณเองหรือกับบุคคลอื่น คุณสามารถฝึกฝนและสร้างทักษะที่เป็นของคุณเอง พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจแบบ 100% ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่สนามจริง
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรเริ่มต้นด้วยบัญชีเงินทดลองก่อน
– ฝึกฝนตัวคุณเองให้มีความคุ้นชินกับแพลตฟอร์ม
– ฝึกฝนให้มีความคุ้นชินกับกลยุทธ์การเทรดที่คุณจะนำไปใช้งานจริง
– ฝึกฝนการจัดการความเสี่ยงของคุณ
– ทำความเข้าใจเรื่องจิตวิทยาในการเทรด
– สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
4. เปิดบัญชีจริงและเริ่มต้นเทรด
การเปิดบัญชีเทรดแบบมาตรฐานนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย คุณเพียงแค่ต้องกรอกแบบฟอร์มใบสมัครและทำการยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นกระบวนการด้านความปลอดภัยที่สำคัญ หลังจากคุณดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมเริ่มต้นเข้าสู่โลกของการลงทุนได้
การเริ่มเทรดต้องใช้เงินเท่าไหร่
การเริ่มต้นเทรดด้วยเงินจริงหมายความว่าคุณต้องใช้เงินของคุณเองในการเทรด จำนวนเงินสำหรับการเริ่มต้นที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคน โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะมีการกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ ถ้าหากคุณตัดสินใจจะลงทุนผ่าน ATFX เราขอแนะนำให้คุณฝากเงินขั้นต่ำที่จำนวน £/€/$500
โบรกเกอร์บางแห่งอาจกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่น้อยกว่านี้ แต่ก็มักจะแลกมากับข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ถ้าต้องการฝากเงินขั้นต่ำ £/€/$100 ก็อาจเพียงพอสำหรับการเทรดด้วยเงินน้อยๆ ในคู่สกุลเงินตัวหนึ่ง แต่ก็อาจจะอาจจะไม่เพียงพอกับการลงทุนในคู่สกุลเงินหลายๆ ตัว
การเทรดมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?
หนึ่งในความเสี่ยงสำคัญสำหรับการเทรดคือการขาดทุนเป็นจำนวนมากในช่วงแรก เรื่องนี้ถือเป็นธรรมชาติสำหรับการลงทุน แต่นักลงทุนมือใหม่มักจะไม่เข้าใจธรรมชาติข้อนี้ คิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับการลงทุน และยอมแพ้กับการเทรดไปก่อนที่จะให้เวลาเพื่อพัฒนาทักษะของตัวเอง ทั้งๆ ที่ระบบหรือกลยุทธ์ที่คิดมานั้นอาจจะเป็นไอเดียที่ดี และอาจจะใช้ได้จริงหากมีประสบการณ์เพียงพอ
เทรดเดอร์ผู้ประสบความสำเร็จมีจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์? โบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลจะต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ เช่นเดียวกัน คุณจะสามารถดูเปอร์เซ็นต์ของเทรดเดอร์ที่ขาดทุนได้จากโบรกเกอร์นั้นๆ
ไม่มีใครอยากอยู่ในกลุ่มนักลงทุนที่ขาดทุน การหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ในกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ดังนั้นในขณะที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด คุณควรจะใช้เฉพาะเงินที่คุณสามารถยอมรับการขาดทุนได้ เงินที่ไม่ได้ไปกู้ยืมใครมาเพื่อลงทุน ให้ลองคิดว่าถ้าหากคุณขาดทุนเงินจำนวนนี้ไป เงินจำนวนนี้ไม่ควรส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวของคุณ วิธีคิดแบบนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่คุณจะต้องเข้าใจว่าเหตุใดเทรดเดอร์จึงล้มเหลว เพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณ
ถ้าหากคุณเทรดเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จะก่อให้เกิดความกดดันมหาศาล อย่าลืมว่าคุณไปทำงาน คุณยังการันตีว่าจะได้ค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน แต่การลงทุนนั้นไม่ใช่ วันนี้คุณอาจจะได้ วันถัดไปคุณอาจจะเสียหรือขาดทุน คุณจะรู้สึกกดดัน และนำไปสู่ความเครียด จากนั้นก็จะพาลให้การตัดสินใจด้วยอารมณ์เกิดขึ้นมากกว่าเหตุผล คุณมีแนวโน้มว่าจะไม่ทำตามแผนการเทรดที่วางไว้และสามารถขาดทุนได้มากยิ่งขึ้น
การเทรดควรเป็นกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและท้าทาย เหมือนกับการเล่นเกมที่ตั้งโจทย์ว่ามีเงินอยู่ 1,000 ฉันจะสามารถปั้นเงินจำนวนนี้ให้ขึ้นไปเป็น 2,000 หรือมากกว่านั้นได้หรือไม่ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ได้กดดันมาก จะส่งเสริมให้คุณพัฒนาทักษะใหม่ได้ดีกว่า และการสร้างรายได้จะถือเป็นผลพลอยได้อีกทางหนึ่ง เป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวคุณเอง คุณจะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เลยถ้าหากคุณรู้สึกเครียดกับการเทรดในทุกๆ วัน
รูปแบบการสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดี
คุณสามารถสร้างประสบการณ์การเทรดที่ดีได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ในช่วงแรก ควรเริ่มต้นด้วยสภาพแวดล้อมการลงทุนแบบจำลอง หลังจากที่คิดว่าพร้อมแล้ว ให้ย้ายไปที่บัญชีจริง คุณจะพบสภาวะทางอารมณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลากว่าที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย หรือรู้สึกไม่ต่างระหว่างการเทรดในบัญชีเงินทดลองกับการเทรดจริง
เราขอย้ำอีกครั้งว่า คุณควรจะเทรดในแบบที่คุณรู้สึกสบายใจและเสี่ยงด้วยเงินที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคุณเอง