การซื้อทองคำเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่ ? เทรดเดอร์ นักออม และนักลงทุนต่างชื่นชอบทองคำด้วยเหตุผลหลายประการ ทองคำมีคุณสมบัติที่น่าประทับใจที่ทำให้มันแตกต่างจากหลักทรัพย์แบบดั้งเดิมเช่น พันธบัตรและตราสารทุน ผู้คนทั่วโลกถือว่าทองคำเป็นของมีค่าที่ดี แม้ว่าทองคำจะไม่ได้ให้กระแสเงินสดก็ตาม หลายคนโต้แย้งว่าทองคำสามารถเป็นเครื่องมือที่ดียิ่งในการป้องกันเงินเฟ้อ แต่นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวในการลงทุนในทองคำหรือไม่? และทองคำเป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่? แล้วคุณควรลงทุนในทองคำตอนนี้หรือไม่?
การลงทุนในทองคำจำเป็นต้องให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจว่าการลงทุนในทองคำมีข้อดีและข้อเสียอยู่บางประการ มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามามีบทบาท ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การลงทุน เวลา และการกำหนดราคา นี่คือบทความที่จะมาบอกให้คุณได้ทราบถึงข้อดีและข้อเสีย 5 ข้อที่คุณควรพิจารณาก่อนเริ่มลงทุนในทองคำ
5 ข้อดีของการลงทุนในทองคำ
1. ทองคำมีประวัติอันยาวนานในแง่ของการเพิ่มมูลค่า
นับตั้งแต่มีการค้นพบทองคำ มันก็ได้กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้คนต่างปรารถนาและใช้ทองคำในการสะสมความมั่งคั่ง แม้ว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่จะหยุดใช้ทองคำอ้างอิงความมีมูลค่าของสกุลเงินไปแล้ว แต่ทองคำก็ยังคงมีค่ามหาศาล โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งต่างจากเหรียญและธนบัตร ทองคำยังคงมีเสถียรภาพตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา นักลงทุนสามารถลงทุนในทองคำเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นหลังต่อไปได้
2. การป้องกันความเสี่ยงที่เชื่อถือได้ในช่วงเวลาวิกฤต
ในอดีต ทองคำทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและวิกฤตอื่นๆ ทองคำยังคงมีราคาแพงขึ้นแม้ว่าค่าครองชีพในปี 2022 จะยังคงเพิ่มขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ประสบกับภาวะเงินเฟ้อสูง ในช่วงเวลาเช่นนี้ สกุลเงินของมนุษยชาติจะมีมูลค่าลดลง (เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ) และผลตอบแทนของคลังจะไม่เอื้ออำนวย ปรากฏการณ์นี้หนุนให้นักลงทุนหันมาสนใจทองคำ เนื่องจากเงินสดและผลตอบแทนจากคลังกลายเป็นทรัพยากรปลอดภัยที่มีมูลค่าลดลง ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ดัชนีหุ้นร่วงลงทุกครั้งที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง
3. ทองช่วยให้คุณกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ
คุณควรมีทองคำมากกว่าหุ้นสามัญในพอร์ต จากผลสำรวจมานานกว่าหลายทศวรรษ ทองคำช่วยลดการขาดทุนในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นพลังที่ยอดเยี่ยมในกาเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงในพอร์ต โกลด์ฟิวเจอร์สหรืออีทีเอฟเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง ในขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์เอาไว้ในระดับต่ำ ไม่ว่าจะในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูและตกต่ำ จากคำแนะนำการลงทุนที่ว่าพอร์ตการลงทุนที่ดีควรมีสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กันน้อย ทองคำจึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะมีความสัมพันธ์เชิงปรปักษ์กับหุ้น
4. ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ความมั่งคั่งใหม่ก็ได้เพิ่มความต้องการทองคำของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีประเทศที่มีทองเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น อินเดียเป็นผู้ใช้ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก และนั่นเป็นเพราะว่าการเป็นเจ้าของเครื่องประดับทองคำนั้นแพร่หลายมาก ความเป็นเจ้าของทองคำในครัวเรือนของอินเดียแซงหน้าธนาคารกลาง 5 อันดับแรก การให้เครื่องประดับและของตกแต่งบ้านเป็นทองเป็นวัฒนธรรมทั่วไปในเอเชีย จีนและอินเดียเป็นผู้ถือครองทองคำแท่งอันดับต้นๆ ของโลก ชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการลงทุนในทองคำ
คาดว่าอุปสงค์ทองคำจะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากชนชั้นกลางที่มีสภาพคล่องมีความต้องการเครื่องประดับทองคำ แหวน และเครื่องประดับที่เกี่ยวข้องกับทองมากขึ้น ในทศวรรษที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันและผู้จัดการกองทุนต่างแห่กันไปถือครองทองคำและโลหะมีค่าเป็นช่องทางการลงทุนเนื่องจากความนิยมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำออนไลน์ เป็นช่องทางการลงทุนที่มีสภาพคล่องในการจัดสรรเงินทุนและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาเล็กน้อย
5. หนี้ภาครัฐทั่วโลกอยู่ในระดับสูง
หนี้ภาครัฐทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี หนี้รวมที่นับถึง ณ สิ้นปี 2020 อยู่ที่ 284 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2023 เนื่องจากเศรษฐกิจหลายประเทศไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกู้ยืมต่อไป การขาดดุลจำนวนมากในประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆ ทั่วโลกอาจบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินอีกครั้งอาจกำลังก่อตัวขึ้น แล้วตอนนี้ฉันควรลงทุนในทองคำหรือไม่? ใช่! นักลงทุนที่ชาญฉลาดควรใช้ข้อมูลนี้เป็นสัญญาณว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่จะปกป้องพอร์ตการลงทุนของพวกเขา
5 ข้อเสียของการลงทุนในทองคำ
เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบ การลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงและข้อเสียหลายประการ ปัญหาทั่วไปเหล่านี้มักทำให้นักลงทุนทองคำจำนวนมากท้อใจและไม่เลือกเก็บทองคำเอาไว้ในพอร์ตการลงทุน
1. หลังจากขึ้นแล้ว ราคาทองคำมักลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ราคาทองคำมักจะพุ่งสูงขึ้นเมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยหรือรุนแรง อ้างอิงได้จากพฤติกรรมของราคาทำงคำในปี 2011 ตอนนั้นราคาทองคำปรับตัวขึ้น มีราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ $1,888 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปรับตัวลดลงมาในช่วงกลางปี 2020 นี่แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำยังทำงานในฐานะสินทรัพย์คานช่วงเศรษฐกิจไม่ดีได้ดี แต่ก็ยังปรับตัวลดลงจากจุดที่ตัวเองเคยอยู่เมื่อสิบปีก่อนพอสมควร
หลักฐานที่ชัดเจนคือในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 เมื่อทองคำพุ่งขึ้นเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ หลังจากสร้างจุดสูงสุดใหม่ ราคาทองคำสปอตก็ค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ในอีกสองทศวรรษต่อจากนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนในทองคำขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่คุณนำมาใช้ นักลงทุนสายซื้อและถือยาวอาจรู้สึกท้อใจและไม่รอถึงทศวรรษเพื่อให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าที่พวกเขาซื้อมา ในช่วงการระบาดโควิดปี 2020 นักลงทุนไม่แน่ใจว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร หลายคนไม่สามารถบอกทิศทางราคาทองคำในอนาคตได้ ในกรณีของทศวรรษที่ 70 นักลงทุนจำนวนมากจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะซื้อทองคำทันทีหรือรอให้ราคาย่อตัวลงมาก่อนที่จะซื้อ การลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากการขาขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนจำนวนมากไม่ต้องรับความเสี่ยงสูง
2. เหรียญทองไม่ใช่เครื่องป้องกันเงินเฟ้อที่สมบูรณ์แบบ
เนื่องจากเหรียญทองคำหรือทองคำแท่งไม่ก่อให้เกิดเงินปันผลหรือการคืนดอกเบี้ยใดๆ ทองคำจึงไม่ใช่ ‘การป้องกันความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบ’ สำหรับเงินเฟ้อในระยะยาว การลงทุนในทองคำก็มีความเสี่ยงเช่นกัน และผู้คนก็ต้องการการชดเชยสำหรับความเสี่ยงนั้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีการจัดสรรทองคำอย่างมีกลยุทธ์ แต่ในระยะยาว หลายคนเชื่อว่าทองคำไม่ได้สร้างผลตอบแทนในระดับนั้น ซึ่งอาจเป็นเพียงการกักตุนทองคำไว้ในห้องนิรภัย ในทางกลับกัน แม้ทองคำจะสามารถให้ความคุ้มครองในช่วงที่เงินเฟ้อสูงได้ แต่หลักทรัพย์อื่นๆ เช่น TIPS หรือหุ้นทรัพยากรธรรมชาติ สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ดีกว่า
3. ทองคำไม่มีการผลิตหรือทำซ้ำ
หากพิจารณาจากมุมมองที่ไม่ใช่ราคา ทองคำหนึ่งออนซ์ที่เป็นเจ้าของจะยังคงเป็นทองคำหนึ่งออนซ์เมื่อเวลาผ่านไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนบางคนอาจชอบหุ้นของบริษัทมากกว่าเพราะว่าบริษัทเหล่านั้นอ้างอิงมูลค่ากับการผลิตสินค้าอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หุ้นเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคต่อไป ซึ่งจะสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้กับนักลงทุน หากเงื่อนไขทุกอย่างถูกต้อง บริษัทน่าจะมีพอร์ตสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้มีศักยภาพในการสร้างรายได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทที่มีกำไรมักจะให้เงินปันผลแก่นักลงทุนมากกว่า และนักลงทุนอาจนำกำไรไปลงทุนซ้ำในกิจการอื่นที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จึงถือเป็นเรื่องปกติที่จะพบนักลงทุนกู้คืนเงินลงทุนและได้รับเงินปันผลมากกว่าการลงทุนครั้งแรก
4. รูปแบบการใช้งานทองคำมีจำกัด
โดยส่วนใหญ่แล้ว ความต้องการทองคำที่พบมากที่สุดคือการนำทองคำไปทำเครื่องประดับ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของความต้องการทองคำในฐานะเครื่องประดับค่อยๆ ค่อยๆ ลดลง แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการเพื่อการเก็งกำไรทางการเงินมากขึ้น เป็นการยากที่จะบอกได้ว่าในอนาคตจะมีการใช้งานทองคำในรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกหรือไม่ มากกว่าการถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องประดับในทางอุตสาหกรรม หรือทางการแพทย์ เพราะทองคำไม่มีกระแสรายได้ คนส่วนใหญ่จึงพึ่งพาการเปลี่ยนแปลงความต้องการในระยะสั้นเพื่อระบุโอกาสในการการลงทุนในทองคำที่เป็นไปได้
5. ขาดเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินราคาทองคำ
การประเมินมูลค่าหุ้นเป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมา ซึ่งไม่เหมือนกันกับทองคำ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินสามารถประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใดๆ โดยอิงตามกระแสเงินสดในอนาคต มีอัตราส่วนทางการเงินที่ถูกต้องและข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้ค้นหาเป็นราคาต่อกำไรหรือมูลค่าราคาต่อบัญชีที่สามารถช่วยให้นักลงทุนทราบว่าพวกเขากำลังได้รับข้อเสนอที่ดีก่อนที่จะซื้อขายหุ้นของบริษัทหรือไม่ แต่หากเป็นทองคำ ข้อมูลในลักษณะเดียวกันไม่ได้มีความชัดเจนมากเท่า ทองคำมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกของผู้คนว่ามันมีค่าเพียงใด การคำนวณจะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่อคุณไม่สามารถบอกการเติบโตของรายรับจากทองคำได้ เพราะว่าคุณไม่สามารถคาดการณ์รายรับของทองคำได้
ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นของบริษัทยังสามารถให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้ว่าเมื่อจัดอันดับหุ้นมีโอกาสเกิดขาขึ้นหรือขาลงได้มากน้อยเพียงใด แต่สำหรับทองคำนั้น มีเพียงข้อมูลมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงตามอุปสงค์และอุปทานเท่านั้น ที่แย่ที่สุดคือ อุปสงค์และอุปทานของทองคำมักถูกขับเคลื่อนด้วยความตื่นตระหนกของตลาดแทนที่จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลกระทบต่อทองคำจริงๆ ความยากในการประเมินมูลค่าจึงทำให้การลงทุนในทองคำแท่งหรือเหรียญทองคำเป็นปัญหาสำหรับนักลงทุนมือใหม่
ตารางสรุปข้อดีข้อเสียของการลงทุนในทองคำ
การลงทุนในทองคำ | ||
5 ข้อดี | 5 ข้อเสีย | |
1. | ทองคำมีประวัติอันยาวนานในแง่ของการเพิ่มมูลค่า | หลังจากขึ้นแล้ว ราคาทองคำมักลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง |
2. | การป้องกันความเสี่ยงที่เชื่อถือได้ในช่วงเวลาวิกฤต | เหรียญทองไม่ใช่เครื่องป้องกันเงินเฟ้อที่สมบูรณ์แบบ |
3. | ทองช่วยให้คุณกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ | ทองคำไม่มีการผลิตหรือทำซ้ำ |
4. | ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง | รูปแบบการใช้งานทองคำมีจำกัด |
5. | หนี้ภาครัฐทั่วโลกอยู่ในระดับสูง | ขาดเกณฑ์มาตรฐานในการประเมินราคาทองคำ |
4 วิธีในการลงทุนทองคำ
ตอนนี้คุณมีข้อมูลโดยทั่วไปเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในทองคำแล้ว ประเด็นต่อไปที่ต้องพิจารณาคือวิธีการลงทุนในทองคำ การเข้าใจช่องทางทั่วไปที่คุณสามารถเป็นเจ้าของหรือซื้อขายทองคำได้จึงมีความสำคัญ
1. ลงทุนในทองคำแท่ง
วิธีที่เก่าแก่ที่สุดในการลงทุนในทองคำจริงคือผ่านทองคำแท่ง นักลงทุนซื้อทองคำแท่งผ่านตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เช่น JM Bullion หรือ APMEX ผู้คนยังซื้อจากผู้แนะนำแบบตัวต่อตัว ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ นักสะสม และโรงรับจำนำ เพราะวิธีพื้นฐานในการเป็นเจ้าของทองคำมีเพียงวิธีเหล่านี้ นักลงทุนจำเป็นต้องหาผู้ขายที่เต็มใจและยังคงมั่นใจว่าพวกเขามีปริมาณทองคำอยู่ตามที่ต้องการ และพวกเขาจะได้รับข้อตกลงที่ยุติธรรม คุณสามารถตรวจสอบราคาสปอตได้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ถูกโกง นอกจากนี้ คุณยังต้องใช้วิธีที่ปลอดภัยในการขนส่งและจัดเก็บทองคำ คุณอาจจะเก็บทองคำเอาไว้ในรูปของทองคำแท่ง เหรียญทองคำ หรือเครื่องประดับ
2. พิจารณา ETF ที่ถือครองทองคำ
หากต้องการข้ามความซับซ้อนในการเป็นเจ้าของทองคำแท่งและค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บทองคำอย่างปลอดภัย คุณสามารถพิจารณาซื้อ ETF ที่ซื้อขายทองคำได้ ซื้อกองทุนทองคำ ETF จากดัชนีชั้นนำทั่วโลก ETF ทองที่ได้รับความนิยม ได้แก่ SPDR Gold Trust และ iShares Gold Trust ETF ที่ซื้อขายในทองคำช่วยให้คุณมีสภาพคล่องและความสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะได้รับหุ้นที่ออกโดยทองคำจริงที่ถือโดยทรัสต์เท่านั้น เป็นวิธีที่ดีในถือครองทองคำในตลาดได้เหมือนกับการถือครองจริง ในขณะที่กองทุนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักลงทุนในอัตราส่วนค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3. โกลด์ฟิวเจอร์ส
โกลด์ฟิวเจอร์สเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการเก็งกำไรราคาทองคำ นักลงทุนสามารถคาดเดาได้ว่าราคาจะขึ้นหรือลง ตลาด COMEX Gold Futures (GC) เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดสำหรับสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เมื่อโลกออนไลน์เกิดขึ้น ผู้คนสามารถรับเคล็ดลับ บทวิเคราะห์ และติดตามการเปลี่ยนแปลงราคารายวันได้ นักลงทุนทั่วไปสามารถสั่งซื้อสัญญาทองคำได้จากที่บ้านอย่างสะดวกสบาย คลิกที่นี่เพื่อลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์
4. แลกเปลี่ยนทองคำในฐานะสกุลเงิน
XAUUSD เป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำในวันนี้ต้องมี และถ้าจะให้ดี ผู้ให้บริการนั้นๆ ก็ควรจะมีคู่เงินเทรดคู่กับทองคำด้วย เคล็ดลับฟรีๆ ข้อนึงก็คือ การซื้อขายทองคำเทียบคู่สกุลเงินช่วยให้คุณยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คุณสามารถใช้กลยุทธ์เดียวกับที่คุณใช้กับสกุลเงินและหุ้น มาใช้กับการลงทุนทองคำได้เลย กราฟที่แสดงความเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์ยังช่วยให้คุณตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ทันที นักลงทุนมือใหม่สามารถเปิดบัญชีเงินสมมุติและทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อสร้างรายได้จากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตามคำแนะนำของเรา
แล้วฉันควรลงทุนในทองคำหรือไม่
ที่จริงแล้ว ข้อดีของการลงทุนในทองคำมีมากกว่าข้อเสีย เครื่องมือการลงทุนที่เลือกขึ้นอยู่กับเหตุผลที่ต้องการซื้อทองคำและขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนคนนั้นๆ ต้องการเทรดในกรอบเวลาไหน (ระยะสั้นหรือระยะยาว) เจ้าของทองคำที่ต้องการแผนสำรองในช่วงสงครามหรือวิกฤตทางการเมืองจะต้องการทองคำจริงเพราะไม่ผูกติดกับระบบการเงินของประเทศ หากคุณต้องการเก็งกำไรระยะสั้น กองทุน ETF ทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์สจะทางเลือกที่เหมาะสมกว่าเพราะวิธีนี้ใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคา เรียนรู้วิธีการเป็นเทรดเดอร์
จะเริ่มต้นลงทุนในทองคำอย่างไร?
คุณสามารถเปิดบัญชีกับ ATFX และเริ่มเทรดทองคำ โลหะเงิน น้ำมันดิบ และสินทรัพย์อื่นๆ ได้แล้ววันนี้ การเดินทางสู่โอกาสการลงทุนใหม่ของคุณเริ่มต้นได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ที่ ATFX คุณสามารถเพลิดเพลินในโลกการลงทุนไปกับค่าสเปรดต่ำ การส่งคำสั่งไปยังตลาดอย่างที่รวดเร็ว และการสนับสนุนแบบไลฟ์สดตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเมื่อคุณต้องการเทรด หากคุณยังเป็นมือใหม่ในการเทรด คุณสามารถเปิดบัญชีเงินสมมุติกับ ATFX และฝึกฝนได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องฝากเงินจริง ทดสอบกลยุทธ์ทั้งหมดที่คุณต้องการ และทำความคุ้นเคยกับตลาดด้วยคู่มือการฝึกอบรมที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และมีให้บริการฟรี เมื่อคุณพร้อมอัปเกรดเป็นบัญชีจริง รับรองได้เลยว่าอนาคตที่คุ้มค่ากำลังรอคุณอยู่