บิทคอยน์ (BTCUSD)
BTCUSD ในปัจจุบัน
ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อราคาบิทคอยน์?
คริปโตเคอเรนซี่เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน และไม่มีหน่วยงานหรือส่วนกลางใดสามารถกำกับดูแลได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยส่วนใหญ่บิทคอยน์จะถูกนำไปเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดังนั้นบนกระดานเทรด มักจะมีการซื้อบิทคอยน์เทียบการขายดอลลาร์สหรัฐปรากฎให้เห็นเป็นมาตรฐานอยู่เสมอ หากราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นคุณจะสามารถขายและทำกำไรได้ แต่เมื่อราคาปรับตัวลงคุณจะขาดทุน
ถึงแม้ว่าบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีคนนิยมมากที่สุเ แต่ก็เป็นสกุลเงินคริปโตที่มีความผันผวนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2017 ก่อนที่จะร่วงลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงภายในเดือนเดียวกัน ราคาของบิทคอยน์สามารถผันผวนได้อย่างรุนแรงเพียงในวันเดียวได้
การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการกำกับดูแลและการประกาศต่างๆ เกี่ยวกับบิทคอยน์สามารถส่งผลกระทบต่อราคาของบิทคอยน์ได้เป็นอย่างมาก
โดยส่วนใหญ่บิทคอยน์จะเกิดความผันผวนหลังจากที่มีบริษัทนำคริปโตมาใช้ชำระค่าสินค้า หรือมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงได้กล่าวถึงหรือทำกาซื้อขายคริปโต สกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ค่อนข้างมีความไวต่อข่าวและสามารถส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ตัวอื่นๆ ในตลาดการเงินได้ ที่ผ่านมาในอดีต การเคลื่อนไหวของราคาจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของตลาดและข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารกลางทั่วโลกเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาของบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นลง พวกเขามักมีมุมมองต่อคริปโตในทางลบ คำพูดจากธนาคารกลางเกี่ยวกับคริปโต หรือการออกคำเตือนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลสามารถทำให้บิทคอยน์ปรับตัวอย่างรุนแรงได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อ PayPal และ Tesla ได้ประกาศรับบิทคอยน์ ราคาของบิทคอยน์ก็ได้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
การคาดการณ์ราคาบิทคอยน์จะขึ้นอยู่กับระดับอุปสงค์ของตลาดและข่าวสารที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ การเก็งกำไรคาดว่าราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นไปมากกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 64,000 ดอลลาร์ เนื่องจากบิทคอยน์กำลังไปทดสอบระดับราคาทางจิตวิทยาที่ $50,000
การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคสามารถส่งผลต่อราคาบิทคอยน์ การใช้กราฟ รูปแบบราคาในอดีตและสัญญาณสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนราคาได้เช่นกัน ในขณะที่การวิเคราะห์ on-Chain มีความคล้ายคลึงกับอัตราส่วน price-earnings ดังนั้นคุณจึงสามารถเก็งกำไรกับมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์เทียบกับจำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบิทคอยน์ได้
เราขอยกอีกหนึ่งตัวอย่างคือ ประเทศเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้บิทคอยน์ถูกกฎหมายในประเทศเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2021 นี่คือประเทศแรกที่ทำให้บิทคอยน์ถูกกฎหมายและสามารถนำมาใช้กับธุรกิจได้แบบไม่มีข้อจำกัด
รัฐได้พยายามที่จะหามาตรการในการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลด้วยการเรียกเก็บภาษีหรือทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งจากที่ผ่านมาได้มีการสอบสวนเกี่ยวกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทางออนไลน์ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือการปั่นราคา
อุปทานของบิทคอยน์มีจำกัดและคาดว่าจะหมดภายในปี 2140 ซึ่งอาจทำให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต ตราบใดที่อุปสงค์ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนักลงทุนเชื่อมั่นว่าราคาสามารถขึ้นไปได้ถึง 90,000 ดอลลาร์
คำแนะนำแบบทีละขั้นตอนว่าจะซื้อหรือเทรดบิทคอยน์ได้อย่างไร?
การเทรดบิทคอยน์สามารถทำได้ด้วยการเปิดโพซิชั่นคำสั่งซื้อขายของสกุลเงินดิจิทัลผ่านอนุพันธ์ทางการเงิน เช่น contract for difference (CFDs) หมายความว่าคุณสามารถซื้อขายบิทคอยน์ได้แบบไม่ต้องเป็นเจ้าของเหรียญโทเค็นจริงๆ สำหรับการที่จะเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลได้นั้น คุณจะต้องทำการซื้อสกุลเงินดิจิทัลจากกระดานเทรดออนไลน์โดยใช้ digital wallet
เทรดเดอร์บิทคอยน์จะเก็งกำไรราคาผ่าน CFDs ด้วยการเปิด short หรือ long ที่ ATFX คุณสามารถซื้อขาย bitcoin CFDs บนแพลตฟอร์ม MT4 ได้ และสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเทรดที่สามารถช่วยทำให้การลงทุนของคุณดีขึ้น ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลเนื่องจากคุณไม่ต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลจริงๆ แต่คุณเพียงแค่ทำการซื้อขายเศษของบิทคอยน์เท่านั้น
การเทรด Bitcoin ออนไลน์โดยใช้เลเวอเรจจะช่วยให้คุณสามารถทำการเทรดในจำนวนที่มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้จำนวนเงินที่มาก ดังนั้นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยของคุณจึงสามารถเปิดโพซิชั่นที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจเพื่อทวีคูณผลตอบแทนจากการลงทุน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการโพซิชั่นขนาดใหญ่จากเงินที่ลงทุนไปได้
หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ในการลงทุนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดบัญชีจริง หลังจากการลงทะเบียนในเบื้องต้นแล้ว คุณจะสามารถตัดสินใจซื้อหรือขายโดยใช้หรือไม่ใช้เลเวอเรจก็ได้ นักลงทุนที่ดีต้องไม่ลืมที่จะเรียนรู้และใช้งานคำสั่งจุดตัดขาดทุน (stop-loss) และจุดทำกำไร (profit-taking) นอกจากนี้ก็จะมี stops และ limits เป็นเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงที่จำเป็นที่จะช่วยป้องกันปัญหา slippage ได้
เพราะบิทคอยน์เป็นคริปโตที่มีความผันผวนและไม่มีการกำกับดูแล ดังนั้นอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (R:R) ควรจะมีการ8eo7’ความเสี่ยงค่อนข้างมาก ราคาบิทคอยน์สามารถเหวี่ยงอย่างรุนแรงได้อย่างง่ายดาย เช่น ในปี 2017 ราคา bitcoin ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1000% ก่อนที่จะลดลง 80% ในปี 2018 และในปี 2020 Bitcoin ได้ปรับตัวพุ่งขึ้นจาก $3,908 เป็น $12,470 ภายในเวลาไม่กี่เดือนในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ถึงกลางเดือนสิงหาคม
ขั้นตอนต่อไปคือการใส่อินดิเคเตอร์บางอย่างเพื่อช่วยในการเก็งกำไรทิศทางของราคา เช่น moving average, relative strength index หรือ Bollinger bands
คุณสามารถปิดคำสั่งซื้อขายของคุณได้ไม่ว่าคุณจะได้กำไรหรือไม่ก็ตาม และถ้าหากคุณตัดสินใจขายออเดอร์ทิ้งไป จำนวนเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีของคุณจะเป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด ผู้จัดการและฝ่ายช่วยเหลือลูกค้าสามารถแนะนำคุณในขั้นตอนนี้ได้
บิทคอยน์คืออะไรและทำงานอย่างไร?
บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนในตลาดบิทคอยน์สามารถซื้อหรือขายโทเค็นผ่านกระดานเทรดสกุลเงินคริปโตหรือแบบ peer to peer ซึ่งการทำธุรกรรมทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้เป็นสาธารณะซึ่งเรียกว่าบล็อกเชน
การเปลี่ยนแปลงของราคาคริปโตจะขึ้นอยู่กับระดับอุปสงค์ของตลาด เนื่องจากบิทคอยน์ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลใดๆ คุณสามารถส่งบิทคอยน์จากผู้ใช้งานหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งบนเครือข่าย หรือจะทำการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือสินทรัพย์อื่นๆ การเปิดบัญชีเทรดออนไลน์กับ ATFX จะให้คุณสามารถเปิดโพซิชั่นของ บิทคอยน์ซึ่งมีตัวย่อเป็น “BTC”
สกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto และหลังจากนั้นได้มีการปล่อยให้ซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส
ในช่วงเวลาต่อมาในปี 2017 จากข้อมูลของ University of Cambridge พบว่ามีผู้ใช้งานที่มีกระเป๋าเงินคริปโตประมาณ 6 ล้านรายที่ใช้บิทคอยน์ นอกจากการเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่แล้ว ผู้คนยังสนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับสกุลเงินที่ไม่มีศูนย์กลางและมีความเป็นเสรี
บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า mining (การขุด) ซึ่งก็เหมือนกับการพิมพ์เงินทั่วไป แต่ บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ การขุดเหรียญสามารถทำได้โดยใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการ์ดจอจึงได้ขาดตลาด และมีราคาแพง
คนขุดเหรียญบิทคอยน์จะรวมธุรกรรมต่างๆ ไว้ด้วยกันในบล็อกและจะเพิ่มเข้าไปยังบล็อกเชน ธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถถูกยืนยันได้ด้วย nodes ของเครือข่ายหลังจากที่ถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชนแล้ว คอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้ในกระบวนการนี้จะต้องมีขีดความสามารถที่สูงมากและสามารถประมวลผล 4 ธุรกรรมต่อวินาทีได้ในปัจจุบัน
หลังจากที่คนขุดเหรียญทำการยืนยันบล็อกของธุรกรรมเหล่านี้ด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครที่สามารถใช้ซ้ำได้ พวกเขาจะได้รับรางวัลจากการผลิตเหรียญขึ้นมาใหม่
คุณสามารถเทรดบิทคอยน์ด้วยเลเวอเรจได้ นั่นหมายถึงการยืมเงินจากโบรกเกอร์ของคุณเพื่อเพิ่มขนาดโพซิชั่นเทรดของคุณ ดังนั้นด้วยเงิน $1,000 ในบัญชีของคุณ คุณจะสามารถเทรดด้วยขนาดโพซิชั่นที่มากกว่า 10 เท่าของเงินจำนวนนี้ด้วยการใช้เลเวอเรจ ทำให้คุณสามารถมีโพซิชั่นขนาด $10,000 (10:1) ได้ และถ้าหากคุณเลือกเทรดด้วย 100:1 แล้ว คุณจะสามารถเทรด $10,000 ได้ด้วยเงิน 100 ดอลลาร์ในบัญชี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เลเวอเรจสามารถทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นได้ แต่ก็สามารถทำให้การขาดทุนรุนแรงได้เช่นกัน
กลยุทธ์การเทรดบิทคอยน์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และขั้นสูง
คุณสามารถเทรดบิทคอยน์ได้เหมือนกับการเทรดสินทรัพย์อื่นๆ โดยใช้กลยุทธ์ที่คุณชื่นชอบ เช่น การใช้ระดับแนวรับ/แนวต้าน, เดย์เทรดดิ้ง, เทรดตามเทรนด์, เส้นค่าเฉลี่ย หรือการเฮดจิ้ง เนื่องจากสกุลเงินคริปโตมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ตลาดแห่งนี้จึงเหมาะกับการเทรดในระยะสั้นมากกว่า
เดย์เทรดดิ้ง เป็นกลยุทธ์การเทรดที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ซึ่งจะเป็นการซื้อและขายหลักทรัพย์ภายในวันเดียว เดย์เทรดเดอร์จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงเล็กน้อยในช่วงระหว่างเวลาเปิดและปิดตลาด และจะไม่เปิดโพซิชั่นทิ้งไว้ข้ามคืน อย่างไรก็ตามกลยุทธ์นี้ต้องใช้ความมีวินัยที่สูงเพื่อทำให้ได้ผลกำไรเนื่องจากบิทคอยน์ มีความผันผวนสูง
บิทคอยน์ เดย์เทรดเดอร์ ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนตัวของตลาดในระยะสั้น เช่น ข่าวสารสกุลเงินคริปโต, การประกาศเกี่ยวกับการกำกับดูแล และข่าวสารหรือข่าวลืออื่นๆ ที่สามารถทำให้สกุลเงินคริปโตปรับตัวขึ้นหรือลง
การเทรดในกรอบ เป็นกลยุทธ์ทางเทคนิคอีกแบบหนึ่งที่ถูกใช้โดยเทรดเดอร์ พวกเขาจะใช้ระดับแนวรับและแนวต้านในการหากรอบการเคลื่อนตัวที่นักลงทุนสามารถซื้อและขายได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น โดยจะใช้แนวต้านเป็นกรอบบนและใช้แนวรับเป็นกรอบล่างในการเทรด
การเทรดตามเทรนด์ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ติดตามทิศทางของสินทรัพย์ เมื่อราคาเคลื่อนตัวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งไม่ว่าขึ้นหรือลง เทรดเดอร์บิทคอยน์จะสามารถใช้ประโยชน์จากจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ได้ในช่วงเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลง กลยุทธ์นี้ต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้มซึ่งเทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อขายในจังหวะที่บิทคอยน์วิ่งเป็นเทรนด์ได้
มีเทรดเดอร์บิทคอยน์อีจำนวนไม่น้อยที่ถือคริปโตไว้เป็นระยะเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี กลยุทธ์นี้จะเหมาะกับตลาดขาขีืนที่มีแนวโน้มชัดเจน โดยมองหาจุด higher highs หรือ lower highs เพื่อหาแนวโน้ม เทรดเดอร์ประเภทนี้จะมองที่แนวโน้มระยะยาวมากกว่าเนื่องจากสามารถทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น เรียนรู้วิธีการเป็นเทรดเดอร์ ที่นี่
ทำไมถึงต้องเทรด Bitcoin กับ ATFX ?
ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
ATFX ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการเทรดบิทคอยน์ CFD และไม่มีค่าธรรมเนียมทางธนาคารสำหรับการฝากเงินและถอนเงินจากบัญชี ATFX ซึ่งช่วยให้เจ้าของบัญชีได้กำไรจากการเทรดบิทคอยน์มากขึ้น
การซื้อขายทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วัน
เทรดบิทคอยน์ CFD ได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ที่ไหนเวลาใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ ATFX โบรกเกอร์ลงทุนบิทคอยน์ที่คุณเลือก
ลงทุนในบิทคอยน์ได้ทั้งสองทาง (Long & Short)
เทรดบิทคอยน์ได้ทั้งขาขึ้นและลงด้วย CFD ของเรา
ลงทุนกับบิทคอยน์ผ่านเลเวอเรจ
ที่ ATFX คุณไม่ต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลจริงๆ แต่ยังคงสามารถทำกำไรจากการขึ้นลงของบิทคอยน์ได้ และคุณต้องใช้หลักประกันเพียงแค่ 50% ของมูลค่าโพซิชั่น หมายความว่าผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจะทวีคูณขึ้น และเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
เริ่มเทรดบิทคอยน์ได้ใน 3 ขั้นตอนง่ายๆ
ลงทะเบียนบัญชี
เปิดบัญชี
กรอกแบบฟอร์มใบสมัครบัญชีการเทรดจริงให้เสร็จ เมื่อเราได้ยืนยันตัวตนของคุณ เราจะสร้างบัญชีให้คุณ
ฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ
ฝากเงินด้วยบัตรเดบิต อี-วอลเล็ต หรือการโอนผ่านธนาคารเพื่อเริ่มต้นเทรด
เริ่มต้นเทรด
เทรดบนทุกอุปกรณ์ โดยรวมถึงคอมพิวเตอร์, Android, iPad และ iPhone หรือผ่านเว็บเบราว์เซอร์
คำถามที่พบบ่อย
ราคาบิทคอยน์ ณ เวลาที่เขียนบทความมีราคาอยู่ที่ 46,113.10 ดอลลาร์
บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโต้” บิทคอยน์ ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่า mining นักลงทุนในตลาดบิทคอยน์สามารถซื้อหรือขายโทเค็นคริปโตผ่านกระดานเทรดสกุลเงินคริปโตหรือแบบ peer to peer
การปรับตัวของราคาจะขึ้นอยู่กับระดับความต้องการของตลาดและข่าวสารที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงด้านการกำกับดูแลและการประกาศเกี่ยวกับบิทคอยน์สามารถส่งผลต่อสกุลเงินคริปโตเป็นอย่างมาก
นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายคริปโตผ่านกระดานเทรดคริปโตหรือแบบ peer to peer ได้ ธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกเป็นรายการสาธารณะซึ่งเรียกว่าบล็อกเชน
นอกจากนี้การเทรดบิทคอยน์สามารถทำได้โดยการเปิดโพซิชั่นของสกุลเงินคริปโตผ่านการใช้อนุพันธ์ทางการเงิน เช่น CFDs นั่นหมายความว่าคุณสามารถเทรดบิทคอยน์ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของโทเค็นจริงๆ เทรดเดอร์บิทคอยน์สามารถเก็งกำไรกับราคาของ CFDs ได้ทั้งแบบ short หรือ long
คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเปิดบัญชีกับ ATFX
คุณสามารถเทรดบิทคอยน์ได้เหมือนกับการเทรดสินทรัพย์ตัวอื่นๆ ด้วยกลยุทธ์การเทรดที่คุณชื่นชอบ เช่น การใช้ระดับแนวรับ/แนวต้าน, เดย์เทรดดิ้ง, เทรดตามเทรนด์, เส้นค่าเฉลี่ย หรือการเฮดจิ้ง
จำนวนเงินที่ต้องใช้จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชีที่ ATFX
บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อและใช้ชื่อแฝงว่า “Satoshi Nakamoto” เพื่อนำมาใช้แลกเปลี่ยนกับสกุลเงิน, ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ
เนื่องจากระดับความต้องการและผันผวนสูง ราคาของบิทคอยน์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการเทรดผ่าน CFDs ราคาจะเริ่มต้นจากระดับขั้นต่ำ 0.01 BTC
ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเป็นหนึ่งในความแตกต่างระหว่างบิทคอยน์และบิทคอยน์ แคช ในตอนนี้บิทคอยน์จะมีค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมที่สูงกว่าบิทคอยน์ แคช นั่นคือสาเหตุที่บิทคอยน์ แคชแยกตัวออกมาจากบิทคอยน์ เพื่อแก้ปัญหาที่พบอยู่ในบิทคอยน์เดิม เช่น ค่าธรรมเนียมที่สูง ระยะเวลาการทำธุรกรรมที่ยาวนาน เป็นต้น