GBP/USD
กราฟ GBP USD
การคาดการณ์ GBP/USD
ความสำเร็จในการเทรดหรือลงทุนกับคู่เงิน British Pound และ US Dollar จะขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการคาดการณ์ราคา GBP USD อันดับแรกคือคุณจะต้องทำการคาดการณ์ของคุณเองแล้วจึงทำการซื้อหรือขาย (ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ) สกุลเงิน GBP USD ก่อนที่คนอื่นจะทำ ดังนั้นการเทรดและการลงทุนกับ GBP USD คือการพยายามหามูลค่าที่แท้จริงจากราคาที่มีอยู่ของคู่เงิน GBP USD และติดตามดูว่าตลาดฟอเร็กซ์จะเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณคิดหรือไม่ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการมีแผนกลยุทธ์สำหรับการออกเมื่อการคาดการณ์ GBP USD ของคุณไม่ติดเป็นตามที่คิดไว้
2 แนวทางที่ทำให้ทราบว่าควรซื้อหรือขายเมื่อใด
มีสองแนวทางสำหรับการพยายามทำความเข้าใจว่า GBP USD กำลังจะไปที่ใด แนวทางแรกคือการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความเข้าใจในเศรษฐกิจการเมืองและสภาวะทางการเงินในปัจจุบันของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา และเลือกลงทุนในสกุลเงินของประเทศที่คาดว่าจะ outperform โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะโฟกัสไปที่ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดเนื่องจากมันคือค่าใช้จ่ายของเงิน GBP หรือ USD ในขณะที่บางครั้งนักลงทุนจะเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยจะซื้อสกุลเงินของประเทศที่สามารถเติบโตได้มากกว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของแต่ละประเทศจะมีความเชื่อมโยงไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและความคาดหวังเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ดังนั้นมันจึงมีส่วนที่ทับซ้อนกัน
นักลงทุนบางส่วนกล่าวว่าการดูเพียงแค่สถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศนั้นก็เพียงพอแล้วเนื่องจากไดนามิกของประเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ในขณะที่นักลงทุนบางคนจะมองไปที่เศรษฐกิจ, การเมือง และสภาวะทางการเงินในอนาคตของประเทศเท่านั้น ความจริงคือทั้งสองส่วนอาจจะมีผลเช่นกันไม่ว่าจะในปัจจุบันหรือในอนาคตและอาจสามารถช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการโฟกัสไปที่ข้อมูลที่ไม่ชัดเจนและมุมมองที่คนส่วนใหญ่อาจจะมองไม่เห็น
แนวทางอีกอย่างหนึ่งคือการโฟกัสไปที่รูปแบบราคาในอดีตของ GBP USD แนวทางนี้ถูกเรียกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งจะเน้นไปที่การตามเทรนด์ราคาของ GBP USD และทำการเทรดหรือพยายามที่จะหาว่าเทรนด์จะกลับตัวหรือเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด
การคาดการณ์ GBP/USD ในระยะยาว
ทั้งสองแนวทางนี้มีความสำคัญแต่ถ้าหากคุณกำลังพยายามที่จะทำการคาดการณ์ GBP USD ในระยะยาวแล้ว เศรษฐกิจมหภาคมีแนวโน้มที่จะเอาชนะการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ เนื่องจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเน้นไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและแนวโน้มที่ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต แนวทางนี้ไม่ได้เน้นไปที่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าและส่งออก นักลงทุน หรือธนาคารกลาง ดังนั้นนักเศรษฐศาสตร์มหภาคจึงสามารถคาดการณ์ GBP USD ในระยะยาวได้ดีกว่า
การคาดการณ์ GBP/USD ในระยะสั้น
ถ้าหากคุณกำลังพยายามที่จะคาดการณ์ GBP USD ในวันนี้หรือในระยะสั้นแล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากมันสามารถแสดงระดับราคาเพื่อให้คุณบริหารจัดการโพซิชั่นของคุณได้ การวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาคสามารถทำได้ดีกับทิศทางในระยะยาว แต่ไม่สามารถบอกว่าราคาควรจะไปอยู่ที่ใดในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำนัก นี่คือเหตุผลที่นักเศรษฐศาสตร์มหภาคส่วนใหญ่ถึงได้ออกเป้าหมายแบบรายไตรมาสหรือรายปี เนื่องจากพวกเขาไม่ทราบว่าเมื่อใดที่ราคาจะไปถึงจุดที่ตั้งไว้
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ยังรวมถึงเหตุการณ์ของเศรษฐศาสตร์มหภาคเนื่องจากเหตุการณ์เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มหภาคเกิดขึ้นเกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์ระยะสั้นจะต้องติดตามปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อที่จะทราบได้ว่าเมื่อใดที่ความผันผวน GBP USD จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ GBP/USD
มีวิธีการเทรดหลายวิธีที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ดังนั้นในบทความนี้เราจะมามองที่รูปแบบการเทรดที่ทรงพลัง: rectangle
รูปแบบกราฟ rectangle คือเมื่อเวลาที่คู่ GBP USD อยู่ในกรอบระดับราคาหนึ่งที่มีพื้นและเพดานของระดับราคาค่อนข้างชัดเจนซึ่งเรียกว่าเป็นแนวรับและแนวต้าน สมมุติว่าราคาของ GBP USD มีการเด้งจาก 1.15 หลายครั้งในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนและไม่สามารถผ่านราคา 1.17 ได้ในเดือนเดียวกัน คุณจะเห็นได้ว่าแนวรับนั้นอยู่ที่ 1.15 และแนวต้านอยู่ที่ 1.17 ส่วนต่างระหว่างระดับราคาทั้งสองคือ 0.02
ถ้าหาก GBP USD มีการเทรดต่ำกว่าระดับ 1.15 นั่นหมายความว่าผู้ที่ซื้อในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนจะเกิดการขาดทุนและพวกเขาอาจจะปิดโพซิชั่นของตัวเองที่ระดับต่ำกว่า 1.15 เพื่อจำกัดผลขาดทุน อีกทั้งเมื่อราคามีการเทรดอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1.15 แรงขายจะมีมากกว่าแรงซื้อและราคาจะปรับตัวลง
ราคาจะปรับตัวลงเท่าใด? จากรูปแบบกราฟ rectangle ส่วนต่างระหว่างระดับแนวรับที่ 1.15 และระดับแนวต้านที่ 1.17 จะถูกนำไปลบออกจากระดับแนวรับซึ่งหมายความว่าราคาอาจจะไปถึง 1.15 – 0.02 = 1.13 หรือลดลง 200 pips แต่ถ้าหากราคามีการเทรดเหนือระดับ 1.17 เราคาดว่าราคาน่าจะไปถึง 1.19 การเทรดเมื่อราคาเบรกระดับแนวรับหรือแนวต้านนี้มีชื่อว่า breakout trading และน่าจะเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการเทรดเนื่องจากมันค่อนข้างชัดเจนว่าเทรดเดอร์ควรจะทำอย่างไรเมื่อราคาผ่านกรอบที่ตั้งไว้
วิธีการวิเคราะห์กราฟ GBP/USD?
จากรูปแบบกราฟ rectangle คุณสามารถมองหารูปแบบกราฟนี้ได้ในไทม์เฟรมต่างๆ เช่น กราฟราย 5 นาที หากคุณต้องการเทรดในระยะสั้น หรือกราฟราย 4 ชั่วโมง หรือรายวัน สำหรับการเทรดในระยะเวลาที่ยาวกว่า โดยทั่วไปไทม์เฟรมระยะสั้น เช่น กราฟราย 5 นาที มันมีความเสี่ยงสูงกว่าที่กราฟจะไม่เป็นไปตามรูปแบบนั้นๆ รูปแบบกราฟรายวันสำหรับ GBP USD อาจจะมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด และในตอนนี้คุณก็มีวิธีการวิเคราะห์กราฟ GBP USD อีกหนึ่งวิธีแล้ว
ข้อมูลย้อนหลังของ GBP/USD
อัตราแลกเปลี่ยนย้อนหลังของ GBP USD แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงิน British Pound, และ US Dollar ซึ่งผู้คนบางส่วนเรียกว่า “GBPUSD historical”
เราสามารถใช้ข้อมูลตามตารางข้างบนนี้เพื่อทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค เราจะเห็นได้ว่าปีที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 คือปี 2016 ซึ่ง GBP ได้ลดลง 16.05% เนื่องจาก UK เลือกที่จะออกจาก EU และปีที่ดีที่สุดคือปี 2017 เมื่อค่าเงิน British Pound แข็งค่าขึ้น 9.51% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงเป็นอย่างมากในปีก่อนหน้า ดังนั้นเราจึงมีไอเดียคร่าวๆ จากข้อมูลข้างต้นนี้เกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังได้จาก GBP USD
สิ่งใดที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน GBP/USD?
อัตราดอกเบี้ย
ราคาสำหรับการยืมและให้ยืมเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเทรดฟอเร็กซ์ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณมีเงินลงทุน 100,000 คุณจะฝากเงินของคุณไปยังธนาคารใน UK ที่จ่ายดอกเบี้ย 3% ต่อปีหรือธนาคารใน US ที่จ่ายดอกเบี้ย 1% ต่อปี? ถ้าหากไม่มีความแตกต่างเกี่ยวกับข้อเสนอหรือความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร ตัวเลือกที่เหมาะสมก็น่าจะเป็นการฝากเงิน 100,000 ของคุณไว้กับธนาคารใน UK เนื่องจากคุณจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
อัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ การเติบโตของเศรษฐกิจที่สูงถือเป็นเรื่องดีแต่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจะทำให้มูลค่าของเงินลดลง
การเติบโตของเศรษฐกิจ
เมื่อการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของการยืมเงินมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีการยืมเงินที่เพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยของพื้นที่ยูโรอยู่ในระดับต่ำมาเป็นระยะเวลานานเนื่องจากโอกาสทางเศรษฐกิจในการลงทุนนั้นค่อนข้างต่ำและเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ในตลาดเกิดใหม่หลายแห่งมีโอกาสในการสร้างธุรกิจเป็นจำนวนมาก ผู้คนมีแนวโน้มว่าจะยืมเงินเพื่อทำการลงทุนมากกว่า จึงทำให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศนั้นๆ เพิ่มสูงขึ้นด้วย
อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะดึงดูดเงินที่ต้องการผลตอบแทนจากธนาคารที่สูงและผู้คนที่ต้องการลงทุนในประเทศนั้นๆ
เงินเฟ้อ
เงินเฟ้อที่สูงหมายความว่ามูลค่าของเงินที่ลดลงและสามารถทำให้ผู้คนไม่ต้องการลงทุนได้
การเติบโตของเศรษฐกิจที่สูงและอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงมีแนวโน้มว่าจะดึงดูดกระแสเงินได้มากกว่าซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสกุลเงิน เงินเฟ้อจะส่งผลในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อนักลงทุนเลือกที่จะลงทุนในประเทศและสกุลเงินพวกเขามีแนวโน้มว่าจะมองไปที่การเติบโตของเศรษฐกิจเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยและเลือกที่จะลงทุนในประเทศที่มีผลงานดีที่สุด
ช่วงเวลาการซื้อขาย GBP/USD
ช่วงเวลาการซื้อขายของ GBP/USD
ช่วงเวลาการซื้อขายสำหรับคู่สกุลเงิน GBP USD ในตลาดฟอเร็กซ์จะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันศุกร์ New York Time (EST) อย่างไรก็ตามกิจกรรมบนตลาดสำหรับคู่สกุลเงิน Pound Dollar จะไม่อยู่ในระดับสูงตลอดเวลา โดยปกติปริมาณการซื้อขายเกือบทั้งหมดจะอยู่ในช่วงเวลาทำการของยุโรป
ธนาคารของญี่ปุ่นจะรอจนกระทั่งในช่วงบ่ายเพื่อให้ตลาดลอนดอนและแฟรงก์เฟิร์ตเปิดทำการก่อนที่จะทำการซื้อขาย ดังนั้นในช่วงเวลาเปิดตลาดของเราจะมีกิจกรรมการซื้อขายเป็นจำนวนมากและถือเป็นช่วงเวลาที่คับคั่งที่สุดของวัน ในช่วงกลางวันตามเวลาในลอนดอน เทรดเดอร์ในนิวยอร์กจะเริ่มเข้าร่วมทำการซื้อขายเนื่องจากช่วงเวลานี้ตรงกับช่วงเวลาเช้าของทางฝั่งตะวันออกทำให้มีปริมาณการซื้อขายของ GBP USD อยู่ในระดับมากที่สุด หลังจากเวลา 17:00 ในลอนดอน ปริมาณการซื้อขายเริ่มที่จะลดลงแต่การซื้อขายยังคงเปิดอยู่สำหรับเทรดเดอร์ทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและมีเทรดเดอร์จากทางฝั่งเอเชียมาเข้าร่วมอีกครั้งหนึ่ง
การเทรดสำหรับช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง
เนื่องจากการซื้อขายจะหยุดพักในช่วงเซสชั่นของทางฝั่งเอเชีย ราคาส่วนใหญ่จึงมีแนวโน้มที่จะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์ GBP USD สามารถใช้กลยุทธ์การเทรดที่อยู่ในกรอบได้ดีกว่าสำหรับช่วงเซสชั่นของทางฝั่งเอเชีย
กลยุทธ์ range-bound GBP USD คือการที่เทรดเดอร์ทำการขายเมื่อราคาไปถึงแนวต้านและซื้อเมื่อราคาถึงแนวรับ นอกจากนี้เนื่องจากราคามีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยผู้คนจึงพยายามที่จะทำกำไรจำนวนน้อยๆ เพื่อที่จะสามารถทำกำไรได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงเล็กน้อย โบรคเกอร์อย่างเช่น ATFX จึงมีการให้เลเวอเรจแบบเป็นตัวคูณ เช่น การเปลี่ยนแปลง 0.1% สามารถกลายมาเป็น 1%, 10% หรือสูงกว่าได้ ในขณะเดียวกันเทรดเดอร์ก็ควรที่จะเข้าใจว่าเลเวอเรจในระดับสูงสามารถส่งผลต่อกำไรในทางลบได้เช่นกัน นี่คือเหตุผลที่ ATFX จัดให้มีคอร์สการให้ความรู้และเครื่องมือฟรีกับเทรดเดอร์ซึ่งจะเน้นไปที่การควบคุมแบบมีประสิทธิภาพและการจัดการความเสี่ยง
เนื่องจากช่วงเวลาทำการของทางฝั่งยุโรปมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด เราจึงได้เห็นการเบรคจากกรอบการซื้อขายของทางฝั่งเอเชียได้ ตัวอย่างเช่น GBP USD มีการซื้อขายอยู่ในช่วงระหว่าง 1.15 และ 1.16 ในช่วงเซสชั่นเอเชีย แต่เมื่อทางลอนดอนและแฟรงก์เฟิร์ตได้มาเข้าร่วมแล้ว ราคาอาจทะลุผ่านแนวรับ 1.15 และลดลงไปสู่ 1.14, หรือเบรค 1.16 และไปสู่ 1.17 ได้
เทรดเดอร์บางประเภทอาจชื่นชอบการเทรดตามการเบรค และใช้ระบบ breakout ในช่วงเซสชั่นการเทรด GBP USD กลยุทธ์นี้คือการซื้อเมื่อราคาสามารถทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมได้และเมื่อมีการคาดการณ์ว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าหาก GBP USD ทะลุผ่านลงด้านล่าง พวกเขาจะทำการ short-sell ซึ่งก็คือการเก็งกำไรจากการปรับตัวลงของราคาเมื่อราคาเคลื่อนผ่านแนวรับลงมาด้านล่าง
กล่าวโดยสรุป ช่วงเวลาการซื้อขายของยุโรปจะมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดและเทรดเดอร์จำนวนมากต่างมองว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด GBP USD แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลและกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง รวมไปถึงความสามารถในการเทรด ตัวอย่างเช่น มันคงเป็นเรื่องยากที่จะให้เทรดเดอร์ชาวญี่ปุ่นอดนอนในช่วงกลางคืนและทำการเทรดในช่วงเวลาทำการของยุโรป เดือนที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด GBP USD คือเดือนที่ไม่ใช่ฤดูร้อนเนื่องจากความผันผวนของตลาดมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับต่ำในช่วงฤดูร้อนของยุโรป ที่ ATFX คุณสามารถทำการเทรดในช่วงวันอาทิตย์จนถึงวันจันทร์และมีสเปรดที่ต่ำตลอดทุกเซสชั่นได้
วิธีการเทรดหรือลงทุน GBP USD แบบมืออาชีพ
3 ขั้นตอนง่ายๆ
1. สร้างกลยุทธ์การเทรด
ถ้าหากคุณเทรดคู่เงิน GBP USD ในปี 2022 การมีกลยุทธ์การเทรดที่สามารถใช้การได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ กลยุทธ์การเทรดนี้จะบอกคุณว่าเมื่อใดควรซื้อและเมื่อใดควรขาย GBP USD และมันจะบอกคุณว่าเมื่อใดควรล็อคผลกำไรหรือตัดขาดทุน คุณยังสามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อหาช่วงเวลาในการเทรด GBP USD และช่วงเวลาที่ไม่ควรเทรด GBP USD การใช้เวลาไปกับการพัฒนากลยุทธ์นี้จะช่วยคุณประหยัดเวลา เงินทุน และความเครียดได้ คุณยังสามารถใช้บัญชีเดโมเพื่อทดสอบกลยุทธ์นี้ได้ด้วยเช่นกัน แต่มันก็ไม่มีสิ่งใดที่จะดีไปกว่าการได้สัมผัสตลาดจริงเนื่องจากคุณจะไม่ได้สัมผัสกับความกดดันในการเทรดบนบัญชีเดโม อีกทั้งเราต้องการทำเงินจริงๆ ดังนั้นเราควรที่จะทดสอบมันบนตลาดจริงกับโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มเทรดที่ดี เราจะสามารถปรับกลยุทธ์นี้ได้จากผลตอบรับที่เกิดขึ้นจากการทดสอบบนตลาดจริง2. สร้างกลยุทธ์การเดิมพันที่มีประสิทธิภาพ
การมีกลยุทธ์การเทรดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราจะต้องหาขนาดของการเทรดที่มีความเสี่ยงเหมาะสมเพื่อที่เราจะไม่ต้องขาดทุนจนหมดตัวก่อนเห็นผลลัพธ์จากกลยุทธ์การเทรด GBP USD การหมดเงินถือเป็นปัญหาทั่วไปสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่เดิมพันด้วยเงินจำนวนมาก ในขณะที่มืออาชีพเกือบทั้งหมดจะไม่เสี่ยงมากกว่า 1.5% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง แพลตฟอร์มเทรดที่ดีจะช่วยคุณในการคำนวณความเสี่ยงต่อการเทรดหนึ่งครั้ง3. ปรับใช้และปฏิบัติตามกลยุทธ์การเทรดของคุณ
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือการปฎิบัติตามแผนและการเปลี่ยนระบบการเทรด เทรดเดอร์จะชอบทำเช่นนี้เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อมั่นในกลยุทธ์ของตัวเอง วิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างความเชื่อมั่นคือการค้นหาข้อมูลกลยุทธ์ GBP USD ของคุณเองและทำการเทรดจริง แต่การเทรดด้วยเงินจริงมีแนวโน้มว่าจะช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมากเนื่องจากมันบังคับให้เทรดเดอร์ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วทำไมถึงต้องเทรด GBP USD กับ ATFX?
สเปรดที่มีการแข่งขันสูง
เพลิดเพลินกับสเปรดที่แข่งขันได้ใน EURUSD และ GBPUSD
เทรดฟอเร็กซ์ได้แบบไม่มีหยุดตลอด 24/5
24 ชั่วโมงต่อวัน, 5 วันต่อสัปดาห์, ให้คุณมีความยืดหยุ่นและเวลาที่เพียงพอสำหรับการทดสอบแผนการเทรดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ long, short, หรือเฮดจ์
เทรดคู่เงินที่มีสเปรดต่ำ 44 คู่
เราช่วยเหลือเทรดเดอร์ของเราในการนำกลยุทธ์การเทรดของพวกเขามาใช้กับคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ 44 คู่ โดยมีฝ่ายบริการลูกค้าในท้องถิ่นที่พร้อมให้บริการตลอด 24/5
การเทรดแบบ STP
การเทรดแบบ Straight Through Processing (STP) จะมีการดำเนินคำสั่งเทรดที่มีคุณภาพสูงสุดและมีเวลาแฝงที่ต่ำที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
มันคืออัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง British Pound กับ US Dollar
Norwegian Krone เป็นสกุลเงินที่แข็งที่สุดในโลก
GBP SGD (GBP vs. Singaporean dollar) มีความสัมพันธ์กับ GBP USD ในระดับสูง
สิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อ และการเติบโตเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2021 ซึ่งดูเหมือนว่า GBP USD มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าอังกฤษ
GBP SGD, USD CNH, และ USD CZK
การซื้อขาย GBP USD จะเริ่มต้นในวันอาทิตย์เวลา 17:00 EST (New York time) และสิ้นสุดลงในวันศุกร์ที่เวลา 17:00 EST
มันคือสัญญาณ (สิ่งที่บ่งบอก) ให้ทำการซื้อหรือขาย GBP USD โดยปกติสัญญาณนี้จะมาจากเทรดเดอร์อิสระผ่านทางโซเชียลมีเดีย
มันจะขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจระหว่าง UK และ US
ในปี 1930s เรทค่าเงิน GBP USD ได้ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 5 dollars ต่อ pound แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอัตราแลกเปลี่ยนนี้ก็ได้ปรับลดลงเรื่อยมาเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของอังกฤษเมื่อเทียบกับของประเทศมหาอำนาจ ซึ่ง USA ได้กลายมาเป็นประเทศมหาอำนาจ
คุณจะต้องทำการคูณขนาด lot กับอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งขนาด lot มี 3 แบบ: 1000 หน่วย, 10,000 หน่วย, และ 100,000 หน่วย
COT ย่อมาจาก “Commitments of Traders” และเป็นรายงานประจำสัปดาห์ที่แสดงการเปิดโพซิชั่นฟิวเจอร์สของ GBP USD
นี่คืออัตราแลกเปลี่ยน GBP USD vs. ราคาทองคำ
สมมุติว่า GBP USD เทรดอยู่ในช่วง 1.1510 ถึง 1.1511 คุณได้กำไร 1 pip ถ้าหากคุณซื้อ 10,000 GBP vs. USD ที่ราคาข้างต้นนี้แล้ว คุณได้กำไร 1 USD, เนื่องจาก 10,000 x 1.1511 = 11511, และ 10,000 x 1.1510 = 11510, และ $11511 – $11510 = 1 USD
ตลาดนี้เปิดในวันอาทิตย์เวลา 17:00 EST และปิดในวันศุกร์เวลา 17:00 EST
เพื่อที่จะสามารถทำเงินจากการเทรด GBP USD ได้นั้น เราต้องการความผันผวนของตลาดที่ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของราคา โดยปกติช่วงเวลาในฤดูร้อนจะเงียบเนื่องจากเทรดเดอร์จะหยุดพัก ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมถ้าหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงเดือนที่มีความผันผวนในตลาดต่ำ