นอกจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดในสัปดาห์นี้คือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งจะมีการเปิดเผยตัวเลขในค่ำคืนนี้ ตลาดคาดว่า BoE จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย25 จุดเบสิสในการประชุม หากธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ จะเป็นครั้งที่สามสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารแห่งอังกฤษ นอกจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว BoE พูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการวางนโยบายการเงินในอนาคตอีกด้วย
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตร เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ BoE ประกาศลดการซื้อพันธบัตรอย่างเป็นทางการ ก็จะส่งผลกระทบสำคัญต่อตลาดตราสารหนี้ ซึ่งทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ธนาคาร JPMorgan คาดการณ์ว่าความต้องการพันธบัตรของธนาคารกลางในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยูโรโซนในปี 2022 จะลดลง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ และ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023
จะเลือกอะไรระหว่างเงินเฟ้อหรือเศรษฐกิจถดถอย
เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรกำลังจมอยู่กับปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูง แม้จะกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยแต่ความเป็นจริงของอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของ BoE ก็มีสาเหตุมาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในปัจจุบันอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 7% ในเดือนมีนาคม ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อยังสะท้อนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจในเชิงลบ อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานพลังงานและอาหาร และอื่นๆ ในยุโรป
(อ้างอิง: Bloomberg)
ในเดือนเมษายน อัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนปีนี้จะสูงถึง 8% ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ JPMorgan Monks เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึง 9% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากราคาพลังงานในครัวเรือนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% ในเดือนตุลาคม อัตราเงินเฟ้อก็จะยังคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี
ราคาพลังงานและอาหารเป็นสาเหตุสำคัญของอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2022 ขีดจำกัดของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไปในสหราชอาณาจักรได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ราคาพลังงานต่อปีเพิ่มขึ้นประมาณ 700 ปอนด์หรือ 54% เมื่อเทียบกับตัวเลขก่อนหน้า สูงสุดในรอบหลายปีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนี้วิกฤตด้านอาหารที่เกิดขึ้นทั่วสหราชอาณาจักรจะทำให้ความต้องการอุตสาหกรรมอาหารหดตัวลงอย่างมากเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น ซึ่งคุกคามความมั่นคงด้านอาหารของสหราชอาณาจักรในอนาคต
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในปี 2022 กำลังชะลอตัวตามที่คาดว่าจะเติบโต 3.6% เกือบครึ่งหนึ่งของอัตราการเติบโตของ GDP 7.5% ที่g8pทำได้ในปี 2022 ตลาดแรงงานในสหราชอาณาจักรยังคงไม่สามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่ แหลายคนเลือกที่จะออกจากตลาดแรงงานเนื่องจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นแซงหน้าค่าแรง ในการประชุมวันนี้ นักลงทุนจึงหวังว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษอาจให้แนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการลดพันธบัตรมูลค่า 847 พันล้านปอนด์ นโยบายที่เข้มงวดตึงตัวเช่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดงบดุลอาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจึงต้องการหาสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
อนาคตของสกุลเงินปอนด์จะเป็นอย่างไรต่อไป?
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษเป็นธนาคารกลางแห่งแรกที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น นับแต่นั้นมา BoE ก็ไม่สามารถหยุดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ตลาดคาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเบสิสในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไป เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ความคาดหวังนี้มีสูงจนหลายคนเชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดเบสิสได้ในการประชุมเดือนมีนาคมและพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหราชอาณาจักร จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ BoE จะกล้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง แม้จะอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์
สำหรับสกุลเงินปอนด์ โอกาสในการปรับตัวเป็นขาขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็ยังขึ้นอยู่การตัดสินใจในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร หลายคนคาดหวังว่า BoE ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจะช่วยให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น แต่ด้วยระดับเงินเฟ้อที่สูงมากในปัจจุบัน จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรไปแล้ว ท่าทีของ BoE ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะมีไม่มากนัก ซึ่งเป็นอุปสำคัญในการขัดขวางขาขึ้นของกราฟ GBP/USD
ข่าวลือก่อนหน้านี้ว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะเริ่มลดการถือครองทอง8eอาจไม่ถูกต้อง ในทางกลับกัน คาดว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะร่างแผนการลดพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษที่ถืออยู่จำนวน 875 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจะแจ้งให้ตลาดทราบถึงแผนการของตน หากต้องปรับค่าเงินให้มีความตึงตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินปอนด์