ในเดือนที่ผ่านมาดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในตลาด สร้างผลกระทบกดดันกับสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ที่จับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ หากพิจารณาดูจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ที่ใช้วัดมูลค่าสกุลเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ของโลกอีก 6 สกุลเงิน จะพบว่าดัชนีนี้ยังคงความแข็งแกร่งด้วยการยืนเหนือ 103.5 จุด คูสกุลเงินที่เด่นชัดที่สุดของความแข็งแกร่งครั้งนี้ได้แก่ EURUSD, GBPUSD และ NZDUSD
คู่สกุลเงิน EUR/USD ปรับตัวลดลงมากที่สุดในช่วงห้าปีที่ผ่านมา กราฟได้สร้างจุดต่ำสุดในสัปดาห์นี้ที่ 1.04791 การร่วงของ EURUSD ถือเป็นผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในยูโรโซน ขณะนี้ EURUSD กำลังพยายามที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา ราคาพยายามปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ตลาดลงทุนฝั่งเอเชียเปิดทำการ หากต้องการกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง EUR/USD จำเป็นต้องทำลายแนวต้านปัจจุบันที่ 1.05360 ขึ้นไปให้ได้
GBP/USD อยู่ในแนวโน้มขาลงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไม่ต่างจาก EURUSD ในสัปดาห์นี้ คู่สกุลเงินนี้ได้ลงมาทดสอบจุดต่ำสุดในรอบสองปีที่ 1.23300 การอ่อนค่าลงของเงินปอนด์เกิดจากหลายปัจจัย ข้อมูลเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเร็วๆ นี้มีผลกับสกุลเงินปอนด์อย่างมาก ขณะนี้กราฟ GBPUSD กำลังพยายามปรับตัวขึ้นมาเช่นกัน โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1.23888
NZD/USD ร่วงลงอย่างหนักมาตลอดเดือนเมษายน จนสามารถลงไปแตะจุดต่ำสุดตลอดกาลที่ 0.63990 ได้แล้วในสัปดาห์นี้ นับเป็นาคาที่ต่ำที่สุดในรอบสี่ปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าตลาดลงทุนตอนนี้อาจจะกำลังหมดความสนใจในเศรษฐกิจของประเทศคู่แข่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในตอนนี้ และยอมรับเศรษฐกิจสหรัฐฯในแง่ของความแข็งแกร่งมากขึ้น จากการสำรวจเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงถดถอยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
การที่กราฟ NZDUSD อยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบสี่ปี ทำให้นักลงทุนยังไม่พบว่ามีความเชื่อมั่นในการเข้า buy กับคู่สกุลเงินนี้ การหดตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในตลาดยุโรปดูเหมือนจะลากเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพายุโรปให้ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
ตอนนี้ ทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่ที่รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ของสหรัฐอเมริกาในวันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินเหล่านี้ต่อไป ผลของ NFP ในวันนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินอื่น