ความต้องการทองคำในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 ปรับตัวลดลงอย่างมาก ณ ตอนนี้ราคาทองคำตกลงมาอยู่ที่ 1684 ดอลลาร์ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้สภาทองคำโลก (WGC) ปรับคาดการณ์ราคาทองคำในช่วงครึ่งหลัง (Q3 & Q4) ของปี 2022 ลง WGC มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มว่าจะทรงตัวเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงสิ้นปี 2022
ในรายงานของเมื่อวันพุธที่ผ่านมา WGC คาดการณ์ทองคำในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ออกมาในแง่ร้าย เนื้อความที่ปรากฎมีแต่ความเห็นที่พิจารณาว่าความต้องการของทองคำจะลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปี 2022 และอาจจะทรงตัวเช่นนี้ไปจนถึงสิ้นปีหน้า ตามรายงานของ WGC ความต้องการทองคำแท่งในไตรมาสที่สองลดลง 948 ตัน คิดเป็นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในไตรมาสที่สองของปี 2021
แม้ว่าความต้องการทองคำแท่งโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แต่ความต้องการทองคำจริงที่ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่แล้ว (Q2) ไม่ควรเป็นประเด็นที่ถูกมองข้าม เพราะสถานการณ์เช่นนี้อาจดำเนินต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2022 (Q3 & Q4)
ปัจจัยทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคในปัจจุบัน เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ความต้องการทองคำลดลง ส่งผลให้ราคาทองคำในปีหน้าอาจไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก นอกจากนี้ WGC คิดว่าความไม่แน่นอนของตลาดยังไม่ลดลง และความกลัวที่ว่าอาจเกิดภาวะถดถอยจะทำให้นักลงทุนอยู่ห่างจากสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ จากข้อมูลของ WGC ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ท้าทายเหล่านี้สร้างอุปสรรคสำคัญและลดความต้องการโลหะมีค่าลง สร้างแรงเทขายให้มีมากยิ่งขึ้น
จนถึงตอนนี้ ทองคำถือเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่มันกลับไม่ทำหน้าที่เช่นนั้นเมื่อเฟดเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่เพื่อทำลายเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และเพิ่มแรงกดดันในการขายทองคำ เฟดให้คำมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้อาจจะมีการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมก็ตาม นั่นจึงทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ราคาทองคำจะลดลงในช่วงที่เหลือของปี 2022
WGC ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อต่อเนื่องมักกระตุ้นให้มีการลงทุนในทองคำแต่เพราะนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นและดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้นได้กลายเป็นสาเหตุหลักของการขายทองคำออก WGC ยอมรับว่าแรงกดดันในการขายทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปลายไตรมาสที่สองของปี 2022 โดยเริ่มต้นขึ้นเมื่อเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น และถูกเร่งขึ้นอีกจากความกลัวที่มีต่อภาวะถดถอยในเศรษฐกิจระดับมหภาคเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ในเนื้อความจึงพยายามตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการทองคำแท่งจะลดลง 948 ตัน ลดลงมากกว่า 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2021 และเทียบกับความต้องการทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 มีจำนวน 2,189 ตัน เคยเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับสถิติก่อนหน้าในครึ่งแรกของปี 2021
“แม้ว่าครึ่งปีแรกจะจบลงด้วยดี แต่ด้วยความต้องการทองคำในรูปแบบต่างๆ เช่น, ETF และ OTC รวมกันแล้วทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับสามในครึ่งปีหลังตั้งแต่ Q2 ปี 2010 สิ่งนี้ได้กำหนดโทนการลงทุนทองคำใน ETF ที่อ่อนลงเล็กน้อย ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกรกฎาคม และนี่อาจเป็นปัจจัยบ่งชี้ราคาทองคำสำหรับครึ่งหลังของปี 2022 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงท่ามกลางนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น” – รายงานอย่างเป็นทางการของ WGC
WGC ยังคงเชื่อว่าอุปสงค์ทองคำอาจอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 เนื่องจากพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าราคาทองคำในตลาดทั้งหมดจะทรุดตัวลง ซึ่งหมายความว่าราคาทองคำยังมีโอกาสกลับขึ้นมาหลังจากปรับตัวร่วงลงแต่ละครั้ง และจะยังคงทรงตัวอยู่ระดับต่ำ ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาลงต่อ
จากการวิเคราะห์แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 WGC เชื่อว่าจุดอ่อนของทองคำส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความสนใจและความต้องการของนักลงทุนที่ลดลง เป็นสาเหตุให้อัตราความต้องการทองคำลดลงกว่า 28% ในช่วงไตรมาสที่สอง
ETF และผลิตภัณฑ์การลงทุนในทองคำอื่นๆ มีเงินไหลออกมากกว่า 39 รายการสินทรัพย์ในไตรมาสที่สอง ในขณะเดียวกัน ความต้องการทองคำแท่งยังแทบไม่เปลี่ยนแปลงและค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ความต้องการซื้อทองคำระหว่างสถาบันต่างๆ และธนาคารขนาดใหญ่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางฯ ซื้อทองคำเพียง 180 ตันในไตรมาสที่สองของปี 2022 คิดเป็นเป็นการลดลง 14% เทียบกับปีก่อนหน้า
WGC รายงานว่าแรงซื้อหลักของทองคำส่วนใหญ่มาจากความต้องการเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้น ในรายงานระบุว่าความต้องการเครื่องประดับทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 453.2 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า ความต้องการเครื่องประดับส่วนใหญ่มาจากอินเดียเนื่องจากเทศกาลภายในประเทศ ซึ่งผลักดันให้การซื้อทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 49% ในไตรมาสที่สองของปี 2021 ชาวอินเดียนิยมสะสมทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เป็นอย่างมาก
ราคาทองคำ ณ ตอนนี้วิ่งอยู่เหนือ 1736 ดอลลาร์หลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพุธ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบันดูเหมือนจะอยู่ไม่นาน เนื่องจากยังไม่มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนถึงตอนนี้