Litecoin กับ Ethereum: เหรียญไหนดีกว่ากัน? 5 ข้อแตกต่างคืออะไร?

บทนำ

นับตั้งแต่ Bitcoinได้รับความนิยมอย่างมาก มีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นบิทคอยน์ Litecoin และ Ethereum ต่างก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีหลังจากการเกิดขึ้นของบิทคอยน์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุน เทรดเดอร์ และหลายคนที่จับตาดูตลาดแห่งนี้ต่างก็พยายามค้นหาว่า LTC กับ ETH ว่ามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตหรือไม่ ปัจจุบันเหรียญทั้งสองมีอายุมานานเกือบ 10 ปีแล้ว และมีการปรับปรุงความสามารถในการทำธุรกรรมให้โดดเด่นขึ้นอย่างมาก สกุลเงินทั้งสองจึงเติบโตเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจ

คำถามก็คือ “คุณควรซื้อ Litecoin หรือ Ethereumตามความสามารถเฉพาะที่เหรียญตัวนั้นๆ มีหรือไม่?” สัดส่วนของพอร์ตการลงทุนควรประกอบด้วยเหรียญเหล่านี้จำนวนเท่าไหร่ มันง่ายกว่าที่คุณจะศึกษาข้อมูลล่วงหน้าก่อนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สกุลเงินทั้งคู่กลายเป็นที่นอมรับในปัจจุบัน หากต้องการทราบว่าเหรียญไหนดีกัน Ethereum หรือ Litecoin คุณมาถูกที่แล้ว การรู้จักสิ่งที่เหมาะสมสำหรับตัวเราเองจะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง

Litecoin (LTC) คืออะไร

Litecoin เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่แยกออกมาจากบิทคอยน์ สกุลเงินดิจิทัลตัวแรก แนวคิดของ Litecoin มีพื้นฐานมาจากการจับคู่ธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลแบบเพียร์ทูเพียร์ จากชื่อนี้คุณสามารถเดาได้เลยว่า Litecoin นั้นหมายถึงบิทคอยน์ที่ “เบากว่า” จากชื่อ ด้วยมุมมองดังกล่าว Litecoin ถูกมองว่าเป็นบิทคอยน์เวอรชันที่เร็วกว่า ซึ่งจะให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้น ด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ลดลง จุดประสงค์หลักของ Litecoin คือเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารภทำธุรกรรมดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและมีราคาไม่แพง

ในเวอร์ชันปัจจุบัน เครือข่าย Litecoin สามารถประมวลผลธุรกรรมได้ถึง 56 รายการในหนึ่งวินาที ในขณะที่ Bitcoin ทำได้เพียง 7 รายการในหนึ่งวินาที ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมมักจะถูกใช้เป็นจุดพิจารณาถึงความน่าสนใจของเหรียญแต่ละตัว Litecoin ทำให้คุณเสียค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเมื่อเทียบกับดอลลาร์น้อยกว่า Bitcoin นอกจากนี้ Litecoin จะไม่ขึ้นราคาค่าธรรมเนียมในช่วงเวลาที่มีการทำธุรกรรมมากที่สุดอีกด้วย

เวลาในการสร้างบล็อกเป็นตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบ Litecoin ว่าเป็นเหรียญที่เป็นมิตรต่อนักขุดเหมือง เวลาในการสร้างบล็อกคือระยะเวลาที่ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลธุรกรรมของเหรียญชุดเดียว เพื่อตรวจสอบความถูกต้องโดยโหนดเครือข่าย เวลาสร้างบล็อกโดยเฉลี่ยในเครือข่าย Litecoin คือ 2.5 นาที ในขณะที่ Bitcoin ใช้เวลา 10 นาที โดยสรุป คุณสามารถประมวลผลธุรกรรม Litecoin ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เร็วขึ้น 4 เท่า และใช้พลังงาน 3% ของธุรกรรมบนบล็อคเชน

Litecoin มีให้เลือกอยู่แพลตฟอร์มตัวกลางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในเกือบทุกแห่งที่คุณนึกออก ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีเหรียญในเหล่านี้เป็นจำนวนมากคือเจ้าของเงินสามารถแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัลได้ง่ายกว่า การทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่นทำให้ Litecoin เป็นตัวกลางที่เหมาะทำไปและเปลี่ยนกับสกุลเงินดิจิทัลทางเลือก (Altcoins) อื่นๆ

ใครดีกว่ากันระหว่าง Ethereum หรือ Litecoin? ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล มีโทเค็นเหรียญใหม่เกิดขึ้นมาและหมุนเวียนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละเหรียญก็จะมีโซลูชั่น และวิสัยทัศน์ทางการเงินในอนาคตที่แตกต่างกัน สำหรับ Litecoin คุณสามารถวางใจในคุณสมบัติของเจ้าเหรียญตัวนี้ได้ เพื่อให้ได้รับความสนใจมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทุกครั้งที่นักลงทุนโลกดิจิทัลต้องเจอกับความล่าช้าในการทำธุรกรรม ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน สุดท้ายพวกเขาก็มักจะกลับมาที่ Litecoin เสมอ ความน่าเชื่อถือที่พิสูจน์แล้วของ Litecoin ที่ต้องการเพิ่มอรรถประโยชน์สูงสุดให้กับนักลงทุนคริปโตฯ ทำให้ Litecoin เป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สมควรจะมีติดเอาไว้ในพอร์ตลงทุน

Litecoin ทำงานอย่างไร

Litecoin ตั้งใจที่จะตอบสนองต่อข้อจำกัด ที่พบในระหว่างการพัฒนาของ Bitcoin จากการทำงานด้านเทคนิค ผู้สร้างแนะนำ Litecoin ว่าเป็นเวอร์ชัน ‘ที่เบากว่า’ ของ Bitcoin และนั่นคือสาเหตุที่เหรียญทั้งสองมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้แชร์กัน เป็นเพียงการอัปเกรดและแนวคิดใหม่ที่นักพัฒนารู้สึกว่า Bitcoin ยังขาดหายไป

เช่นเดียวกับ ethereum และ Bitcoin Litecoin ถูกสร้างขึ้นโดยกระบวนการที่เรียกว่าการขุดเหมือง กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ เพื่อเริ่มต้นและตรวจสอบชุดของธุรกรรม Litecoin สกุลเงินดิจิทัลใช้อัลกอริธึม Proof of Work (PoW) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมฉันทามติประเภทหนึ่งที่ใช้กับเครือข่ายบล็อคเชน อัลกอริธึม PoW ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของเครือข่าย โดยทำให้มั่นใจว่าผู้อยู่ในระบบแต่ละคนพิสูจน์ให้โหนดอื่น ๆ ทั้งหมด (หมายถึงผู้ที่อยู่ในระบบคนอื่นๆ ) มาเข้าร่วมการคำนวณทางคณิตศาสตร์เพื่อได้สิทธิ์ในการสร้างบล็อก

อย่างไรก็ตาม Litecoin ได้อัพเกรด PoW ของตัวเองเล็กน้อย หรือที่พวกเขาที่เรียกว่าอัลกอริธึม ScryptPoW อัลกอริธึม ScryptPoW อาศัยบล็อกที่ได้รับการตรวจสอบโดยซอฟต์แวร์จากการขุด ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานในระบบสามารถดูขั้นตอนการตวจสอบได้ เมื่อนักขุดตรวจสอบบล็อกแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเพิ่มบล็อกถัดไปในห่วงบล็อกเชนได้ ในที่สุด วิธีนี้ก็จะกลายเป็นวิธีการบันทึกธุรกรรมที่รวดเร็ว และพึ่งพาทรัพยากรไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์น้อยลง

เป็นที่ทราบกันดีว่า PoW จำเป็นต้องให้นักขุดนำคอมพิวเตอร์เข้ามาคำนวณโจทย์ทางคณิตศาสตร์ ใครทำได้เร็วหว่าก็จะได้สิทธิ์ในการสร้างบล็อกไป พลังงานที่ใช้ไปในการขุด Litecoin ก็เช่นกัน ที่นี่จะมีระบบตรวจสอบโดยโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลัง ทำให้การแข่งขันเพื่อไขปริศนาทางคณิตศาสตร์ได้เร็วกว่าตัวอื่น นักขุด Litecoin ที่ไขปริศนาก่อน และเพิ่มบล็อกใหม่จะได้รับรางวัล Litecoin มูลค่า 12.5 LTC 

ณ เดือนมกราคม 2022 รางวัล 12.5 LTC คาดว่าจะยังคงอยู่จนถึงเดือนสิงหาคม 2023 ในช่วงครึ่งปีถัดไป รางวัล Litecoin เป็นสถานการณ์ win-win สำหรับทุกคนในเครือข่ายเพราะผู้ขุดสามารถสร้างรายได้จากการทำงานของพวกเขา ในขณะที่ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างวางใจ กับการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย นี่เป็นวิธีการทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer ที่สามารถใช้งานได้จริง

Ethereum (ETH) คืออะไร?

Ethereum เป็นแพลตฟอร์มกระจายอำนาจที่สนับสนุนภาษาการเขียนโปรแกรมของตัวเอง เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาในโครงการ Ethereum ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความเป็นกลางและลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลง ที่นี่ผู้คนในระบบจะใช้อีเธอร์ (เรียกอีกอย่างว่า Ethereum) เป็นสกุลเงินดิจิตอลมาตรฐานบนแพลตฟอร์มบล็อคเชน Ethereum เป็นโครงการต่อเนื่อง ที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนนักพัฒนาคริปโตฯ และผู้ใช้ที่ช่วยกันปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานอย่างต่อเนื่อง อีเธอเรียมประสบความสำเร็จเพราะความสามารถในการรวมเทคโนโลยีบล็อคเชนสำหรับ DApps และการสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts)

อีเธอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในฐานะโทเค็นการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum ดังนั้นแม้ว่าจะมีแอพทางการเงินหรือเหรียญอื่นๆ เกิดขึ้นบน Ethereum คุณวางใจได้ว่า Ethereum จะสามารถมอบความไว้วางใจให้กับคุณได้ จากจุดนี้ คุณคงจะรู้แล้วว่าระหว่าง ETH เทียบกับ LTC คุณต้องการวางเงินลงทุนของคุณเอาไว้กับเหรียญตัวใด

เพราะ ETH เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่กำหนดไว้ของเครือข่ายอีเธอเรียม ETH จึงเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่จำเป็นต่อการดำเนินการทุกอย่างบนเครือข่ายอย่างขาดไม่ได้ การเปรียบเทียบ ‘เชื้อเพลิง’ ทำให้เหรียญมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เนื่องจากเหรียญ ETH อำนวยความสะดวกและเก็บบันทึกธุรกรรมทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม

Ethereum ทำงานอย่างไร

ถึงจะมีอิสระมากเพียงใด Ethereum ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใครก็ได้สามารถแก้ไขเงื่อนไขของเหรียญได้ตามใจชอบ การจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเหรียญต้องอาศัยอัลกอริธึมฉันทามติการพิสูจน์การทำงาน โทเค็นอีเธอเรียม (ETH) มีจุดประสงค์หลักสองประการ:

1. Ethereum ทำงานเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ทุกคนสามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนดิจิทัลได้
2. จำเป็นต้องใช้ Ethereum เพื่อเป็นหลักประกันในการเรียกใช้แอปพลิเคชันบนเครือข่าย Ethereum

เครือข่าย Ethereum นั้นทำงานอยู่บนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจของคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บัญชีแยกประเภทกระจายศูนย์ ดังนั้น Ethereum blockchain จะจัดการและติดตามการเปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตสกุลเงินทั้งหมด เป็นบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพที่จะเก็บธุรกรรมทั้งหมดไว้ เนื่องจากผู้คนในเครือข่ายเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบธุรกรรม และรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล

การกระจายอำนาจเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่น่าสนใจของระบบเครือข่าย เนื่องจากผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเงินได้โดยไม่ต้องมีคนกลางเช่น ธนาคารกลาง ในการจัดการ การตัดธนาคารกลางออกไปจากสมการยังหมายความว่าสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีการแทรกแซงจากธนาคารกลางหรือบุคคลที่สาม ธุรกรรม Ethereum สามารถตรวจสอบได้ต่อหน้าทุกคนโดยไม่ต้องเปิดเผยบุคคลที่ทำธุรกรรม

นักขุดใช้วิธีตรวจสอบธุรกรรมที่เรียกว่า proof of work (PoW) Ethereum ใช้วิธี PoW มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เช่นเดียวกับ Litecoin และ Bitcoin นักขุด Ethereum จะต้องเป็นคนแรกที่ไขปริศนาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มบล็อกเดียวใน Ethereum blockchain อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ กำลังจะเปลี่ยนไปสำหรับ Ethereum เนื่องจากแพลตฟอร์มกำลังจะใช้รูปแบบการตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมเป็น (PoS) ในวิธี PoS ใครสามารถขุดหรือตรวจสอบธุรกรรมตามความเป็นเจ้าของเหรียญที่มีอยู่ พูดง่ายๆ การมีเหรียญมากขึ้นหมายความว่าคุณมีพลังในการขุดมากขึ้น

Ethereum เป็นผู้บุกเบิกสกุลเงินดิจิทัลในด้านต่างๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษสามประการ ได้แก่:

1. สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts)
2. Ethereum เป็นฐานของแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
3. โทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFTs) ส่วนใหญ่จะอยู่บนบล็อกเชนของ Ethereum

3 สิ่งที่ Litecoin กับ Ethereum มีเหมือนกันคืออะไร?

Litecoin และ Ethereum ต่างมีประวัติความเป็นมาที่น่าทึ้ง เนื่องจากเป็น Altcoins สองสกุลแรกๆ ที่ถือว่าอยู่มาอย่างยาวนาน ดังนั้นปัญหาที่สกุลเงินเงิน Altcoins ทั้งสองมีตั้งแต่ตอนแรกจนถึงวันนี้จึงยังคงเหมือนเดิม มีความต้องการแก้ไขปัญหาทางการเงินในลักษณะเดียวกัน ข้อมูลด้านล่างนี้คือคุณลักษณะบางประการที่ทำให้ Litecoin และ Ethereum มีความคล้ายคลึงกัน

1. การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว

แม้ว่าธุรกรรม Bitcoin จะมีการประมวลผลเร็วกว่าการโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังช้ากว่าเมื่อเทียบกับ Litecoin และ Ethereum ทั้งสองสกุลเงินช่วยให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะใช้วิธีต่างกันเพื่อให้ได้ความเร็วในการทำธุรกรรมก็ตาม ธุรกรรมที่รวดเร็วทำให้สกุลเงินเป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง

2. LTC และ ETH ใช้วิธีการตรวจสอบ PoW

นับตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปี 2022 สกุลเงินดิจิทัล Litecoin และ Ethereum ต่างก็ใช้วิธีการขุดที่ทำงานผ่านระบบ Proof of Work (PoW) ระบบ PoW ต้องใช้กำลังในการคำนวณเพื่อแก้สมการการเข้ารหัส ก่อนที่จะสามารถเพิ่มบล็อกลงในบล็อกเชนได้ ถึงคริปโตเคอเรนซี่อาจใช้วิธีการทางเทคนิคที่แตกต่างกัน แต่พวกมันก็ยังมีกฎขั้นสูงสุดประการหนึ่งของ PoW เหมือนกันคือผู้โจมตีจำเป็นต้องบรรลุ 51% ของพลังการประมวลผลของเครือข่ายเพื่อละเมิดความปลอดภัยของบล็อคเชน

Ethereum มีแผนจะเปลี่ยนจากวิธี Proof of Work เป็นวิธี Proof of Stake ภายในสิ้นปี 2022 ระบบ PoS ทำงานแตกต่างจาก PoW แทนที่จะใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวขุดให้ได้ซึ่งเหรียญมา PoS คือการนำเหรียญไปฝากเอาไว้ในระบบ ผู้ที่ฝากมาก ก็ยิ่งมีอำนาจใจการตัดสินใจมาก

3. ความสามารถในการยืนระยะ

สกุลเงินดิจิทัลหรือโทเค็นหนึ่งจะมีมูลค่ามากเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของสามารถใช้ประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด การที่เหรียญใดเหรียญหนึ่งยืนระยะมาได้อย่างยาวนานเป็นตัวกำหนดว่าคุณสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวเก็บมูลค่าได้ดีเพียงใด มุมมองนี้ทำให้ผู้คนพิจารณาว่า Litecoin เป็นโลหะเงินเมื่อเทียบกับ Bitcoin ที่เป็นทองคำ นักลงทุนที่เก่งกาจจะไม่ต้องการลงทุนอย่างหนักในเหรียญใดๆ ก็ตามที่มีอายุสั้น นักลงทุนรายใหม่ชอบลงทุนใน Ethereum หรือ Litecoin เพราะพวกเขาเห็นทั้งคู่มาเกือบทศวรรษแล้ว เหรียญได้ผ่านการทดสอบมาเป็นเวลานาน และยังคงมีฟังก์ชันการทำงานมากกว่าโทเค็นอื่น ๆ ที่ล้มหายตายจากไปภายในเวลาไม่ถึงสองปีหลังจากเปิดตัว

เมื่อการถกเถียงระหว่าง Litecoin กับ Ethereum ว่าใครจะยืนระยะได้ยาวนานกว่ากัน ในระยะยาว Ethereum มีโอกาสมากกว่าที่จะเป็นผู้ชนะในคำถามนี้ เนื่องจากอีเธอเรียมในปัจจุบันได้ถูกต่อยอดจนเกิดเป็น DeFi GameFi NFT ฯลฯ ในขณะที่ Litecoin ยังต้องการเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนมูลค่าเท่านั้น ในความเห็นของเรา Ethereum เปรียบเสมือนเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลก ที่จะดึงดูดนักพัฒนาแอพรุ่นต่อไปที่ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ ซึ่งจะผลักดันความต้องการ ETH ต่อไปในอนาคต

5 สิ่งที่ Litecoin กับ Ethereum แตกต่างกันคืออะไร?

Litecoin และ Ethereum ต่างก็มีความแตกต่างสำคัญ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับระบบรากฐานทางเทคนิคและจุดประสงค์ของการเกิดมาของเหรียญนี้ตั้งแต่ต้น การรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ได้ดีขึ้นในฐานะสินทรัพย์การลงทุน

1. Ethereum เป็นมากกว่าสกุลเงินดิจิทัล – มันคือแพลตฟอร์ม!

Ethereum เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่รองรับ Ether (ETH) เป็นสกุลเงินหลัก ในทางกลับกัน Litecoin เป็นเพียงสกุลเงินดิจิตอลที่ต้องใช้งานบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน เพราะ Ethereum เป็นแพลตฟอร์ม จึงมีข้อได้เปรียบเหนือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เนื่องจากมันสามารถรองรับแอปพลิเคชันและโครงการพัฒนาอื่นๆ ภายในเครือข่ายของตนเองได้ ในทางกลับกัน Litecoin กลับถูกสร้างขึ้นตามบิทคอยน์ แต่เปลี่ยนเงื่อนไขบางประการเท่านั้น แม้ว่าจะมีความแตกต่างเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งาน แต่สุดท้ายแล้ว เป้าหมายเดียวของ Litecoin คือการเป็นตัวช่วยให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว

(I’m Here)

2. Ethereum รองรับสัญญาอัจฉริยะ

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นลักษณะเฉพาะของ Ethereum คือการรองรับสัญญาอัจฉริยะ ในขณะที่บิทคอยน์และไลท์คอยน์ใช้เพียงการจับคู่สัญญาซื้อขายธรรมดาเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้มีข้อจำกัดทางเทคนิคมากเกินไป การทำธุรกรรมจะกลายเป็นสัญญาอัจฉริยะได้ก็ต่อเมื่อมีลายเซ็นดิจิทัลที่มาพร้อมกันพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเหรียญ Ethereum เท่านั้น แต่ด้วยความสามารถที่สามารถพิสูจน์พร้อมกันได้หลายพันสัญญาในเวลาเดียวกัน ทำให้สัญญาอัจฉริยะกลายเป็นสิ่งที่เป็นจริงได้ นอกจากนี้ นักพัฒนาสามารถใช้คำสั่งภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อเขียนเงื่อนไขการทำธุรกรรมใดๆ ก็ตามที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้ ลองสมมุติว่าสัญญาอัจฉริยะเป็นหน้าชำระเงินในเว็บไซต์ช็อปปิ้ง เว็บไซต์จะให้คุณเลือกรายการสินค้าและดำเนินการสั่งซื้อให้เสร็จสิ้น ก็ต่อเมื่อคุณชำระเงินตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้น

3. จำนวนของเหรียญที่มีอยู่ในระบบ

เพื่อให้แน่ใจว่าจำนวนเหรียญที่มีจะไม่มากเกินไปจนนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ ผู้สร้างเหรียญจึงมักจะกำหนดจำนวนการหมุนเวียนของเหรียญ และปริมาณที่เหรียญนั้นๆ ควรจะมี Litecoin มีจำนวนเหรียญทั้งหมดอยู่ที่ 84 ล้านโทเค็น ข้อจำกัดนี้หมายความว่าในอนาคตจะไม่มีเหรียญนี้ถูกสร้างขึ้นอีกเมื่อ 84 ล้านเหรียญได้ออกมาสู่ระบบแล้ว ในทางตรงกันข้าม อีเธอร์เลือกที่จะไม่จำกัดโทเค็นที่มีอยู่ในระบบทั้งหมด การขุด ETH ออกมาสามารถทำได้อย่างไม่จำกัด ถึงจะสามารถขุดได้ไม่จำกัดจำนวนเหรียญ แต่ ETH ก็มีการควบคุมที่เข้มงวดเกี่ยวกับจำนวนที่สามารถขุดได้ในปีเดียว

Ethereum อนุญาตให้มีเหรียญ ETH ใหม่สูงสุดอยู่ที่ 18 ล้านเหรียญเท่านั้น เพื่อรักษารูปแบบการเติบโตของระดับอุปทานในหนึ่งปี การมีรูปแบบควบคุมการเติบโตของอุปทานทำให้มั่นใจได้ว่าคนรุ่นต่อไปจะได้รับเหรียญสม่ำเสมอ ยังคงได้รับแรงจูงใจจากระดับอุปสงค์ รูปแบบการเติบโตของระดับอุปทานยังถูกปรับให้สมดุลกับจำนวนเหรียญที่สูญเสียไปตามเวลา เช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป เหรียญจะหายไปจากการหมุนเวียนเนื่องจากความตายหรือความไม่ระมัดระวังของผู้ใช้งาน

4. ระยะเวลาการสร้างบล็อกที่แตกต่างกัน

เวลาที่ใช้ในการสร้างบล็อก (Difference Block Times) (DBT) หมายถึงเวลาที่ใช้ในการสร้างบล็อกหนึ่งบล็อกในการเก็บข้อมูล DBT ของ Ethereum เมื่อเทียบกับ Litecoin มีความแตกต่างกันอย่างมาก อีเธอเรียมใช้เวลาในการทำ DBT สูงสุด 15 วินาที ในขณะที่ DBT ของ Litecoin ใช้เวลา 2 นาที 19 วินาที ความแตกต่างของระยะเวลานี้หมายถึงความสามารถในการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่เร็วขึ้นภายในหนึ่งนาที และการใช้เวลาในการสร้างบล็อกใหม่ Ethereum และ Litecoin ก็จะมีความแตกต่างกันด้วย

5. Proof of Work VS Proof of Stake

การขุดเหรียญ Litecoin ทำได้โดยใช้วิธีการตรวจสอบ Proof of Work (PoW) วิธี PoW ต้องการให้นักขุดแต่ละคนใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ในการคำนวณเพื่อแก้ปัญหาการเข้ารหัส แต่ Ethereum ในปี 2022 กำลังเปลี่ยนไปใช้วิธี Proof of Stake (PoS) ซึ่ง PoS เป็นกลไกการลงมติที่อาศัยการวางเหรียญเพื่อให้มีสิทธิ์โหวต และมีความประหยัดพลังงานมากกว่า PoW 

ควรลงทุนกับเหรียญตัวไหนระหว่าง Litecoin และ Ethereum?

แม้ว่าพื้นฐานของ Litecoin และ Ethereum จะสามารถวางใจได้ทั้งคู่ และเหรียญทั้งสองก็สามารถมอบผลตอบแทนที่ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขาลงที่เกิดขึ้นกับตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้น หากพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาด ต้องยอมรับว่ามูลค่าของ Rthereum ลดลงเกือบห้าเท่าของ Litecoin ในทางกลับกัน หากคุณดูราคาเหรียญเพียงอย่างเดียว Litecoin นั้นก็ถือว่าลงมากกว่า Ethereum ถึงห้าเท่าเช่นกัน 

ด้วยข้อมูลนี้ก็ยังคงไม่สามารถตอบคำถามที่ว่า ‘Litecoin หรือ Ethereum เหรียญไหนดีกว่ากัน?’ ไม่ได้ เมื่อวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกัน คำถามข้อนี้จึงไม่ยุติธรรมในการตัดสินเหรียญทั้งสอง นักลงทุนที่ฉลาดจะถือเหรียญทั้งสอง เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน คุณสามารถลงทุนทั้งใน Ethereum หรือ Litecoinในแง่มุมที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวน และรับผลตอบแทนที่มากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป หากในอนาคต คุณรู้สึกว่าเหรียญตัวใดตัวหนึ่งไม่มีอนาคตแล้ว ก็สามารถปรับพอร์ตการลงทุนภายหลังได้

โดยสรุปแล้ว

การเดินทางครั้งใหม่ของคุณในฐานะนักลงทุนคริปโตฯ ไม่ใช่เรื่องยากหากคุณมีมุมมองที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มันน่าตื่นเต้นถ้าคุณเข้าใจว่าโลกตอบสนองต่อการเติบโตของ Ethereum และ Litecoin อย่างไร และปรับสิ่งเหล่านั้นให้เข้ากับความสนใจของคุณ การลงทุนใน ‘ทรัพย์สิน’ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเมื่อผ่านการฝึกฝนอย่างตั้งใจ! การฝึกทดลองเทรดด้วยบัญชีเป็นวิธีที่ดีมากในการขัดเกลาทักษะการเทรดของคุณ และทำความเข้าใจกับจังหวะของตลาด

การเปิดบัญชีเงินสมมุติที่ ATFX นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถทำได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อทีมบริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันและรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าบัญชีเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักลงทุนของคุณได้ทันที!