NASDAQ 100
หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ คุณอาจเคยได้ยินหรือไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Nasdaq 100 บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดัชนี Nasdaq 100 และวิธีที่คุณสามารถเริ่มซื้อขายหรือลงทุนในดัชนีตัวนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านล่างนี้ คุณสามารถดูกราฟฟิวเจอร์สสดของ Nasdaq 100 ได้ นอกจากนี้ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนของ Nasdaq 100 และกลยุทธ์การซื้อขาย Nasdaq 100 แบบง่ายๆ
ทำไมต้องลงทุนใน NASDAQ 100 กับ ATFX?
การให้บริการลูกค้า
ลูกค้าทุกท่านสามารถรับบริการช่วยเหลือจากฝ่ายบริการลูกค้าในท้องถิ่นแบบตัวต่อตัว ได้ตลอด 24/5 รวมไปถึงเครื่องมือและสื่อความรู้ต่างๆ
สเปรดต่ำ
ATFX เสนอสเปรดที่มีการแข่งขันสูงสำหรับ NASDAQ 100
การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
ใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่ง stop loss และ limit เพื่อปกป้องพอร์ตโฟลิโอของคุณเมื่อทำการเทรด CFDs ของ NASDAQ 100
การเทรดขั้นต่ำเริ่มตั้งแต่ 0.1 lots
ATFX มีขนาดของปริมาณการเทรดต่ำสุด 0.1 lots สำหรับนักลงทุน เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถเริ่มต้นเทรด NASDAQ 100 ได้ด้วยความเสี่ยงต่ำที่สุด
กราฟดัชนี NASDAQ 100 จริง
ดัชนี Nasdaq 100 คืออะไร?
ดัชนี Nasdaq 100 ประกอบด้วยบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในหมวดต่อไปนี้:
- เทคโนโลยี
- ทางอุตสาหกรรม
- ขายปลีก
- เทคโนโลยีชีวภาพ
- โทรคมนาคม
- การขนส่ง
- สื่อ
- ดูแลสุขภาพ
- บริการ
บริษัททางการเงินที่เหมาะสมกับการจัดประเภทข้างต้นมีรายชื่ออยู่ในดัชนี Nasdaq แยกต่างหากที่เรียกว่า Nasdaq Financials-100 ดัชนี Nasdaq-Financial-100 ซึ่งแยกออกเป็นกลุ่มดังนี้:
- การธนาคาร
- ประกันภัย
- โบรกเกอร์
- จำนอง
ดัชนี Nasdaq 100 เปิดตัวในเดือนมกราคม 1985 โดย National Association of Securities Dealers Automated Quotations ดัชนีเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทในเครือของ National Association of Securities Dealers (NASD) ซึ่งเป็นองค์กรอุตสาหกรรมควบคุมตนเอง ที่แปรสภาพเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA)
ดัชนี Nasdaq 100 เปิดตลาดด้วยราคาแรกที่ 250 ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 800 ในเดือนธันวาคม 1993 และมี Nasdaq 100 options ที่ถูกนำมาใช้ใน Chicago Board Options Exchange (CBOE) ในปี 1994 ภายในปี 1998 บริษัทต่างชาติได้รับการยอมรับว่าเป็น American Depository Receipts (ADRs)
ตั้งแต่ปี 1985 ดัชนี Nasdaq 100 เติบโตขึ้นอย่างทวีคูณในแต่ละปี ยกเว้นช่วงฟองสบู่ดอทคอมในปี 2000 ตามมาด้วยผลกระทบของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในวันที่ 11 กันยายน 2001-2002 วิกฤตการเงินโลกปี 2008 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในปี 2018 เป็นเพียงปีเดียวที่ดัชนีปิดต่ำกว่าปีก่อนหน้า
กราฟจริงของดัชนี NASDAQ 100 ฟิวเจอร์ส
Nasdaq 100 Futures คืออะไร?
ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 เป็นสัญญาซื้อขายส่วนต่างที่สร้างขึ้นเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาดัชนี Nasdaq 100 ฟิวเจอร์สดัชนี Nasdaq 100 ติดตามการซื้อขายก่อนเปิดตลาดและนอกเวลาทำการ และให้โอกาสแก่นักลงทุนในการซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ระหว่างและนอกเวลาซื้อขายอย่างเป็นทางการ
ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 เป็นดัชนีคอมโพสิตที่มีหุ้นขนาดเล็ก 100 อันดับแรกในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ และกลุ่มหุ้นที่ไม่ใช่การเงิน
การซื้อขายฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 เริ่มต้นที่ Chicago Mercantile Exchange (CME) ในปี 1996 ด้วยมูลค่าเริ่มต้น 100 เท่าของดัชนี Nasdaq 100 ตามมาด้วยการเปิดตัว e-mini Nasdaq 100 futures ในราคา 1/20 ของมูลค่าดัชนี Nasdaq 100 การดำเนินการเช่นนี้ทำให้นักลงทุนสามารถมีส่วนร่วมกับดัชนีได้มากขึ้น เนื่องจากข้อกำหนดด้านเงินทุนสำหรับการซื้อขาย e-mini Nasdaq 100 Futures นั้นต่ำกว่า
ขนาดสัญญาคือ $20 ต่อสัญญา และมาพร้อมกับ tick value 0.25 points สำหรับทุกๆ $5 การเคลื่อนไหว ชั่วโมงการซื้อขายสำหรับสัญญานี้คือ 1700 ชั่วโมงถึง 1600 ชั่วโมงในวันถัดไป
สัญญา Micro e-mini พร้อมใช้งานแล้วบนแพลตฟอร์มค้าปลีกบางแพลตฟอร์ม
ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 เป็นสัญญาเลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าสามารถถืออเดอร์ที่ใหญ่ขึ้นด้วยเปอร์เซ็นต์ของความต้องการเงินทุนเริ่มต้นสำหรับการตั้งค่าการเทรด
วิธีลงทุนใน Nasdaq 100 อย่างมืออาชีพด้วย 3 ขั้นตอนง่ายๆ
1.1. การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมเพื่อลงทุนใน Nasdaq 100 อย่างมืออาชีพ คุณต้องการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม และมีการเสนอบัญชีเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชีที่เหมาะสมแก่คุณ โบรกเกอร์ควรให้สัญญาที่มีเงื่อนไขยืดหยุ่น และจำกัดความเสี่ยงให้กับลูกค้าสูงสุด 3-5%
หนึ่งในโบรกเกอร์ดังกล่าวคือ ATFX โบรกเกอร์ ATFX มีค่าสเปรดขั้นต่ำ 2.5 จุด และ lot size ขั้นต่ำ 0.01 ล็อต ขนาดล็อตสูงสุดของดัชนี NAS100 คือ 30 ล็อต มูลค่า pip ต่อล็อตคือ 10 เหรียญ มีเลเวอเรจ 1:100 ให้กับออเดอร์ของคุณ
2. การเปิดบัญชีและฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย 3. ขั้นตอนการซื้อขาย3.1. ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 จะเปิดทำการ 23 ชั่วโมงต่อวัน แต่มีบางครั้งที่ความผันผวนอยู่ที่ระดับสูงมาก เวลาที่ตลาดผันผวนมากที่สุดมักจะอยู่ในชั่วโมงแรกก่อนที่ดัชนี Nasdaq 100 จะเปิดการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ช่วงที่นักลงทุนจะทำการซื้อขายกันมากที่สุดคือชั่วโมงแรกของการซื้อขายบนดัชนี Nasdaq 100 และสองชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่ตลาดจะปิด นอกจากนี้ก็จะมีช่วงก่อน/หลังการแถลงข่าวสำคัญ เช่น ผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของเฟด การเปิดเผยรายงานการประชุมของ FOMC หรือรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ
เหตุการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในช่วงเวลาหนึ่งๆ มีส่วนเป็นตัวกำหนดว่าปัจจัยพื้นฐานใดที่เกี่ยวข้องกับ Nasdaq 100 การทำความเข้าใจว่าเมื่อใดที่ Nasdaq 100 จะมีการเคลื่อนไหวมากที่สุดจะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้โดยไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป
ดัชนี Nasdaq 100 รองรับนักลงทุนทุกคน แม้แต่เทรดเดอร์รายวันและนักเก็งกำไรก็มีส่วนช่วยให้ Nasdaq 100 มีความเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก และมูลค่าทางการเงินสำหรับขนาดสัญญา (0.25 จุด = $5) อาจส่งผลให้เกิดการสร้างกำไรที่ดีหรือขาดทุนอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง Nasdaq 100 ไม่ใช่สินทรัพย์สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่มีทุนต่ำ พวกเขาจะไม่สามารถทนการสวิงหรือการถือออเดอร์ที่ยาวเกินควรได้ แนวโน้มของตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากเป็นนักลงทุนที่มีเงินทุนต่ำ การใช้พฤติกรรมของ Nasdaq 100 เป็นแนวทางอ้างอิงการลงทุนดูจะเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลมากกว่า
ถอนกำไรของคุณ เทรดเดอร์ไม่ควรถอนกำไรออกทันทีเมื่อเทรดเสร็จ บางครั้งแผนทบต้นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์บางคนอาจเลือกที่จะเทรดพร้อมกันสองบัญชี: บัญชีหนึ่งสำหรับการถอนกำไรออกอย่างรวดเร็วและอีกบัญชีหนึ่งสำหรับกำไรจากการเทรดทบต้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม หากคุณเลือกตัวเลือกการทบต้น ทุกวันนี้เรามีเครื่องคิดเลขอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ตที่สามารถแสดงให้คุณเห็นว่าต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ กลยุทธ์การทบต้นบางอย่างยังช่วยให้คุณเล่นกับตัวเลขและตั้งค่าเผื่อการถอนกำไรเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน ส่วนที่เหลือจะนำทุนเดิมไปลงทุนใหม่การเทรดใน Nasdaq 100 เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่
คุณควรลงทุนใน Nasdaq 100 หรือไม่? คำตอบคือใช่ดังก้อง โชคดีที่มีโบรกเกอร์ Nasdaq 100 ดีๆ มากมาย และคุณจะพบกับหนึ่งในโบรกเกอร์เหล่านี้ที่ท้ายบทความ
การลงทุนดัชนี Nasdaq 100 เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมเงินเฟ้อในปัจจุบัน สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบันกำลังผลักดันให้เกิดการวางนโยบายการเงินใหม่ของธนาคารกลาง ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานเป็นพื้นฐานอ้างอิงสำหรับการวางนโยบายการเงิน หลังจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ (พร้อมหลักฐานจากการปรับปรุงการจ้างงานนอกภาคเกษตรและข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง) เฟดเริ่มถอน (หรือ “ลด”) คันเร่งสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อต่อสู้กับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของ COVID-19 ในปี 2020 สถานการณ์เงินเฟ้อที่แย่ลงจากเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยเงินสด ซึ่งกระตุ้นความต้องการสินค้าและบริการอย่างล้นหลามทำให้เป็นเรื่องยากที่สหรัฐฯ จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 41 ปีได้ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจึงอาจดำเนินต่อไปได้ระยะหนึ่ง
การดำเนินการของเฟดอาจจะสร้างโอกาสในการลงทุนในชีวิตเพียงครั้งเดียวบน Nasdaq 100 เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในเศรษฐกิจทั่วโลก
3 กลยุทธ์การลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ที่คุณจำเป็นต้องรู้
สามกลยุทธ์หลักๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้มีดังนี้
- กลยุทธ์การเทรดรายวัน
- กลยุทธ์การเทรดตามข่าว
- กลยุทธ์การเทรดตามสวิง
นักลงทุนรายย่อยหลายรายชอบใช้กลยุทธ์การเทรดรายวัน ซึ่งกลยุทธ์นี้สามารถใช้กับการลงทุนใน Nasdaq 100 ได้ด้วย มีกลยุทธ์การซื้อขายรายวันมากมาย บางคนใช้แท่งเทียน รูปแบบกราฟเปล่า และวิธีการอื่นๆ เช่น การหาจุดสวิง เป้าหมายหลักของกลยุทธ์เหล่านี้คือการซื้อในราคาต่ำ และขายในราคาที่สูงกว่าโดยใช้การวางออเดอร์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยเฉพาะ
การเทรดตามข่าวจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการใช้ข่าวที่มีผลกระทบสูง ซึ่งจะประกาศตามเวลาในปฏิทินข่าวเศรษฐกิจ ข่าวที่ส่งผลกระทบสูงบางข่าวจะส่งผลกระทบต่อดัชนี Nasdaq 100 ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภค การจ้างงานนอกภาคเกษตร และถ้อยแถลงจากคนในธนาคารกลางสหรัฐฯ การประชุมอัตราดอกเบี้ยของเฟด ข่าวเหล่านี้สร้างความผันผวนอย่างมากใน Nasdaq 100 คุณสามารถแลกเปลี่ยนข่าวได้โดยการซื้อหรือขายฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 โดยพิจารณาว่าข่าวนั้นเป็นบวกหรือลบ การเทรดตามข่าวจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลปฏิทินข่าวเศรษฐกิจและฟีดข่าวที่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณะได้
การเทรดแบบสวิงเกี่ยวข้องกับการถือออเดอร์ที่เปิดอยู่เป็นเวลาหลายวัน การลงทุนแบบนี้จะดึงดูดนักลงทุนที่มีต้นทุนน้อยกว่าการเทรดรายวัน เนื่องจากคุณไม่ได้ทำการเทรดบ่อยเท่ากับนักลงทุนรายวัน หรือที่เรียกว่าการหมุนเวียนของพอร์ต แต่คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโรลโอเวอร์/สวอป สำหรับการถือออเดอร์ข้ามคืน การเทรดของคุณก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบางครั้งตลาดอาจมี gap ขึ้นหรือลงเมื่อเปิดตลาด ทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนของราคาเป็นอย่างมาก ที่สำคัญ นักลงทุนสายนี้จะต้องฝ่าคลื่นความเสี่ยงที่เกิดจากการรายงานข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งอาจนำไปสู่การได้กำไรมหาศาลหรือขาดทุนระดับหายนะได้
การเทรดแบบสวิงบน Nasdaq ต้องใช้เงินทุนมากขึ้น เพื่อให้ออเดอร์ของคุณสามารถทนต่อการแกว่งตัวของดัชนีในแต่ละวันได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ การซื้อขายบน Nasdaq นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ติดตามอ่านกันต่อไป เพราะเราจะมีกลยุทธ์การเทรดพิเศษ ที่อ้างอิงตามโซนอุปสงค์และอุปทานจะบอกเอาไว้ในบทความนี้ด้วย
การคาดการณ์ดัชนี Nasdaq 100 ในปี 2022 คืออะไร?
การคาดการณ์ดัชนี Nasdaq 100 เป็นความพยายามของนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ในการคาดการณ์ว่าดัชนีจะวิ่งไปสิ้นสุดที่จุดใดในสิ้นปีนั้นๆ เป็นความจริงที่ว่าการคาดการณ์อาจชี้เป้าหมายให้นักลงทุนไปยังจุดใดจุดหนึ่ง แต่ระหว่างเส้นทางนั้นย่อมความผันผวนมากมายตลอดทางและการเคลื่อนไหวขึ้นและลงหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ก็สามารถช่วยให้เห็นความเป็นไปได้ของดัช นีและอนุญาตให้นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้
แล้วเป้าหมายของดัชนี Nasdaq 100 ในปี 2022 จะมุ่งไปทางไหน? คาดการณ์ดัชนี Nasdaq 100 ในระยะยาวเอาไว้ว่าอย่างไร?
สองปัจจัยจะเป็นตัวกำหนดการคาดการณ์ของ Nasdaq 100 สำหรับปี 2022:
- นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
- ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
สำหรับนโยบายการเงินในปี 2022 จะเป็นปีแห่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนถึงตอนนี้เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้วทั้งหมด 150 bps นอกจากนี้ หลายคนคาดว่าการปรับขึ้นอัตรา 75 bps ในการประชุม 28 กรกฎาคม 2022 ซึ่งเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อตลาดมากนัก
เมื่อดูกราฟ Nasdaq 100 ระยะยาว อีกครั้ง คุณจะเห็นการปรับตัวขึ้นแตะสุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Nasdaq 100 ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2020 ถึงมกราคม 2022 การตัดวางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อต่อสู้กับกับการระบาดของ COVID-19 การผ่อนคลายเชิงปริมาณทำให้เงินราคาถูกและต้นทุนการลงทุนในหุ้นก็ต่ำลง นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ดัชนี Nasdaq 100 พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะปรับฐานตามการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เพื่อเป้นการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดคาดว่าจะดำเนินต่อไปตลอดปี 2022
กราฟด้านบนคือการใช้เครื่องมือ Fibonacci retracements มาวัดจาก swing low ในเดือนเมษายน 2020 ถึงระดับ swing high ในเดือนมกราคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เฟดเริ่มโปรแกรมกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงหยุดใช้ เราจะเห็นได้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงของการวิ่งกลับลงมาทดสอบแนวรับ โดย Nasdaq 100 กำลังทดสอบแนวรับจากระดับ 50% ของ Fibonacci retracement การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่ออาจทำให้ Nasdaq 100 ปรับตัวลดลง โดยมีเป้าหมายขาลงอยู่ที่ 61.8% และ 78.6% หรือที่ 10057 และ 8915 ตามลำดับ แน่นอน ต้องเกิดการแกว่งขึ้นลงหลายครั้งตลอดทาง ดังนั้นนักลงทุนควรจับตาดูการลงทุนอย่างใกล้ชิด และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับการหาจังหวะเข้า นักลงทุนต้องดูกราฟในกรอบเวลาที่ต่ำกว่านี้
เกี่ยวกับปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียยูเครนคาดว่าจะมีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวของ Nasdaq 100 ไม่มาก ในทางกลับกัน ผลกระทบกับ Nasdaq 100 จะเกิดขึ้นกับข่าวที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก และภาคการผลิตโดยเฉพาะเทคโนโลยีมากกว่า เนื่องจากบริษัทหลายแห่งของ Nasdaq 100 มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าสิ่งที่จะสร้างผลกระทบต่อ Nasdaq 100 มากที่สุดจะมาจากการดำเนินการตามนโยบายการเงินของเฟด
การคาดการณ์ระยะยาวของดัชนี Nasdaq 100 ยังคงเป็นขาขึ้น ดังที่เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของราคาของดัชนีตั้งแต่ปี 1985 ดัชนียังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการหดตัวหลายครั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี Nasdaq 100 หลังจากปิดตลาด
ข้อมูลในอดีตของ Nasdaq-100
สองรูปด้านบนนี้ บอกเล่าเรื่องราวว่าเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่สำคัญในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวกำหนดมูลค่าของดัชนี Nasdaq 100 ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วดัชนีมีความเคลื่อนไหวต่อเหตุการณ์นั้นอย่างไร เหตุการณ์ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงคือเหตุการณ์ Nasdaq-positive ในทางตรงกันข้าม เงื่อนไขที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นจะขับเคลื่อนกระแสการลงทุนไปยังสินทรัพย์ในตลาดเงิน และถือเป็น Nasdaq-negative
คุณต้องเข้าใจวัฏจักรตลาด Nasdaq 100 เหล่านี้เพราะมันเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างทำกำไรจากดัชนี ขณะนี้ เราอยู่ในวัฏจักรที่มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากโรคระบาด เราได้เห็นเงินที่ท่วมท้นระบบเศรษฐกิจที่มีต้นทุนด้านการลงทุนที่ถูก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ดัชนี Nasdaq 100 ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้สิ้นสุดลงแล้ว ปัจจุบันโครงการ QE ถูกแทนที่ด้วยนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้สินทรัพย์ในตลาดเงิน เช่น พันธบัตร มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนมากกว่า แทนที่จะไปลงทุนกับสินทรัพย์เสี่ยง นั่นจึงทำให้หุ้นมีความน่าสนใจน้อยลง
วัฏจักรของเหตุการณ์ต่างๆ ใน Nasdaq 100 ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน
รูปประกอบด้านบนอธิบายและแสดงให้เห็นภาพรวมโดยสรุปถึงปัจจัยพื้นฐานที่ผลักดันให้เกิดตลาดกระทิงในรอบ 7 ปีตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2020 ได้ง่าย นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในปี 2020 ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดภาวะกระทิงครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปี ด้วยเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและปฏิกิริยาของตลาดที่ต่อนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้นมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ตลาดกำลังดำเนินไป ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่
การวิเคราะห์ Nasdaq 100 ทางเทคนิค
นักลงทุนที่เทรด Nasdaq 100 จำนวนมากเป็นนักลงทุนแบบ scalpers หรือนักลงทุนรายวัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด จุดมุ่งหมายคือการจับความเคลื่อนไหวของตลาดให้ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องขาดทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ไม่ว่าจะทำกำไรได้เล็กน้อย หรือไม่ได้เลยก็ตาม การเทรดรายวันบน Nasdaq 100 ต้องระบุจุดของแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นให้ได้ก่อน เพราะระดับราคาเหล่านี้เป็นโซนที่มีการวางออเดอร์ที่สามารถซื้อขายได้ของนักลงทุนจากทั่วโลก
นี่คือกลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการเทรดดัชนี Nasdaq 100 รายวัน
- ขั้นตอนแรกคือการระบุโซนอุปสงค์และอุปทานบนกราฟ Nasdaq 100 ให้ได้ก่อน กรอบเวลาที่นักเทรดนิยมใช้กันมากที่สุดคือกราฟ 1 ชั่วโมง โปรดจำไว้ว่านี่คือการซื้อขายระหว่างวัน ซึ่งกราฟระยะยาว เช่น 4 ชั่วโมงหรือหนึ่งวันมีไว้สำหรับการเทรดแบบสวิง
- หลังจากระบุโซนอุปสงค์และอุปทานได้แล้ว (เหมือนโซนแนวรับและแนวต้าน) คุณสามารถตั้งเป้าที่จะซื้อนอกโซนอุปสงค์และขายในเขตอุปทานโดยใช้กราฟ 1 นาทีหรือ 5 นาที ใช้ตัวกรองหรืออินดิเคเตอร์อีกครั้งเพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การหาไดเวอร์เจนซ์กับอินดิเคเตอร์ RSI หรือรูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียนที่มีความน่าจะเป็นสูงมักจะได้ผลเกือบทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากมีข่าวที่ส่งผลกระทบสูง ให้เทรดตามทิศทางของข้อมูลข่าวมากกว่าที่จะอิงกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ตั้งเป้าที่จะเสี่ยงไม่เกิน 3% ของขนาดบัญชีคุณต่อการเทรดหนึ่งครั้ง ด้วยวิธีนี้ คุณจะยังคงมีเงินทุนอยู่หากการเทรดของคุณจบลงด้วยการขาดทุน
- หาจุดออกที่เป็นไปได้จริง คุณสามารถใช้อินดิเคเตอร์ช่วยกรองจุดออกให้กับการเทรดของคุณได้
รูปด้านล่างนี้คือตัวอย่างกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้กับ Nasdaq
การเทรด Nasdaq 100 ในกราฟ 1 ชั่วโมงด้วยโซนดีมานด์ซัพพลาย
กราฟ 1 ชั่วโมงด้านบนแสดงให้เห็นโซนอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) สำหรัการลงทุนใน Nasdaq 100
- โซนอุปสงค์เป็นพื้นที่ที่แท่งเทียนสร้างจุดต่ำสุดภายในกรอบราคา บริเวณนี้เป็นที่ที่เทรดเดอร์ระยะยาวจะพยายามหาความเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกถึงการปรับตัวขึ้นในอนาคต
- โซนอุปทานเป็นพื้นที่ที่ราคาแท่งเทียนสร้างจุดสูงสุด เทรดเดอร์ที่ต้องการขายก็จะหาออกจากตลาดเพื่อทำกำไรที่โซนราคานี้ ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่ขึ้นไปยังโซนเดียวกันก็ควรถูกเทขายตามที่ไฮไลต์ด้านบน
เมื่อกำหนดโซนอุปสงค์และอุปทานได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลื่อนลงไปที่กราฟ 5 นาที ซึ่งในตัวอย่างนี้รายงาน CPI ของสหรัฐฯ พื้นฐานออกมาอยู่ที่ 0.7% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขครั้งก่อน 0.6% และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.5% ตัวเลข CPI พื้นฐานที่สูงกว่าที่คาดได้ตอกย้ำว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 กรกฎาคม 2022 มากขึ้น นี่คือข่าวร้ายของดัชนี Nasdaq และในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนควรมองหาจุดขายมากกว่าจุดเข้าซื้อ
เมื่อกำหนดโซนอุปสงค์และอุปทานได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลื่อนลงไปที่กราฟ 5 นาที ซึ่งในตัวอย่างนี้รายงาน CPI ของสหรัฐฯ พื้นฐานออกมาอยู่ที่ 0.7% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขครั้งก่อน 0.6% และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.5% ตัวเลข CPI พื้นฐานที่สูงกว่าที่คาดได้ตอกย้ำว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 กรกฎาคม 2022 มากขึ้น นี่คือข่าวร้ายของดัชนี Nasdaq และในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนควรมองหาจุดขายมากกว่าจุดเข้าซื้อ
กราฟ Nasdaq 100 ห้านาทีแสดงจุดเข้าสำหรับการวางคำสั่งขาย
เมื่อทราบว่าราคาได้ก้าวเข้าสู่โซนอุปทานที่ 12,000 จุด การย่อลงมาที่ 11800 และกลับขึ้นสู่โซนอุปทานอีกรอบเพิ่มโอกาสในการขายอีกครั้ง คราวนี้ ราคาสามารถวิ่งลงไปจนถึงโซนอุปสงค์ โดยในตัวอย่างนี้คือระดับราคา 11500 คิดเป็นการปรับตัวลดลงมาทั้งหมด 500 จุด
มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่จะทำให้บริษัทสามารถถูกลิสต์ขึ้นดัชนี Nasdaq 100 ได้?
Nasdaq 100 มีเงื่อนไขสี่ประการสำหรับบริษัทที่ต้องการจดทะเบียน เพื่อให้มีคุณสมบัติในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างน้อยหนึ่งในสี่ข้อ นอกเหนือจากกฎการจดทะเบียนทั่วไป
เงื่อนไขโดยทั่วไป
- ราคาเสนอซื้อหุ้นของบริษัทต้องไม่ต่ำกว่า $4.00 หากราคาปิดคือ 2.00 ดอลลาร์หรือ 3.00 ดอลลาร์ และบริษัทมีผู้ดูแลสภาพคล่องอย่างน้อย 3 รายสำหรับหุ้น บริษัทก็อาจเข้าเงื่อนไขได้เช่นกัน
- บริษัทต้องมีหุ้นที่จำหน่ายต่อสาธารณะอย่างน้อย 1,250,000 หุ้น ณ เวลาที่จดทะเบียน ซึ่งไม่รวมถึงผู้ที่ถือครองผู้ที่มีส่วนสำคัญในบริษัทหรือผู้ถือหุ้นรายอื่นที่ถือหุ้นมากกว่า 10% ของบริษัท
- บริษัทต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2,200 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของ 100 หุ้นขึ้นไป หรือผู้ถือหุ้น 500 รายที่ซื้อขายหุ้นในปริมาณซื้อขายประจำปีมากกว่า 1.1 ล้านหุ้น
- บริษัทต้องชำระค่าธรรมเนียมการลิสต์ขึ้นดัชนีประมาณ $5,000 ถึง $25,000 ขึ้นอยู่กับประเภทของความปลอดภัยและขนาดของบริษัท นอกจากนี้ อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมซึ่งแสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ออก
- บริษัทต้องชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรายปีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับการดำเนินการต่างๆ เช่น การยื่นและการออกหุ้นเพิ่ม
เงื่อนไขพิเศษ
ข้อที่ 1: รายได้
บริษัทต้องแสดงหลักฐานของรายได้ก่อนหักภาษีอย่างน้อย 11 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือ 2.2 ล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา นอกจากนี้จะต้องไม่มีขาดทุนสุทธิในสามปีที่ผ่านมา
ข้อที่ 2: มูลค่าตามราคาตลาด + กระแสเงินสด
- มีกระแสเงินสดรวมอย่างน้อย 27.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีที่ผ่านมา
- ไม่มีกระแสเงินสดติดลบในช่วงเวลานั้น
- มูลค่าตลาด 550 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
- การยกเว้นสำหรับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดเฉลี่ย 850 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
- รายได้ขั้นต่ำ 110 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
ข้อที่ 3: มูลค่าตามราคาตลาด + รายได้
หากบริษัทสามารถพิสูจน์มูลค่าตลาดที่ 850 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา หรือ 90 ล้านดอลลาร์ในรายได้ บริษัทก็สามารถผ่านเกณฑ์ได้โดยใช้เส้นทางนี้
ข้อที่ 4: ส่วนของผู้ถือหุ้น + สินทรัพย์
บริษัทต้องมีสินทรัพย์รวมอย่างน้อย 80 ล้านดอลลาร์และส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 55 ล้านดอลลาร์สามารถลดข้อกำหนดของมูลค่าตลาดเป็น 160 ล้านดอลลาร์สำหรับบริษัทที่ต้องการมีคุณสมบัติในการเข้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq โดยใช้เส้นทางในข้อที่ 4
ความแตกต่างระหว่างดัชนี Nasdaq 100 และดัชนี Nasdaq Composite คืออะไร?
ความแตกต่างระหว่างดัชนี Nasdaq 100 และดัชนี Nasdaq Composite มีดังนี้
- Nasdaq 100: ดัชนีหุ้นกลุ่มเติบโตขนาดใหญ่ ที่มีบริษัทชั้นนำซึ่งไม่ใช่สถาบันการเงิน 100 แห่งทั้งในและต่างประเทศ โดยพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาด
- Nasdaq Composite: ดัชนีหุ้นบริษัททั้งในและต่างประเทศของ Nasdaq ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 3,700 หุ้น
ปัจจัยอะไรทำให้ดัชนี NASDAQ 100 เคลื่อนไหว?
ดัชนี Nasdaq 100 มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ การเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบสูงต่อประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนี Nasdaq 100 เป็นหลัก ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยเหล่านี้
ดัชนี NASDAQ 100 คำนวณอย่างไร
ดัชนี Nasdaq 100 คำนวณด้วยการคูณราคาปิดของแต่ละหุ้น บวกด้วยมูลค่ารวมของการถ่วงน้ำหนักของหุ้นทั้งหมดในการแลกเปลี่ยน ผลคูณของการคำนวณนี้จะถูกหารด้วยตัวหารดัชนีเฉพาะ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ใช้ในการรายงาน
NASDAQ 100 จะรีบาลานซ์เมื่อใดและทำไม
ดัชนี Nasdaq 100 มีการปรับสมดุล (Rebalancing) เป็นระยะๆ กระบวนการปรับสมดุลนี้จะกำหนดมาตรฐานการถ่วงน้ำหนักใหม่ของดัชนี การปรับสมดุลดัชนี Nasdaq 100 ต้องคำนึงถึงเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเพิกถอน กระบวนการล้มละลาย (ซึ่งบังคับให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องหยุดกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมดในบริษัทที่ได้รับผลกระทบ) การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ และสาเหตุอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อขายของหุ้นที่จดทะเบียน
แม้ว่าการปรับสมดุลใหม่จะเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกปี แต่การปรับสมดุลครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2022 ด้วยเหตุนี้ สินทรัพย์ที่อ้างอิงราคาตาม Nasdaq 100 ทั้งหมดจึงต้องลดการถือครองหุ้นบริษัท Apple จาก 20% เป็น 12% และเพิ่มน้ำหนักหุ้น Microsoft เป็น 5% การถ่วงน้ำหนักใหม่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2022
ใครบ้างควรลงทุนในกองทุนดัชนี NASDAQ 100?
การลงทุนในกองทุนดัชนี Nasdaq 100 มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนใน Nasdaq 100 แต่มีความเสี่ยงในตลาดน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น แทนที่จะลงทุนโดยตรง ด้วยการนำเลเวอเรจเข้ามาช่วย คุณสามารถตัดสินใจซื้อหุ้นในกองทุนดัชนี Nasdaq 100 ราวกับว่าคุณกำลังซื้อหุ้นของบริษัทบนดัชนี Nasdaq 100
เริ่มลงทุนใน NASDAQ 100 ใน 3 ขั้นตอนง่ายๆ
ลงทะเบียนบัญชี
เปิดบัญชี
กรอกแบบฟอร์มใบสมัครบัญชีการเทรดจริงให้เสร็จ เมื่อเราได้ยืนยันตัวตนของคุณ เราจะสร้างบัญชีให้คุณ
ฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ
ฝากเงินด้วยบัตรเดบิต อี-วอลเล็ต หรือการโอนผ่านธนาคารเพื่อเริ่มต้นเทรด
เริ่มต้นเทรด
เทรดบนทุกอุปกรณ์ โดยรวมถึงคอมพิวเตอร์, Android, iPad และ iPhone หรือผ่านเว็บเบราว์เซอร์
คำถามที่พบบ่อย
หุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มหุ้น “5 เทพหุ้นเทคฯ” ที่เรียกว่า FAANG (Facebook, Amazon, Apple, Netflix และ Google)
มีคณะกรรมการฯ ที่ตรวจสอบคุณสมบัติและให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายแก่บริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การจดทะเบียน
ดัชนี Nasdaq 100 มีหุ้นบริษัท 100 บริษัท ส่วนดัชนี Nasdaq Composite มีหุ้นบริษัทมากกว่า 3,700 หุ้น
Nasdaq 100 สร้างอัตราการเติบโตต่อปีที่ 14.74% ในช่วง 36 ปีที่ผ่านมา
คือความเคลื่อนไหวของราคาบนดัชนี Nasdaq 100 ภายในหนึ่งนาที มาตรวัดนี้สะท้อนให้เห็นในความเคลื่อนไหวของ Nasdaq 100 ภายใน 1 นาที ซึ่งเป็นแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว
Nasdaq 100 ได้รับการดูแลโดยคณะกรรมการบริหารที่กำกับดูแลทิศทางเชิงกลยุทธ์ ผลการดำเนินงานและการดำเนินธุรกิจ
ไม่มีจำกัด ขึ้นอยู่กับระดับความต้องการที่นักลงทุนต้องกับหุ้นหนึ่งๆ เมื่อเวลาผ่านไป
Nasdaq 100 เปิดทำการตั้งแต่ 9:30 น. ถึง 16:00 น. (EST) ตามเวลานิวยอร์ก
ไม่ S&P 500 มีเงื่อนไขการลิสต์ที่ต่างกันออกไป
ดัชนีแต่ละตัวจะมีมูลค่าสูงเกินไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐาน และภาพรวมทางเศรษฐกิจที่มีผลกับเศรษฐกิจของอเมริกา
มูลค่าของดัชนีคำนวณโดยนำราคาปิดของหุ้นแต่ละตัว มาคูณด้วยตัวคูณน้ำหนัก มีการคำนวณใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ค่าของดัชนีมีความถูกต้องมากที่สุด
ATFX อนุญาตให้นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านดัชนี Nasdaq 100 ได้
ดัชนี Nasdaq 100 ไม่ใช่ดัชนีเทคโนโลยี 100% เนื่องจากมีหุ้นจากหุ้นกลุ่มอื่นผสมอยู่ อย่างไรก็ตาม การถ่วงน้ำหนักของดัชนีนั้นมีสัดส่วนของหุ้นเทคโนโลยีมากว่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเรียก Nasdaq 100 ว่าเป็นดัชนีหุ้นเทคโนโลยี
เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขายคือตามเวลาทำการของดัชนี Nasdaq 100 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั่วโมงสุดท้ายก่อนตลาดเปิด ชั่วโมงแรกของการเปิดตลาด และสองชั่วโมงสุดท้ายของตลาด
มีความอ่อนไหวต่อความเชื่อมั่นในความเสี่ยงทั่วโลกและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเคลื่อนไหวของราคา อย่างไรก็ตาม ความผันผวนและสถานะการซื้อขายที่มีเลเวอเรจทำให้ Nasdaq 100 เป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การลงทุน
Nasdaq เคยปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจเช่น Dot-com bubble ปี 2000, การโจมตีตึกเวิร์ลเทรดของอเมริกาในวันที่ 11 กันยายน 2001, วิกฤตการเงินโลกในเดือนกันยายน/ตุลาคม 2008 และการระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020
ดัชนี Nasdaq 100 ไม่ใช่หุ้น จึงไม่การจ่ายเงินปันผล
ดัชนี Nasdaq 100 เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตามราคาตลาด