USD/JPY
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY ทั้งหมด และวิธีที่คุณสามารถใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อเพิ่มความสามารถในการเทรดของคุณ นอกจากนี้ บทความของเรายังครอบคลุมไปถึงคำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการลงทุนในคู่สกุลเงิน USDJPY
USD JPY Live Chart
รูปนี้คือกราฟของ USDJPY ที่แสดงให้เห็นว่า USDJPY มีลักษณะการวิ่งเป็นเช่นไร กราฟในลักษณะเช่นนี้จะสามารถใช้สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ระดับแนวรับแนวต้าน และรูปแบบราคาในอดีตเพื่อทดลองคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ USDJPY ในอนาคต ซึ่งตลอดทั้งบทความนี้ เราจะกล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับ USDJPY ในบทความต่อไป
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ USDJPY
หากคุณต้องการลงทุนกับเยนญี่ปุ่นให้ประสบความสำเร็จ คุณต้องตระหนักถึงปัจจัยหลักสามประการ ที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน USDJPY:
- ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย
- ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (US Non-farm Payrolls)
- ข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ
1. อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยแสดงถึงต้นทุนการกู้ยืมเงิน และยังเป็นจำนวนเงินที่ผู้ให้กู้จะได้รับจากการให้ยืมเงิน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินลงทุน คุณสามารถลงทุน 100,000 ดอลลาร์กับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ผลตอบแทน 5% ต่อปี คุณยังสามารถลงทุนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ในอัตรา 1% ต่อปี หากข้อเสนอไม่มีความแตกต่างที่สำคัญ คุณจะนำเงินไปลงทุนกับธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากคุณจะได้รับผลตอบแทนจากเงินที่สูงกว่า
นักลงทุนที่เชี่ยวชาญอาจยืมเงินเยนญี่ปุ่น 1% ในญี่ปุ่น แปลงจาก JPY ให้เป็น USD และลงทุนเงินดอลลาร์ในสหรัฐฯ เพื่อรับดอกเบี้ย 5% ซึ่งเรียกว่าการ carry trade ซึ่งถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังการแลกเปลี่ยน เพราะสำหรับคนที่จะลงทุนเงินเยนญี่ปุ่นราคาถูก พวกเขาต้องแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อน
สิ่งที่ทำให้ USDJPY ตอบสนองต่ออัตราดอกเบี้ยคือความคาดหวังที่มีต่ออัตราการแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงไป การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยหมายถึงสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางจะทำเมื่อปรับอัตราดอกเบี้ย ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเวลาหลายปีเนื่องจากประเทศมีภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เน้นการส่งออกต้องการอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง สร้างความได้เปรียบให้กับผู้นำเข้าสินค้าญี่ปุ่นมากขึ้น
ในทางตรงกันข้าม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องเจอกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยบ่อยขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกายังสูงกว่าในญี่ปุ่น
การปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2022 เมื่อเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา
เทรดเดอร์และนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นหรือต่ำลงในระดับหนึ่ง เช่น 25 จุดเบสิส (หรือ 0.25%) หากเฟดทำตามที่ตลาดคาดการณ์ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY อาจไม่สำคัญเท่ากับว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ย 50 จุดเบสิส หรือไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ในทางกลับกัน หากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกินหรือไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตลาด ความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY จะมีความสำคัญมากขึ้น
2. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP)
3. ตัวเลขยอดค้าปลีก
กราฟ USDJPY ทางเทคนิค
USDJPY มักจะวิ่งเป็นรูปแบบไซด์เวย์ ซึ่งหมายความว่าราคาจะแกว่งไปมาอยู่กรอบราคาแคบๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาจะวิ่งเป็นเทรนด์ USDJPY มักจะมีแนวโน้มวิ่งตรงไปในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะระบุระดับราคาที่สำคัญ ซึ่งเรียกว่าระดับแนวรับและแนวต้าน
ขั้นตอนแรกสำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิคมือใหม่คือการวิเคราะห์แนวโน้มราคา USDJPY ตัวอย่างเช่น ราคาในตอนนี้กำลังวิ่งอยู่ในเทรนด์อะไร? เมื่อคุณกำหนดเทรนด์ได้แล้ว คุณสามารถเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมได้
กราฟรายวัน USDJPY ด้านล่างแสดงให้เห็นว่าการแกว่งตัวระหว่างแนวรับ 112.57 และแนวต้าน 116.32 ตามด้วยแนวโน้มขาขึ้น ที่สามารถทะลุแนวต้านเหนือระดับราคาที่ 116.32 (จุด E) ได้
กราฟ USDJPY รายวัน
เทคนิคในการเทรดในกรอบราคาแคบๆ และเทรดตามเทรนด์มีความแตกต่างกัน เทรดเดอร์บางคนชอบเทรดในกรอบ บางคนชอบเทรดตามเทรนด์ เทรดเดอร์ที่เก่งใช้เวลาหลายปีในการสร้างเสริมกลยุทธ์การเทรดเพื่อลดการขาดทุน และเพิ่มการทำกำไร ซึ่ง ATFX มีองค์ความรู้และเครื่องมือที่สามารถช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้
ตัวอย่างด้านล่างจะแสดงกลยุทธ์การซื้อขายในกรอบแบบง่ายๆ อย่างแรก เราจะเห็นว่าราคาซื้อขายในกรอบแคบๆ จากจุด 0 ในวันที่ 19 ตุลาคม และไม่มีความชัดเจนไปจนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว
จากกราฟรูปนี้ เราจะเห็นได้ว่า ณ จุด A กราฟ USDJPY ได้ลงมาสร้างจุดต่ำสุด ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนอีกครั้ง ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่จุด B หากเห็นภาพแค่นี้ นักวิเคราะห์ทั่วไปคนจะซื้อที่จุด A และซื้ออีกครั้งที่ B
เมื่อเพิ่มอินดิเคเตอร์คลาสสิกอย่าง RSI (ที่เห็นในแผงด้านล่างของกราฟ) ที่จุด G เราจะเห็นว่าเกิดสภาวะ oversold อีกครั้ง นักลงทุนที่เล่นอยู่ในกรอบ จะเข้าซื้อที่จุด B และสามารถถือออเดอร์ได้จนกว่าราคาจะสูงถึงจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ใกล้จุด C เทรดเดอร์สามารถตั้งเส้นทำกำไรเอาไว้ใกล้เส้นประ ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของกรอบราคา USDJPY
เนื่องจากเทรดเดอร์กลุ่มนี้จะไม่สนใจเทรนด์ พวกเขาจะไม่ชอร์ตที่จุด C แต่พวกเขาจะรอจนกว่าราคาจะวิ่งถึงจุด D แทน เรารู้ว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะเทขายที่จุด C ดังนั้นพวกเขาจะขายอีกครั้งเมื่อ ราคาลงมาถึงระดับเดียวกัน ในกราฟล่าง เราจะเห็นว่า RSI ที่จุด I ต่ำกว่าที่จุด H ซึ่งบ่งชี้ว่าคู่ USDJPY สามารถวิ่งลงไปได้ต่ำกว่านี้อีก
ต่อมาที่จุด E เทรดเดอร์สามารถลองชอร์ตอีกครั้ง แต่ที่นี่ผู้ค้าจะต้องขาดทุน เนื่องจากราคาทะลุระดับสูงสุดที่จุด C และ D ได้ และได้ขึ้นไปวิ่งอยู่ที่ 112.57 ถึง 116.32 เมื่อหลุดกรอบขึ้นมาแล้ว การจะกลับไปวิ่งอยู่ในกรอบเหมือนเดิมถือเป็นเรื่องยาก การวิ่งขึ้นไปต่อในเทรนด์ใหม่จึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า หากคิดจะเทรดตามเทรนด์ต่อ ต้องใช้ชุดเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่แตกต่างกัน เช่น MACD หรือรูปแบบกราฟอื่นๆ
วิธีการเทรดให้ประสบความสำเร็จ
ประวัติความเคลื่อนไหวของกราฟ USDJPY ในอดีต
กราฟราคาย้อนหลังของ USDJPY แสดงประวัติอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY ย้อนหลังไปเกือบทศวรรษ วิวัฒนาการความเคลื่อนไหวของในอดีต USDJPY ช่วยให้เทรดเดอร์ศึกษาพฤติกรรมของคู่สกุลเงินนี้ ณ ช่วงเวลาเฉพาะเจาะจงได้ นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเคยสั่นสะเทือนตลาดลงทุนมาแล้ว
ในปี 2008 การล่มสลายของตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลก วิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อปัจจัยหลักทั้งสามที่มีอิทธิพลต่อ USDJPY ที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ ประการแรก ธนาคารกลางส่วนใหญ่ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยลงสู่จุดต่ำสุด ธนาคารกลางแต่ละแห่งต้องใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในรูปแบบเฉพาะเพื่อให้เศรษฐกิจของตนกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดี ภาคการผลิตและการจ้างงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เช่นเดียวกับอำนาจการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค
หลังจากนั้น เศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ฟื้นตัวในอีกไม่กี่ปีต่อมา ก่อนจะมาเจอการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในปี 2020 ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดการเงินโลก ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การศึกษาอัตราแลกเปลี่ยน USDJPY ในช่วงเวลาเหล่านี้สามารถทำให้เทรดเดอร์ทราบว่า USDJPY มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมการวิ่งอย่างไรในการตอบสนองต่อข่าวและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัว
คุณสามารถใช้ข้อมูลในตารางด้านบนเพื่อทำความเข้าใจว่าปีใดที่การลงทุนใน USDJPY มีประสิทธิภาพดีที่สุดและแย่ที่สุด คุณยังตรวจสอบได้ด้วยว่าอัตราแลกเปลี่ยนมีรูปแบบการเคลื่อนตัวเป็นวัฏจักร ยกตัวอย่างเช่น เราจะเห็นว่า USDJPY ในปี 2012 เคยวิ่งอยู่ต่ำกว่า 80.00 ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงที่สกุลเงินเยนแข็งค่ามากที่สุด ณ ขณะนั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับวิกฤเศรษฐกิจโลกในปี 2008 โครงการ QE ของเฟดยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นภายในปี 2016 USDJPY สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาวิ่งอยู่ที่ 125.00 น. เนื่องจากโครงการ QE ของเฟดมีผลตามที่ต้องการต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และดึงดูดกระแสการลงทุนกลับเข้าสู่ประเทศได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหิน ทำให้กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบเป็นครั้งแรก ในขณะที่ญี่ปุ่นไม่มีน้ำมันดิบสำรองและเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบ ดังนั้น หลังจากที่สหรัฐฯ กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมัน เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่อ่อนค่าลง
ขาลงของราคาน้ำมันตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2020 ทำให้น้ำมันจากชั้นหินมีต้นทุนที่แพงเกินกว่าจะผลิต ปัจจัยนี้ทำให้ความได้เปรียบของดอลลาร์สหรัฐเหนือเยนลดลง ในปี 2020 ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed Reserve) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ใกล้ศูนย์หลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้ USDJPY อยู่ในช่วงของการวิ่งแบบปรับฐานเนื่องจากไม่มีความแตกต่างในอัตราดอกเบี้ยระหว่างทั้งสองประเทศ
ดังนั้น หากเทรดเดอร์ต้องการทราบว่าปัจจัยอะไรที่ผลักดันให้ USDJPY ปรับตัวขึ้นลง การหาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในอดีตและลักษณะการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้เข้าใจได้มากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนรู้ว่าควรให้ความสนใจกับจุดไหนมากยิ่งขึ้น
USDJPY Pip Value
Pip Value ของ USDJPY หมายถึงมูลค่าเงินของหน่วยที่เปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนญี่ปุ่น PIP (หรือ Percentage Interest Point) เป็นหน่วยวัดที่เล็กที่สุดของการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงิน 1 pip มีค่าเท่ากับ 0.0001 จุด
จนถึงปี 2010 การกำหนดราคาอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินส่วนใหญ่เป็นทศนิยมสี่ตำแหน่ง ในขณะที่การจับคู่เงินเยนเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง ทุกวันนี้ โบรกเกอร์กำหนดราคาคู่เงินเยนเป็นทศนิยมสามตำแหน่ง โดยทศนิยมสุดท้ายมีค่าที่ 1/10 ของ pip
เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงไปแบบจุดต่อจุด เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะแปลเป็นเงินที่ทำให้ได้กำไรหรือขาดทุนได้อย่างไร
ยิ่งคุณมีเงินในการเทรดมากเท่าไหร่ มูลค่า pip จะยิ่งสูงขึ้น สมมติว่าคุณทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคู่ USDJPY เงินลงทุนที่คุณทำในการซื้อขาย USDJPY ให้ pip value อยู่ที่ $9.80 คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกครั้งที่อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลง จะเปลี่ยนเป็น $9.80 ต่อ pip หากราคาขยับ 20 pip เทียบกับคุณ จะเป็นลบ 9.8 X 20 = $196 หากอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวต 30 pip คุณจะได้รับ 9.8 X 30 = $294
การทราบ pip value ของ USDJPY จะทำให้คุณตระหนักได้ว่าคุณอาจได้กำไรหรือขาดทุนต่อการเทรดมากน้อยเพียงใด ด้วยข้อมูลนี้ คุณสามารถปรับระดับความเสี่ยงของคุณ เพื่อให้การขาดทุนเพียงครั้งเดียวไม่ทำให้เงินทุนในการเทรดของคุณหมดลง
วิธีการคำนวณค่า Pip Value ของกราฟ USDJPY
ล็อต (lot) มาตรฐานมีมูลค่า 100,000 หน่วยของสกุลเงิน ตัวเลขนี้ได้มาจากการคูณขนาดของสัญญาด้วยจำนวนจุด ที่ประกอบเป็น pip ดังนั้น ล็อตมาตรฐานสำหรับ USDJPY = (100,000 x 0.01pips) = 1,000 JPY
มูลค่าของ pip ในหน่วย USD นั้นได้มาจากการหารมูลค่า pip ในหน่วย JPY ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับ USDJPY ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่คือ 122.06; จะเท่ากัยว่า 1,000/122.06 = 8.19 USD
ดังนั้น ล็อตมาตรฐานของคู่ USDJPY จึงมีมูลค่า 1,000 เยน หรือ 8.1926 USD
ในการรับค่า pip สำหรับ mini-lot หรือ micro-lot ให้อ้างอิงกับการคำนวณครั้งแรกโดยที่คูณขนาดของสัญญา (10,000 สำหรับ mini-lot หรือ 1,000 สำหรับ micro-lot) ด้วย 0.01 ซึ่งจะให้ 100 JPY สำหรับ mini-lot (0.81 USD) หรือ 10JPY (0.081 USD)
การคำนวณกำไรขาดทุนของกราฟ USDJPY
ตอนนี้เรารู้มูลค่าของ 1 pip ของคู่ USDJPY แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดูว่ามูลค่า pip นี้แปลเป็นกำไรหรือขาดทุนในการซื้อขายจริงได้อย่างไร
- หากเทรดเดอร์ซื้อ USDJPY ที่ 122.10 และอัตราแลกเปลี่ยนของทั้งคู่เพิ่มขึ้นเป็น 122.30 การเทรดครั้งนี้จะได้รับ 20 pips เป็นกำไรที่เทียบเท่ากับ USD คือ 20 X 8.1926 = 163.852 ดอลลาร์
- หากการเทรดในจุดเดียวกันปิดที่ 121.10 การเทรดนี้จะขาดทุน 100 pip และออเดอร์นี้จะขาดทุน 100 X 8.1926 = -$819.26
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเทรดกราฟ USDJPY
USDJPY เปิดให้เทรด24 ชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 17.00 น. EST ในวันอาทิตย์ ถึง 17.00 EST ในวันศุกร์ ปฏิทินฟอเร็กซ์ยังนับเวลาการซื้อขายนี้ด้วย เนื่องจากไม่มีกำหนดการข่าวความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ข่าวความเคลื่อนไหวของตลาดจะเข้ามากระทบกราฟในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งตลาดยังคงปิดทำการ สิ่งเหล่านี้จะสร้างช่องว่างระหว่างราคา (gap) เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์
3 ขั้นตอนลงทุนในกราฟ USDJPY ให้เหมือนกับเป็นมืออาชีพ
ส่วนนี้อธิบายวิธีแลกเทรดคู่ USDJPY ในปี 2022 การเทรดหรือการลงทุนใน USDJPY อย่างมืออาชีพสามารถทำได้โดยใช้กลยุทธ์สามขั้นตอนง่ายๆ
A. สร้างกลยุทธ์การเทรด
B. การบริหารความเสี่ยง
C. ใช้ระบบเทรดเพียงระบบเดียว
ทำไมถึงต้องเทรดกราฟ USDJPY กับ ATFX
สเปรดที่มีการแข่งขันสูง
เพลิดเพลินกับสเปรดที่แข่งขันได้ใน EURUSD และ GBPUSD
เทรดฟอเร็กซ์ได้แบบไม่มีหยุดตลอด 24/5
24 ชั่วโมงต่อวัน, 5 วันต่อสัปดาห์, ให้คุณมีความยืดหยุ่นและเวลาที่เพียงพอสำหรับการทดสอบแผนการเทรดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ long, short, หรือเฮดจ์
เทรดคู่เงินที่มีสเปรดต่ำ 44 คู่
เราช่วยเหลือเทรดเดอร์ของเราในการนำกลยุทธ์การเทรดของพวกเขามาใช้กับคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ 44 คู่ โดยมีฝ่ายบริการลูกค้าในท้องถิ่นที่พร้อมให้บริการตลอด 24/5
การเทรดแบบ STP
การเทรดแบบ Straight Through Processing (STP) จะมีการดำเนินคำสั่งเทรดที่มีคุณภาพสูงสุดและมีเวลาแฝงที่ต่ำที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
USD JPY เป็นคู่สกุลเงินที่จับคู่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับเงินเยนของญี่ปุ่น
ไม่มีคู่สกุลเงินใดที่มีค่ามากกว่าอีกคู่สกุลเงินหนึ่ง คำถามนี้พูดในเชิงเปรียบเทียบของปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน ซึ่งมีมีเพียง EURUSD และ GBPUSD เท่านั้นที่มีปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า USDJPY
คู่ EURUSD และ EURGBP มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ USDJPY แต่ความสัมพันธ์ของคู่สกุลเงินเหล่านี้ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
USDJPY มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับคู่เงินเยนส่วนใหญ่ เช่น คู่ GBPJPY และ EURJPY
USDJPY เริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 17.00 น. EST ในวันอาทิตย์ไปจนถึงวันศุกร์ เวลา 17.00 น. EST
ตัวแจ้งเตือนสัญญาณเทรด USDJPY เป็นการแจ้งเตือนที่บอกเทรดเดอร์ว่าเมื่อใดควรเข้าซื้อหรือขายบนกราฟ USDJPY พารามิเตอร์เหล่านี้มักจะถูกตั้งค่าก่อนที่จะส่งสัญญาณไปยังเทรดเดอร์
ความผันผวนของ USDJPY จะปรากฎน้อยลงในช่วงเวลาตลาดคาบเกี่ยวกันของโซนเวลาลอนดอนและนิวยอร์ก ช่วงรอยต่อระหว่างโซนเวลาเอเชียและลอนดอน ระหว่าง 21:00 GMT และโตเกียวจะเปิดเวลา 00:00 GMT เป็นเวลาที่คู่ USDJPY มีความเคลื่อนไหวน้อยที่สุด ความผันผวนจะลดลงอีกในช่วงระหว่าง 03:00 ถึง 05:00 GMT เมื่อตลาดโตเกียวปิดตัวลงและลอนดอนเริ่มเปิด นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการเทรดกับคู่ USDJPY ในช่วงเวลาเหล่านี้
จากการวิเคราะห์กราฟล่าสุดของ USDJPY พบว่ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกตลอดทั้งปี 2022 อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐทำให้ตราสารสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เงินลงทุนไหลเข้าดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เราจึงคาดว่า USDJPY จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
จุดสูงสุดของคู่สกุลเงิน USDJPY บันทึกไว้ที่ 147.67 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 1998 ในช่วงนั้นเกิดวิกฤตการธนาคารของญี่ปุ่น
ในการคำนวณขนาดออเดอร์ USDJPY คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ควรลงทุนเกิน 3% ของเงินทุนในบัญชีซื้อขายทั้งหมดของคุณ คุณต้องทราบมูลค่า pip ของ USDJPY สำหรับออเดอร์ของคุณ จุดตัดขาดทุน และเลเวอเรจจากโบรกเกอร์ สมมติว่าเงินทุนของคุณคือ 5,000 ดอลลาร์ คุณควรตั้งเป้าที่จะเสี่ยงไม่เกิน 3% ของเงินจำนวนนี้ ซึ่งก็คือ 150 ดอลลาร์ เลเวอเรจ 1:30 เป็นมาตรฐานการลงทุนกับกราฟคู่EUR/GBP ซึ่งหมายความว่าทุกๆ 30 ดอลลาร์ที่ คุณจะต้องจ่าย 1 ดอลลาร์เป็นหลักประกันมาร์จิ้น หากคุณวางเงินทั้งหมด 150 ดอลลาร์เป็นหลักประกันมาร์จิ้น คุณจะได้รับสามสิบเท่าของจำนวนนี้เป็นกำลังซื้อ ซึ่งก็คือ 150 X 30 = $4500
มินิล็อตของ USDJPY คือ 10,000 หน่วยของสกุลเงิน 10,000 หน่วยหารด้วย 4500 = 2.22 ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถซื้อ 2.22 mini-lots ด้วยเงิน $150 (3% ของบัญชีของคุณ) ในเวลาเดียวกัน pip value ของ 2.22 mini lot คือ:
– 0.81926 (ดูการคำนวณภายใต้ pip value USD JPY) X 2.22 = 1.8188 USD
– ดังนั้น Stop Loss สูงสุดที่คุณสามารถตั้งค่าได้สำหรับตำแหน่งคือ 150/1.8188 = 81.47 pips
ดังนั้นขนาดออเดอร์สำหรับบัญชี $5000 ใน USDJPY ไม่ควรเกิน 2.22 มินิล็อต (0.22 ล็อต) โดยมีจุดขาดทุนที่ 82 pips นี่เป็นขนาดออเดอร์สูงสุดและจุดตัดขาดทุนที่ยอมรับได้ ซึ่งไม่ละเมิดหลักการบริหารความเสี่ยง แน่นอน คุณมีอิสระที่จะลดจำนวนลงเพื่อให้คุณได้รับการปกป้องมากขึ้น
ตลาดฟอเร็กซ์เปิดให้ซื้อขายเวลา 17.00 น. EST ในเย็นวันอาทิตย์ และปิดสำหรับการซื้อขายเวลา 17.00 น.EST ในวันศุกร์
กราฟความผันผวนของ USDJPY ได้แสดงให้เห็นว่าเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดกราฟ USDJPY
คือระหว่าง 12.00 ถึง 15.00 GMT ซึ่งเป็นเวลาตลาดลอนดอนและนิวยอร์กคาบเกี่ยวกัน
USDJPY และทองคำมีความสัมพันธ์เชิงลบ และมักจะวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามเสมอ แต่ก็มีกรณียกเว้นเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีความผิดปกติ อย่างเช่นตอนนี้ คุณอาจจะเห็นกราฟ USDJPY วิ่งไปในทิศทางเดียวกันกับราคาทองคำ เพราะทั้งสองมีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ตอนนี้คุณจึงเห็นกราฟทั้งสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
- USD JPY Live Chart
- ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ USDJPY
- กราฟ USDJPY ทางเทคนิค
- ประวัติความเคลื่อนไหวของกราฟ USDJPY ในอดีต
- USDJPY Pip Value
- การคำนวณกำไรขาดทุนของกราฟ USDJPY
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเทรดกราฟ USDJPY
- 3 ขั้นตอนลงทุนในกราฟ USDJPY ให้เหมือนกับเป็นมืออาชีพ
- ทำไมถึงต้องเทรดกราฟ USDJPY กับ ATFX
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)